ในวันที่สามของปีใหม่ ฮีลตันบินไปที่เมืองหลวง
บอยล์ตกใจเมื่อได้รับโทรศัพท์จากหมายเลขที่ไม่รู้จัก
คนคนนั้นเย็นชา สุภาพ และหล่อเหลา หน้าตาของเขามีความคล้ายคลึงกับของเชอรีช
ชายผู้นี้มีออร่าของคนที่มีตำแหน่งสูงส่ง ด้วยท่าทางของเขาที่สง่างาม และความหนักแน่นของเขา
เปรียบเทียบกับบอยล์ ลอว์สัน เขาดูเด็กนิดหน่อย และยังไม่เป็นผู้ใหญ่ ซึ่งพิสูจน์ได้จากอายุ และประสบการณ์ชีวิตของเขา
ทั้งสองคนนั่งริมหน้าต่าง
ฮีลตันไม่เคยชอบพูดจาอ้อมค้อม ดังนั้นเขาจึงพูดเข้าประเด็นเลย “ฉันเป็นพ่อของเชอรีช ฮีลตัน ยินดีที่ได้รู้จัก"
"ยินดีที่ได้รู้จักคุณเช่นกันครับ"
“ฉันรู้ว่านายกำลังคบกับลูกสาวของฉัน ฉันรู้ว่าฉันไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเชอรีช แต่นายเป็นลูกชายของแฮนสัน สาวน้อยที่ถูกแฮนสันลักพาตัวไปเมื่อแปดปีก่อนคือลูกสาวของฉัน”
ดวงตาของบอยล์กระตุก เขาตกใจ… ไม่เชื่อ… อารมณ์ที่ซับซ้อนทุกอย่างครอบงำเขาในทันที คำพูดติดอยู่ในลำคอของเขา และเขาไม่สามารถพูดอะไร
มันเรื่องอะไรกันนี่
ฮีลตันพิจารณาเขาแล้วพูดต่อ “ดูเหมือนว่านายจะไม่รู้เรื่องนี้”
ลำคอของเขากระตุก ผ่านไปสักพักเขาก็ถาม “คุณ.. ฟัดด์ คุณอยากให้ผมเลิกกับลูกสาวของคุณใช่ไหม?”
แม้ว่าฮีลตันจะมีความเด็ดเดี่ยว และไร้ความปราณีในที่ทำงาน แต่เขาก็ไม่สามารถควบคุมเรื่องนี้ได้ ท้ายที่สุด บอยล์ก็ไม่ได้ทำอะไรผิด
"ใช่"
บอยล์ลดสายตาลงและขมวดคิ้ว “เธอรู้ไหมว่าคนที่ลักพาตัวเธอคือพ่อของผม?”
“เธอไม่รู้เรื่องนี้ และฉันก็ไม่คิดจะบอกเธอเหมือนกัน นั่นคือเหตุผลที่ฉันมาที่นี่ หวังว่านายจะยุติความสัมพันธ์นี้ ฉันแน่ใจว่านายรู้นิสัยของเธอ ถ้าฉันแนะนำให้เธอตัดสัมพันธ์กับนาย เธอก็จะไม่ฟังฉัน เธอจะแสร้งทำเป็นฟังคำพูดของฉัน และยังคงติดต่อกับนายลับหลังพวกเรา”
บอยล์จินตนาการถึงพฤติกรรมที่ดื้อรั้นของเธอ ตอนที่เธอไม่เชื่อฟังพ่อแม่ของเธอ เขายิ้ม และพูดว่า “ใช่ เธอจะทำ”
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮีลตันได้พบ และพูดคุยกับบอยล์ เมื่อพิจารณาจากสีหน้าของบอยล์เมื่อเขาพูดถึงเจลลี่ บีน ฮีลตันก็รู้สึกได้ชัดเจนว่าความรู้สึกของเขาที่มีต่อเจลลี่ บีน นั้นจริงจัง
แต่ความเข้าใจของเขา ยิ่งทำให้เขารู้สึกผิดต่อบอยล์มากขึ้น
ฮีลตันเม้มริมฝีปากและพูดว่า “ฉันขอโทษ นายไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ฉันไม่สามารถอนุญาตให้ลูกสาวของฉันอยู่กับลูกชายของคนที่อันตรายแบบนั้นได้”
บอยล์ไม่โกรธ และสงบอย่างน่าประหลาดใจ เขาหายใจเข้าลึก ๆ และตอบว่า “ผมรู้ และผมเข้าใจคุณ ถ้าผมรู้ว่าเธอเป็นเด็กหญิงที่พ่อของผมลักพาตัวไปเมื่อแปดปีก่อน ผมจะไม่ตกลงคบกับเธอตั้งแต่แรก”
อนาคตของเขาเป็นนรกแห่งความสิ้นหวัง ในขณะที่เธอเป็นแสงสว่างที่แผ่รังสีอันอบอุ่น และพลังบวกไปรอบ ๆ เธอควรจะมีชีวิตที่มีความสุขของเธอ และไม่ควรตกลงไปในขุมนรกกับเขา
ไม่เป็นไร ถ้าเขาต้องเข้าไปพัวพันกับแฮนสัน แต่เขาจะไม่ยอมให้แฮนสันเข้าไปพัวพันกับเชอรีชอย่างแน่นอน
“ดังนั้น ฉันหวังว่านายจะตัดสัมพันธ์กับเธอทั้งหมด ในฐานะพ่อของเธอ ฉันหวังว่านายจะทำได้”
มือของบอยล์บนตักของเขาเย็นเฉียบ “ผมต้องการเวลาอีกหน่อย”
ฮีลตันพยักหน้าเห็นด้วย “ฉันไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณใคร ฉันรู้ว่าความขัดแย้งของนายกับพ่อของนายกำลังเป็นไวรัลอยู่บนอินเทอร์เน็ต ฉันสามารถแก้ปัญหาให้นายได้”
บอยล์เป็นคนมีศักดิ์ศรี เขาเงยหน้าขึ้น และมองไปที่ฮีลตัน ดวงตาของเขานิ่งสงบ และเย็นชา “ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง คุณฟัดด์ เนื่องจากผมตกลงที่จะเลิกกับเชอรีช โปรดให้เกียรติผมด้วย”
ฮีลตันตกตะลึงไปชั่วขณะกับคำพูดของเขา ร่องรอยของความชื่นชมประกายไปทั่วดวงตาของเขา
น่าแปลกที่บอยล์ไม่ได้ใช้การเลิกราเป็นเงื่อนไขในการรับค่าชดเชย หรือขออะไรจากเขา ก่อนที่จะพบกับบอยล์ ฮีลตันคิดว่าไม่ว่าเขาจะมีศักดิ์ศรีและทะนงตัวแค่ไหน บอยล์ก็ไม่สามารถต้านทานสิ่งล่อใจเช่นนี้ได้ เพราะเขามาจากครอบครัวที่ยากจน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน