ตอนเที่ยงคืน เชอรีชตื่นขึ้นจากสายเรียกเข้าจากวิทนีย์ที่ดังอย่างต่อเนื่อง
เมื่อเธอรับสาย เสียงที่เกี้ยวกราดของวิทนีย์ก็ทะลุเข้ามาในหูของเธอ “เชอ! บอยล์ของเธอเป็นข่าวอีกแล้ว!”
เชอรีชขยี้ตาของเธอ แล้วถามว่า “เขาชนะคดีอีกแล้วเหรอ?”
"ไม่! เขาถูกพ่อชั่ว ๆ ของเขาใส่ร้าย และกลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียล! พ่อสารเลวของเขาเป็นพวกสองหน้าไร้ยางอาย!”
เชอรีชสงสัยกับตัวเอง 'พ่อสารเลวงั้นเหรอ?'
จากนั้นเชอรีชก็นึกถึงเรื่องที่บอยล์เคยบอกเธอว่า พ่อของเขาเป็นคนลักพาตัวซึ่งถูกจับ และถูกตัดสินจำคุก
“ตอนนี้พ่อของเขาไม่ได้อยู่ในคุกงั้นเหรอ?”
วิทนีย์อุทาน “เขาเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาจากคุก และทำเรื่องวุ่นวายครั้งใหญ่ในเวลาอันสั้น!”
“ฉันจะคุยกับเธอทีหลัง ขอฉันดูข่าวหน่อย”
หลังจากวางสาย เธอก็รีบเปิดดูผลการค้นหาที่เป็นที่นิยมบนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว และเห็นวิดีโอที่กำลังเป็นไวรัลอยู่
ชายวัยกลางคนกำลังถือลำโพงอยู่ด้านนอกสำนักงานกฎหมายเอิร์นเนส และวิพากษ์วิจารณ์บอยล์ที่ไม่กตัญญูต่อพ่อแม่ของเขา
ขณะที่เชอรีชกำลังดูวิดีโอ เธอก็รู้สึกว่าเธอจำพ่อของบอยล์ได้ ดูเหมือนว่าเธอจะเคยเห็นเขาจากที่ไหนสักแห่ง แต่เธอจำไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้สนใจมันมาก เธอสนใจแต่เพียงว่าบอยล์ถูกพ่อของเขาใส่ร้าย
วิดีโอถูกแชร์ไปกว่าห้าสิบล้านครั้ง และมีคนกดไลค์กว่า 11 ล้านคน มีความคิดเห็นกว่าเจ็ดสิบล้านคอมเมนต์ในวิดีโอนี้ ในคอมเมนต์ พวกนักเลงคีย์บอร์ดที่ไม่รู้ความจริงกำลังใส่ร้ายบอยล์
คอมเมนต์ที่น่าเกลียด
ในไม่ช้า ชาวเน็ตบางคนก็ได้แสดงความคิดเห็นที่รุนแรงเกี่ยวกับบอยล์บนเว็บไซต์ทางการของสำนักงานกฏหมายเอิร์นเนส โดยวิพากษ์วิจารณ์บริษัทที่จ้างทนายความที่ไม่มีศีลธรรมอย่างนี้
คอมเมนต์แพร่ไปราวกับไฟป่า และชาวเน็ตก็โกรธจัด ไม่มีใครสนใจที่จะหาความจริง
เชอรีชโทรหาบอยล์ทันที
สักพักก็โทรติด
“บอยล์…” เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เถียงกับตัวเองว่าเธอควรจะพูดออกมาหรือไม่
บอยล์ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “มีอะไรหรือเปล่า?”
เชอรีชรู้ดีว่าคนที่มีศักดิ์ศรีอย่างเขาไม่ชอบที่จะบอกปัญหาของเขาเองกับคนอื่น เพื่อขอความเห็นใจ
เนื่องจากเขาไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเธอ เธอก็จะไม่พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
เชอรีชส่ายหัว "ไม่มีอะไร ก็แค่ฉันส่งข้อความหาคุณเมื่อสองสามวันก่อน แต่คุณยังไม่ตอบฉันเลย”
น้ำเสียงเฉยเมยของบอยล์เหมือนตามปกติ “ช่วงนี้ผมยุ่งมาก และอาจจะไม่ได้ตอบกลับคุณ”
“โอเค ไม่เป็นไร” เธอตอบ ในขณะที่เธอกลั้นน้ำตา
เธออยากจะบอกเขาว่าอย่าไปสนใจพวกคอมเมนต์มุ่งร้ายบนอินเทอร์เน็ต เพราะพวกเขาไม่รู้จักเขาดีพอ
ทว่ามีเพียงความเงียบระหว่างพวกเขา
เธอรู้ว่าบอยล์ที่เธอตกหลุมรักมีจิตใจที่เข้มแข็ง และไม่ต้องการให้ใครสงสารเขา
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรทางโทรศัพท์ แต่พวกเขาก็ไม่วางสายเช่นกัน
เสียงทุ้มของบอยล์ดังขึ้นผ่านทางโทรศัพท์หลังจากนั้นครู่หนึ่ง “รีช”
"คะ? ฉันอยู่นี่"
บอยล์ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง และพูดว่า “สุขสันต์วันส่งท้ายปีเก่า”
วันนี้เป็นวันส่งท้ายปีเก่า
เชอรีชยิ้มหวาน และทำตัวเป็นธรรมชาติ และผ่อนคลายต่อหน้าเขา “บอยล์ คุณต้องมีความสุขด้วยเช่นกัน ไม่เพียงแต่ช่วงวันส่งท้ายปีเก่าเท่านั้น แต่คุณต้องมีความสุขทุกวันตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”
ผ่านไปสักพัก เขาก็พูดว่า “ก็ได้”
บอยล์ยิ้มบาง ๆ
เชอรีชไม่สามารถเก็บอารมณ์ของเธอได้อีกต่อไป และหลั่งน้ำตาอย่างเงียบ ๆ ใต้ผ้าห่ม ในขณะที่เธอสะอื้นผ่านทางโทรศัพท์ บอยล์ก็ได้ยิน
“รีช?”
"ฉันไม่เป็นไร ฉันแค่คิดถึงคุณมาก”
เธอสามารถจินตนาการได้ว่า เขาเหงาแค่ไหนที่ต้องอยู่ตามลำพังในเมืองหลวงในวันส่งท้ายปีเก่า นอกจากนั้น เขายังต้องทนการพูดให้ร้ายเขาอีกด้วย
บอยล์ตอบ “ผมก็คิดถึงคุณเหมือนกัน”
ก่อนที่เธอจะวางสาย เธอปลอบเขาว่า “บอยล์ แม้ว่าโลกทั้งใบจะต่อต้านคุณ ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ”
คำพูดของเธอทำให้หัวใจของเขาอบอุ่นอย่างมาก
แต่เขาจะยอมปล่อยให้เธอต่อต้านคนทั้งโลกได้อย่างไร?
เขาควรจะทนรับผลที่ตามมาด้วยตัวเอง
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน