พวกเขาใช้กระเช้าไฟฟ้าลงมาจากภูเขา
วิทนีย์กับฮันท์ลีย์เถียงกันเล่นในกระเช้าไฟฟ้า ส่วนเชอรีชกับบอยล์อารมณ์ไม่ค่อยดี พวกเขาเงียบมาตลอดทาง
พวกเขากลับมาที่คอนโดกรีนทาวน์หลังจากไปเที่ยวกันมาทั้งวัน ทันทีที่เชอรีชผ่านประตูเข้ามา เธอก็กอดบอยล์จากข้างหลัง
บอยล์ตกใจ เขาก้มลงมองมือเล็กที่กอดเอวเขา ก่อนจะกุมมือเธอแล้วถาม "เป็นอะไรไป?"
หญิงสาวแอบมองใบหน้าอันหล่อเหลาที่ดูทุกข์ใจ แล้วถามเขา "คุณยังโกรธที่พระพูดแบบนั้นอยู่หรือเปล่า?"
"เปล่า"
เชอรีชพูดด้วยความโมโห "เขาไม่ได้เป็นพระอาจารย์หรืออะไรสักหน่อย ที่เขาพูดมานั้นมันไร้สาระ ตอนนี้มันยุคไหนแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าจะยังมีคนพูดแบบนี้อยู่อีก"
"ใช่ ผมก็ไม่เชื่อเขาเหมือนกัน" บอยล์หันมาดึงมือเธอขึ้นมาทาบอก ก่อนจะกอดเธอแน่น
"บอยล์ ฉันจะบอกพ่อแม่เรื่องของเรา หลังจากที่เราคบกันนานกว่านี้นะ?"
บอยล์ถามเธอ "ผมคิดว่าตอนนี้พ่อแม่ของคุณ ยังไม่ให้คบใครนะ?"
เชอรีชคิดแล้วตอบ "ที่พวกเขาบอกมันก็จริง ฉันจะบอกหลังจากผ่านไปสักพัก แย่ที่สุดก็แค่โดนบ่น พ่อแม่รักฉันมาก พวกท่านห้ามเราไม่ได้หรอก"
บอยล์หัวเราะเบา ๆ "คุณจะยอมแพ้หรือเปล่าถ้าพวกท่านคัดค้านเรา?"
เชอรีชเงยหน้าขึ้นแล้วตอบ "ถ้าเราถูกคัดค้าน ฉันก็จะบอกว่าฉันเข้าใจที่พวกท่านเป็นห่วง ยังไงฉันก็จะแอบคบกับคุณอยู่ดี พวกท่านทำอะไรไม่ได้หรอก ถ้าคัดค้านเรามากขึ้นอีก ฉันจะไปหาคุณปู่ ฉันก็แค่ทำหน้าเศร้าเดี๋ยวคุณปู่ก็คุยกับฉันเอง พ่อแม่ห้ามฉันไม่ได้หรอกถ้าคุณปู่มาช่วย"
บอยล์ยกมือขึ้นลูบศีรษะเธอ "ฉลาดนักนะเมื่อต้องรับมือกับพ่อแม่ เชอรีช"
"แน่อยู่แล้ว" เธอเชิดหน้าด้วยความภูมิใจ
เธอกอดเอวเขาแน่น "คุณยอมทิ้งโอกาสที่จะไปเรียนที่อเมริกาเพื่อฉัน ฉันไม่หักหลังความรู้สึกคุณหรอก บอยล์"
บอยล์มองดวงตาที่ดำขลับก่อนจะเอาผมที่ยุ่งทัดหูเธอ "ผมกลัวว่าวันนึงผมจะทำร้ายคุณขึ้นมาจริง ๆ เหมือนที่พระบอก"
เขาจะไม่มีวันให้อภัยตัวเอง ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น
ถ้าเขาเป็นคนทำร้ายเธอ เขาคงไม่สามารถทนได้เมื่อคิดแบบนั้น
เชอรีชยิ้มให้เขา "ฉันรู้ว่าคุณรักและจะไม่มีวันทำร้ายฉัน"
บอยล์ก้มลงจูบหน้าผากเธอ
วันคริสมาต์มาถึงอย่างรวดเร็ว
หิมะสีขาวโปรยลงมาจากท้องฟ้าในเมืองหลวง
เชอรีชไม่มีคาบเรียนในตอนบ่าย เธอจึงเล่นหิมะตรงหน้าต่างที่คอนโดกรีนทาวน์
บอยล์รับคดีมาเมื่อสามวันก่อน เขาต้องไปเอาเอกสารจากลูกค้าที่เมืองเอส เขายังไม่กลับมาจากทำงานเลย
บอยล์ทำอาหารไว้หลายอย่าง และเก็บไว้ในตู้เย็นก่อนที่เขาจะไป เชอรีชแค่อุ่นอาหารในไมโครเวฟเมื่อถึงเวลากิน
แต่เธอก็ทำพาสต้าเอง
เพราะพาสต้านั้นทำง่าย จึงมีคนเติมน้ำมากเกินไป ทำให้เส้นพาสต้าแฉะ หรือถ้าเติมน้าน้อยเกินไปก็ทำให้เส้นแข็ง
เธอหงุดหงิดมาก และรู้สึกว่าเป็นคนไร้ประโยชน์
แต่เธอก็ไม่ยอมแพ้หลังจากที่ล้มเหลวมาหลายครั้ง ในที่สุดเธอก็ทำได้สำเร็จด้วยปริมาณน้ำที่เหมาะสม กลายเป็นพาสต้าที่สมบูรณ์แบบ
ดูเหมือนว่าบอยล์จะยุ่งมาก เขาตอบกลับมาหลังจากผ่านไปสองถึงสามชั่วโมง "โอ้ ตอนนี้เชอรีสโตแล้วสินะ คุณทำพาสต้าเป็นแล้ว"
เชอรีชพูดไม่ออก
หิมะข้างนอกตกหนักขึ้น เธอเพิ่งทานอาหารเย็นเสร็จและออกไปปั้นตุ๊กตาหิมะข้างนอก
เพราะเป็นวันคริสมาสต์ ข้างนอกจึงมีไฟรูปซานตาคลอสสว่างไสว
เธออยากชวนวิทนีย์มาฉลองคริสมาสต์ด้วย แต่วิทนีย์ฉลองคริสต์มาสต์กับฮันท์ลีย์ จึงไม่สนใจเพื่อนสนิทเลย
เธอรู้สึกโดดเดี่ยว
พวกเขาไปดูหนัง กินข้าว และเล่นหิมะด้วยกัน
บอยล์ไม่คิดว่าเด็กน้อยจะมีเซอร์ไพรส์ให้เขา เมื่อพวกเขากลับมาถึงบ้าน
บอยล์เลิกคิ้ว เขามองเธอด้วยความสงสัย "จะให้อะไรผมเหรอ?"
มีคนซ่อนถุงพลาสติกไว้ข้างหลังและบอกเขา "คุณต้องสัญญากับฉันว่าจะไม่หัวเราะฉัน หรือไม่ชอบของขวัญชิ้นนี้"
"ได้สิ ทำไมต้องหัวเราะของขวัญที่คุณให้ผมด้วยล่ะ?"
เชอรีชยื่นถุงพลาสติกให้เขา
เขาเห็นผ้าพันคอสีเบจเมื่อเขาแกะถุงพลาสติกออก
เขอรีชมองเขาด้วยความตื่นเต้น "ฉันถักผ้าพันคอเองเลยนะ ใช้เวลาเกือบสองเดือนแน่ะ คุณห้ามไม่ชอบมันนะ"
เธอเล่นเปียโนคล่อง แต่ตอนถักผ้าพันคอดูจะซุ่มซ่าม เธอทำผิดหลายครั้ง เธอต้องแก้ไขใหม่และพยายามทำอีก มันค่อนข้างเป็นงานใหญ่สำหรับเธอ
ส่วนที่ยากที่สุดก็คือไม่ให้บอยล์รู้เรื่องนี้ ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องยาก บางครั้งเธอต้องแอบเอาไปทำในห้องเรียน
ตอนที่บอยล์รับผ้าพันคอมา เขามองเธอด้วยสายตาอบอุ่นและอ่อนโยนก่อนจะบอกเธอ "ในเมื่อคุณเป็นคนทำเอง คุณต้องให้เกียรติด้วยการพันผ้าพันคอให้ผม"
เชอรีชหยิบผ้าพันคอมา เธอเขย่งเท้าและบอกเขาให้ก้มศีรษะลง "ก้มหัวลงมาหน่อย"
บอยล์ก้มตัวลงแล้วให้เธอพันผ้าพันคอให้เขา
ฤดูหนาวนี้ทำให้หัวใจของบอยล์ละลาย
ดูเหมือนว่าไม่มีวันคริสต์มาสไหน ทำให้ใจเขาละลายเหมือนคริสต์มาสนี้
ผ้าพันคอที่เธอถักนั้นหยาบมาก ยังมีอีกหลายจุดที่เธอลืมถัก
แต่บอยล์ก็ไม่กล้าที่จะไม่ใส่ผ้าพันคอผืนนั้น เพราะมันมีค่ามากสำหรับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน