เชอรีชหันกลับมา และมองไปที่นาตาลีที่เดินเข้ามาหาเธอจากทางด้านหลัง
"เธอต้องการอะไร?"
นาตาลียืนต่อหน้าเธอ และถาม “ทำไมเมื่อกี้นี้เธอถึงเมินฉัน?”
เชอรีชหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "ทำไมฉันต้องไปคุยกับคนที่เคยทำร้ายฉันด้วยล่ะ?"
สีหน้าของนาตาลีซีด ขณะที่เธอพูดว่า "ฉันไม่ได้ตั้งใจให้มันเกิดเรื่องแบบนั้นในตอนนั้น เธอทุบโทรศัพท์ของฉัน ฉันเลย..."
เชอรีชไม่มีอารมณ์จะฟังข้อแก้ตัวของเธอ เนื่องจากเธอคิดว่าข้อแก้ตัวนั้นมันน่ารำคาญ ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรีบพูดตัดบทนาตาลีทันที “ถ้าเธอไม่ทำสารเลว เธอคิดว่าฉันจะทุบโทรศัพท์ของเธอไหมล่ะ?”
เชอรีชเติบโตขึ้นมาจาครอบครัวที่มีการศึกษาและสุภาพมาก และแทบไม่เคยใช้คำด่าใคร แต่ใช้คำว่าสารเลว เพื่ออธิบายกับนาตาลี
นาตาลีรู้สึกโกรธหลังจากถูกเรียกว่าสารเลว ดูเหมือนว่าเธอจะเปลี่ยนบุคลิกภาพอย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อความรู้สึกผิดของเธอถูกแทนที่ด้วยความหน้าด้านด้วยความมั่นใจในทันที
“เธอเรียกใครว่า สารเลว เชอรีช?”
"เธอ"
“อย่าคิดแม้แต่ว่าเธอจะสามารถดูถูกใคร ๆ ก็ได้เพียงเพราะครอบครัวของเธอรวย”
เชอรีชตอบอย่างใจเย็น "มันไม่ใช่การดูถูก ฉันแค่พูดความจริง"
นาตาลีรู้สึกตัวสั่นเพราะความโกรธ และพูดออกมาว่า "โอ้ ได้โปรด เลิกทำเป็นว่าเธอเหนือกว่าคนอื่นเถอะ เธอคิดว่าโลกทั้งใบหมุนรอบตัวเธอจริง ๆ งั้นเหรอ?"
“ไม่ว่าฉันจะเย่อหยิ่งหรือไม่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ เพราะถึงฉันจะหยิ่ง ฉันก็จะไม่จงใจทำร้ายคนอื่น และจะไม่จงใจสร้างปัญหาให้ใคร ในทางกลับกัน เธอมันสารเลวไร้ยางอายที่จงใจสร้างปัญหา และทำร้ายคนอื่น ดังนั้นฉันมีสิทธิ์ที่จะเมินเธอ ชีวิตของเธอ และไม่ว่าเธอจะทำอะไรมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันเลย”
เชอรีชกำลังจะหันหลังกลับ และเดินจากไปหลังจากพูดแบบนั้นกับนาตาลี แต่นาตาลีคว้าข้อมือของเธอไว้ทันที
“เธอคิดจะดำเนินคดีกับฉันจริง ๆ งั้นเหรอ?”
เชอรีชจ้องเขม็งไปที่เธอ ดูเหมือนว่านาตาลีจะดูหวาดกลัวและตื่นตระหนก แต่เธอขาดความสำนึกผิดในสายตาของเธอ
เชอรีชดึงข้อมือของเธออย่างเย็นชา และพูดว่า “มันเรื่องของฉันว่าฉันอยากจะบอกเธอหรือไม่ นอกจากนี้ แม้ว่าฉันจะแจ้งให้เธอรู้เกี่ยวกับมัน มันก็จะต้องขึ้นศาลอยู่ดี"
“เธอฟ้องฉันไม่ได้ ฉันไม่ได้ตั้งใจ มันเป็นอุบัติเหตุ”
เชอรีชเริ่มหมดความอดทน ขณะที่เธอพูด "ฉันไม่ยอมรับคำขอโทษของเธอ"
เมื่อรู้ว่าไม่มีอะไรทำให้เชอรีชเปลี่ยนใจได้ นาตาลีก็เริ่มหุนหันพลันแล่น และต้องการจะเอื้อมมือไปตบหน้าของเชอรีช
แต่เชอรีชคว้าแขนของเธอก่อนจะเหวี่ยงมันออกไปด้านข้าง แล้วตบหน้าเธออย่างแรง
นาตาลีจับหน้าของเธอ ขณะที่มองไปที่เธออย่างโกรธจัด และพูดออกมาว่า “เธอกล้าตบฉันงั้นเหรอ!”
เธอไม่ใช่นาตาลีคนเดิมเมื่อเจ็ดปีที่แล้วอีกต่อไป และดูเหมือนว่าไม่มีใครคนไหนจะสามารถมารังแกเธอได้อีกต่อไป
แต่เชอรีชดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้าน หลังจากตบหน้าเธอ เธอพูดออกมาอย่างชัดเจนว่า “เหมือนกับเมื่อเจ็ดปีก่อน ถ้าฉันกล้าตบหน้าเธอในตอนนั้น ฉันก็ยังกล้าตบหน้าเธอในตอนนี้ ฉันเตือนเธอแล้ว อย่ามายุ่งกับฉันอีก ก่อนที่ฉันจะดำเนินการทางกฎหมายกับเธอ เพราะฉันไม่แน่ใจตัวเองว่าเมื่อไหร่ฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้ และรู้สึกอยากจะแก้แค้นเธอจริง ๆ"
นาตาลีมองไปที่เชอรีชด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรอย่างมาก
ขณะที่มองไปที่เชอรีช เธอก็พูดออกมาอย่างโกรธจัด "เธอมันนังงูพิษ เชอรีช เธอรู้ไหม? คนอื่นถูกหน้าตาที่บริสุทธิ์ และไร้เดียงสาของเธอหลอก! มันก็แค่อุบัติเหตุ เชอรีช เธอมีสิทธิ์อะไรมาตบฉัน?”
“สิทธิ์ ฉันมีสิทธิ์อะไรไปตบเธองั้นเหรอ? มาเริ่มกันที่เธอเป็นฆาตกร แกควรจะชดใช้ความผิดที่เธอก่อไว้ไม่ใช่เหรอ?”
นาตาลีพูดไม่ออก
นาตาลีเป็นฆาตกรที่ทำให้เธอแท้งในตอนนั้น
…
ขณะที่นาตาลีกำลังจะหันหลังกลับ และเดินจากไปหลังจากที่เชอรีชเดินจากไปแล้ว เธอก็สังเกตเห็นรองเท้าหนังคู่หนึ่ง ขณะที่เธอก้มศีรษะลง
เธอค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น รองเท้าจับคู่กับกางเกงยีนส์สีดำที่รีดอย่างดี
พวกมันถูกสวมใส่โดยชายที่ดูสง่างามมาก
นาตาลีเงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ และสังเกตเห็นใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มในทันที
“บอยล์ บอยล์ ลอว์สัน…”
ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะดูน่ากลัวอย่างมาก หลังจากที่พวกเขาไม่ได้เจอกันมากว่าเจ็ดปี
เธอได้ยินมาว่าบอยล์กลายเป็นประธานของบริษัทเอ็มโอ กรุ๊ป และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัท
ดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะมีมากกว่าคำว่าร่ำรวย
คำพูดไม่สามารถอธิบายสถานะ และอำนาจของบอยล์ในตอนนี้ได้
นาตาลีเริ่มร้องไห้อย่างหนัก เธอถามด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสาร “คุณ… คุณได้ยินทุกอย่างก่อนหน้านี้หรือเปล่า?”
บอยล์มองไปที่เธออย่างเย็นชาอย่างเงียบ ๆ สายตาของเขารู้สึกเหมือนใบมีดคม
นาตาลีอธิบายอย่างลนลาน “เชอรีช เชอรีชใช้อำนาจของเธอในทางที่ผิด เธอตบฉัน…”
สีหน้าของบอยล์ดูเย็นชาอย่างน่ากลัว ขณะที่เขาอุทานว่า "ผมสอนให้เธอรังแกคนอ่อนแอ คุณรู้ไหม ผมคิดว่าการตบคุณจะทำให้มือเธอสกปรกเสียเปล่า ๆ"
นาตาลีตกใจ และจ้องเขาด้วยตาเบิกกว้าง
บอยล์กอดอก แล้วเดินผ่านนาตาลี เขาพูดออกมาโดยไม่หันกลับไปมองเธอ “อย่ามายุ่งกับเธออีก ไม่อย่างนั้นครั้งหน้าจะไม่ใช่แค่ตบอย่างเดียวแน่”
นาตาลีพูดไม่ออก
เธอดึงมือของเธอออก และพูด “ฉันจะเจ็บได้อย่างไรเมื่อฉันเป็นคนตี? ฉันคิดว่าคุณควรไปถามเหยื่อ ว่าเธอเจ็บไหมจะดีกว่า?”
นาตาลีไม่ใช่คนที่เขาเคยคบด้วยมาก่อนงั้นหรือ? อะไรกัน? เขาจะไม่รู้สึกสงสารเธอจริง ๆ งั้นเหรอ?
บอยล์จ้องเขม็งไปที่เธอ และพูดว่า “มันไม่สำคัญสำหรับผมว่าเหยื่อจะเจ็บไหม ตราบใดที่มันไม่ได้ทำร้ายคุณ”
เชอรีชสันนิษฐานว่าบอยล์เป็นคนเย็นชามาก เนื่องจากเขาเคยมีเรื่องราวดี ๆ ด้วยกันกับนาตาลีในอดีต และในตอนนี้เขายังกล้าแกล้งทำเป็นไม่สนใจงั้นเหรอ?
แต่มันสมเหตุสมผลสำหรับเธอ เนื่องจากพวกเขาเคยมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น และหลงใหลกัน และกันมากในอดีต ดูเหมือนว่าในช่วงเวลานั้น เธอคิดว่าพวกเขาจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ด้วยกันเช่นกัน แต่กลับกลายเป็นว่าทันใดนั้น เขาก็แสดงท่าทางเย็นชากับเธออย่างโหดร้าย
สิ่งที่พระที่ภูเขาไพรด์พูดเป็นความจริง บอยล์เป็นคนไร้หัวใจจริง ๆ
ฮันท์ลีย์ เฮกเตอร์และวิทนีย์มาถึงที่ลานจอดรถหลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง
นั่นเป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปีที่เฮกเตอร์ได้เจอกับเชอรีช เขาอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับเรื่องนี้มาก ขณะที่เขาพูดออกมาว่า "โอ้ พระเจ้า เชอรีช คุณยังคงสวยมาก มาทางนี้หน่อย ขอผมกอดคุณหน่อย”
ขณะที่เฮกเตอร์กำลังจะกอดเชอรีช บอยล์ก็จับมือชองเชอรีชทันที และดึงเธอออกจากเฮกเตอร์ หยุดเขาไม่ให้กอดเธอ
ดังนั้น แทนที่จะกอดเชอรีช เฮกเตอร์กลับได้กอดบอยล์แทนในตอนนั้น
เฮกเตอร์พูด "...โอ้ บอยล์ ฉันไม่อยากกอดนาย การกอดผู้ชายคนอื่นไม่ใช่เรื่องสนุก"
ฮันท์ลีย์ลูบคางของเขาแล้วแซว “ฉันเห็นด้วยว่าการเป็นแฟนของบอยล์เป็นเรื่องยากจริง ๆ ไม่มีใครสามารถกอดเธอได้”
เชอรีชพูดไม่ออก
วิทนีย์เย้ยหยัน และพูดว่า "โอ้ ได้โปรด เชอรีชของฉันไม่ยอมเป็นแฟนของบอยล์หรอก ไปกันเถอะ เชอรีช"
เชอรีชเข้าไปในลานจอดรถกับวิทนีย์หลังจากนั้น
ผู้ชายสามคนเดินตามหลังพวกเธอ
เฮกเตอร์พูดแซวว่า “บอยล์ ฉันคิดว่านายเลิกกับเชอรีชแล้วซะอีก”
ฮันท์ลีย์อุทานว่า "นายนี้มันพูดจาโน้มน้าวเก่งจริง ๆ กล้าที่จะไปแหย่หมีจริง ๆ"
เฮกเตอร์พูด "พูดมาสิ บอยล์ ตอนนี้ฉันตามจีบเชอรีชได้ไหม? ตอนนี้ฉันก็โสดเหมือนกัน"
บอยล์พูดอย่างเย็นชาด้วยท่าทางจริงจัง "เธอเป็นของฉัน"
เฮกเตอร์ลูบจมูกของเขา ขณะคิดว่าบอยล์ไร้เหตุผลเพียงใด เนื่องจากเขาไม่ยอมปล่อยแฟนเก่าของเขาไปด้วยซ้ำ
ฮันท์ลีย์ลูบไหล่เฮกเตอร์แล้วพูดว่า "เฮ้ นายไม่ควรจีบภรรยาของเพื่อน นายรู้ไหม"
เฮกเตอร์พูด "... เพื่อน ฉันแค่ล้อเล่น เพื่อทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้น หยุดจริงจังได้แล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน