ฮันท์ลีย์จัดทริปวันหยุดให้ทุกคน
พวกเขาทั้งสี่คนจึงไปเที่ยวที่ภูเขาไพรด์
ตอนแรกพวกเขาจะชวนเฮกเตอร์ไปด้วย แต่เฮกเตอร์รู้สึกว่าเขาเป็นส่วนเกินของทั้งสองคู่ เขาจึงไม่ไปด้วย
พวกเราไม่ได้ใช้กระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา บอยล์กับฮันท์ลีย์ปีนเขาได้สบายมาก เพราะพวกเขาออกไปทำงานบ่อย ๆ แต่เชอรีชกับวิทนีย์นั้นกลับตรงกันข้าม พวกเธอต้องหยุดพักหายใจ
วิทนีย์เท้าสะเอวตอนที่เรียกพวกเขาจากข้างหลัง "นี่ พวกคุณช่วยช้าลงหรือรอพวกเราหน่อยได้ไหม?"
ฮันท์ลีย์หันมาหัวเราะใส่พวกเธอ ตอนที่พวกเขายืนอยู่ตรงบันได "ผมแนะนำให้ใช้รถกระเช้าไฟฟ้าขึ้นมาบนยอดเขา ตอนที่อยู่ข้างล่างนั่น เพราะห่วงว่าคุณสองคนจะไม่แข็งแรงพอที่จะปีนขึ้นมา ใครเป็นคนปฏิเสธผมกันล่ะ?"
วิทนีย์เม้มปาก "ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าการปีนขึ้นมาบนเนินเขาเล็ก ๆ นี่จะเหนื่อยขนาดนี้! ภูเขาลูกนี้ก็ไม่ได้สูงซะหน่อย!"
ฮันท์ลีย์ไม่รู้จะทำยังไง เขาจึงเดินไปหาเธอ "มาเถอะเจ้าหญิง ผมจะช่วยพาคุณขึ้นไป"
วิทนีย์กลอกตา "ดูเหมือนว่าคุณจะยังมีหัวใจอยู่นะ"
บอยล์มองเชอรีชที่หน้าแดง เขานั่งลงแล้วแตะที่ไหล่ของเขา "ขึ้นมาสิ ผมจะแบกคุณเอง"
"...คุณคงเหนื่อยแล้ว ฉันเดินไปต่อได้"
" ไม่ต้องพูดเลย ถ้าคุณเหนื่อยจนเป็นลมไป ผมก็ต้องอุ้มคุณอยู่ดี"
เชอรีชหน้าแดงเพราะคำพูดของเขา แม้ว่าเธอรู้สึกอายแต่เธอก็ไม่อยากปีนขึ้นไปต่อ ตอนนี้เธอเหนื่อยมาก...
มีคนหน้าไม่อายขึ้นขี่หลังบอยล์
วิทนีย์ที่ถูกฮันท์ลีย์นำหน้าไป หันมามองบอยล์กับเชอรีชที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เธอรู้สึกอิจฉาพวกเขาขึ้นมาทันที
"ให้ตายสิ! ฮันท์ลีย์ คุณต้องเรียนรู้จากบอยล์ไว้นะ! ดูสิว่าเขาดีกับแฟนแค่ไหน เขากำลังแบกเธออยู่ล่ะ!"
ฮันท์ลีย์ไม่ยอม เขาแตะที่ไหล่ของเขาแล้วบอกเธอ "ขึ้นมาสิเจ้าหญิง ให้ผมแบกคุณด้วย ทำเหมือนว่าผมแบกคุณไม่ได้งั้นแหละ!"
วิทนีย์มองเขาก่อนจะพูด "คุณควรขอบคุณฉันนะ ไม่เป็นไร ไม่ต้องการให้คุณมาแบกฉันหรอก!"
ฮีนท์ลีย์กับวิทนีย์ปีนนำขึ้นไปและเถียงกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีแรงล้นเหลือ
เชอรีชซบลงบนต้นคอของบอยล์ และกอดคอเขา "บอยล์ ถ้าคุณเหนื่อย วางฉันลงและให้ฉันเดินไปเองก็ได้นะ"
เขาตอบเสียงเรียบและหนักแน่น "ผมไม่ได้อ่อนแอเหมือนที่คุณคิดหรอกนะ"
เชอรีชรู้ว่าร่างกายของเขาแข็งแรงแค่ไหน โดยเฉพาะตอนที่เขาเล่นกีฬาพิเศษกับเธอ เขายังทำต่อได้แม้ว่าเธอจะเหนื่อยแล้ว
เนื่องจากบอยล์แบกของหนัก เหงื่อของเขาเปียกโชกตอนที่เกือบจะถึงยอดเขา เชอรีชหยิบทิชชู่ออกมาจากกระเป๋า แล้วเช็ดเหงื่อให้เขา
"ขึ้นกระเช้าไฟฟ้าตอนลงไปกันเถอะ ฉันทนแบบนี้อีกไม่ไหวแล้ว"
บอยล์ดันตัวเธอขึ้นมาก่อนจะตอบ "ได้สิ"
บอยล์วางเชอรีชลง หลังจากพวกเขามาถึงวัดบนยอดเขา
ทั้งสองคู่มีความสุขกับทิวทัศน์ที่สวยงามบนยอดเขา ชายหนุ่มสองคนถ่ายรูปให้ผู้หญิงของพวกเขาหลายรูป
วิทนีย์เรียกพวกเขา "บอยล์ เชอรีช ยืนใกล้กันหน่อย ให้ฉันถ่ายรูปให้นะ"
บอยล์กับเชอรีชยืนอยู่ใต้ต้นไม้ มีทิวทัศน์ที่สวยงามเป็นฉากหลังของพวกเขา
"เร็วเข้า ใกล้กันอีกหน่อย บอยล์ คุณกอดเชอรีชหน่อยสิ"
บอยล์ทำตาม เขากอดเชอรีช ส่วนเด็กน้อยซบอกและกอดเอวเขา
'แชะ แชะ'
วิทนีย์ถ่ายรูปมาหลายรูป "ฝีมือถ่ายรูปของฉันนั้นไร้ที่ติ ฉันจะปริ้นท์รูปออกมาให้นะ"
เชอรีชวิ่งมาหาเธอ "ให้ฉันดูหน่อย"
วิทนีย์ถาม "ฝีมือถ่ายรูปของฉันดีใช่ไหมล่ะ?"
"อ้อ งั้นฉันก็ไม่บอกคุณหรอก ว่าฉันอธิษฐานอะไร"
เชอรีชหลับตาและพนมมือ เธอเริ่มอธิษฐาน
เธออธิษฐานในใจ 'ขอให้ได้อยู่กับบอยล์ไปตลอดชีวิตด้วยเถิด'
พวกเขาจับมือกันออกมาจากวัดหลังจากอธิษฐานเสร็จแล้ว พวกเขาไปเจอพระกำลังกวาดลานวัดอยู่
พระถือไม้กวาดแล้วหันมามอง และโค้งคำนับให้พวกเขา "โยมสองคนช่วยหยุดก่อนนะ"
บอยล์กับเชอรีชตกใจ พวกเขาหันมามองพระ
เชอรีชถาม "มีอะไรหรือเปล่าคะ?"
พระอ่านใบหน้าของบอยแล้วพูดกับเชอรีช "คุณหนู ดวงตาของโยมนั้นบริสุทธิ์ โยมคงเป็นคนรวย ชีวิตของโยมนั้นมีแต่ความสะดวกสบาย และโยมก็อายุยืนเหมือนนกฟีนิกซ์ แต่ชีวิตโยมเป็นปรปักษ์กับผู้ชายคนนี้ เกรงว่าชีวิตของเขาจะทำร้ายโยม อาจทำให้ชีวิตโยมตกอยู่ในอันตราย ถ้าคบกันจริงจัง"
เชอรีชหน้าซีดทันที เธอมองพระก่อนจะพูด "หยุดพูดไร้สาระนะ! ถึงจะเป็นพระ ก็ไม่ควรพูดไร้สาระแบบนี้!"
พระบอกเธอ "คุณหนู กลับตัวเถอะก่อนจะสายเกินไป ชีวิตของผู้ชายคนนี้มีแต่ความเจ็บปวด ถึงเขาจะเป็นคนแข็งแรง เขาถูกลิขิตให้เป็นคนร่ำรวย แต่ชีวิตของเขามีแต่ความเจ็บปวด ชีวิตของเขาขัดแย้งกับพ่อของเขาและภรรยา มันจะดีที่สุดสำหรับเขาที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับความมั่งคั่ง แต่ชีวิตของเขาถูกสาป เขาจะไม่ได้อยู่กับคนที่เขารัก"
สายตาของบอยล์เย็นชาและดุร้าย
พระที่กำลังกวาดพื้นอยู่ตัวสั่น เมื่อเห็นสายตาของบอยล์ เขาบอกเชอรีช "คุณหนู แฟนโยมเป็นคนลึกลับ โยมควรทิ้งเขาให้เร็วที่สุดเพื่อจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด"
เชอรีชโกรธมาก เธอวางมือไว้ข้างหน้าบอยล์ เธอปกป้องเขาแล้วเงยหน้าขึ้นมาโต้กลับพระ "ไร้สาระ บอยล์จะไม่มีวันทำร้ายฉัน! ฉันเชื่อว่าท่านไม่ได้ศึกษาคัมภีร์มามากพอ ถึงได้มากวาดลานวัดไงล่ะ! ที่ท่านพูดมานั้นไม่เห็นจะแม่นเลย!"
"ความรักของเขาเหมือนถูกคลื่นยักษ์ครอบงำ เมื่อเขายิ่งเย็นชามากขึ้น เขาจะทำร้ายโยมอย่างรุนแรง"
เชอรีชจ้องพระแล้วต่อว่า "ท่านพูดไร้สาระเกินไปแล้ว!"
เชอรีชจับมือบอยล์แล้วบอกเขา "อย่าไปฟังเรื่องไร้สาระเลย บอยล์ ไปกันเถอะ!"
ตอนที่บอยล์กับเชอรีชกำลังจะจากไป พวกเขายังคงได้ยินพระถอนหายใจแล้วพูด "ยิ่งลุ่มหลงยิ่งทำร้ายโยม ทิ้งเขาไปเถอะตอนที่โยมยังทำได้!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน