บอยล์กำลังจะไปที่ศาลในฐานะตัวแทนทนายฝ่ายโจทก์ มันเป็นคดีที่แพร่หลายกันในโลกออนไลน์ และสำนักข่าวใหญ่บางแห่ง
ความสัมพันธ์ระหว่างบอยล์กับแฮนสัน ถูกเปิดเผยทันที
ในโลกออนไลน์ต่างก็พูดถึงเรื่องนี้กันอย่างแพร่หลาย มีบางคนบอกว่าบอยล์เป็นคนโหดร้าย ที่ต่อต้านพ่อของตัวเอง บางคนก็บอกว่าบอยล์เป็นทนายที่มีเกียรติ ที่ทำแบบนั้นกับพ่อของเขาโดยไม่ลังเล
มีนักข่าวจำนวนมากที่ไปรวมตัวกันที่คฤหาสน์เลค สตรีท ของบอยล์
นักข่าวต่างพากันชี้ไมโครโฟนไปที่เขา และถามคำถามกับเขามากมาย
"ท่านประธานลอว์สัน ทำไมถึงได้ฟ้องร้องเขาล่ะคะ? ทางจำเลยก็มีความเกี่ยวข้องกับคุณด้วย คุณรู้สึกไม่ดีหรือเปล่า?"
"ท่านประธานลอว์สัน มีข่าวของคุณเมื่อเจ็ดปีก่อน เกี่ยวกับเรื่องที่คุณไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูให้พ่อของคุณ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?"
"ท่านประธานลอว์สัน คุณอายหรือเปล่าที่มีพ่อเป็นนักโทษคดีลักพาตัว?"
"ท่านประธานลอว์สัน ได้ยินมาว่าหุ้นของ เอ็มโอ กรุ๊ป กำลังดิ่งลงในช่วงนี้ มันเกี่ยวกับข่าวของคุณกับพ่อหรือเปล่า?"
"ท่านประธานลอว์สัน คุณจะตอบผู้ลงทุนหลักและผู้ถือผลประโยชน์ร่วม เรื่องที่หุ้นของคุณตก เพราะเรื่องส่วนตัวของคุณยังไง?"
เขาถูกโจมตีด้วยคำถามที่ถามตรง ๆ และงี่เง่า
บอยล์ดูนิ่งมากเมื่ออยู่ต่อหน้ากล้อง
บอดี้การ์ดของเขาพยายามกันนักข่าวที่มารุมเขา แต่เพราะมีนักข่าวจำนวนมาก พวกเขาจึงพาบอยล์ไปที่รถด้วยความยากลำบาก
แต่บอยล์ก็ไม่ได้เลี่ยงการตอบคำถามเลย "เป็นใครก็ต้องอายที่มีพ่อแบบนั้น เว้นแต่ว่าคุณจะเป็นคนที่ทำตามกฎหมาย หรือเป็นคนที่ขาดศีลธรรม นอกจากจะทำให้ผมเข้ามาในโลกใบนี้แล้ว พ่อไม่เคยทำหน้าที่พ่อเลยตั้งแต่ผมโตมา เขาติดเหล้า ติดการพนัน และชอบใช้ความรุนแรง เขาเอาค่าเรียนของผมไปตอนที่ผมยังเด็ก จะไม่ให้ผมเกลียดเขาได้ยังไง? ใครจะไปใจบุญเหมือนพระแม่มารีย์ล่ะครับ? ผมต้องเคารพคนที่ไม่มีความรับผิดชอบแบบนั้น เพราะเป็นพ่อผมเหรอครับ?"
ทุกคำที่บอยล์พูดออกมานั้นทั้งพูดตรงและจริงจัง สร้างความตกใจให้นักข่าวที่อยู่รอบตัวเขา
แต่บอยล์ยังพูดไม่จบ
"พวกคุณถามผมว่ารู้สึกไม่ดีหรือกดดันหรือเปล่าที่ตั้งข้อหาเขา แต่มันก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคดีนี้ คนที่แฮนสันลักพาตัวคือคนที่ผมรักมากที่สุด ผมฝันที่จะจับเข้าคุก ซึ่งพวกคุณก็อยู่ที่นี่แล้ว และกำลังถามคนที่ยึดถือตามกฎหมาย ทำไมไม่ไปสัมภาษณ์คนที่ทำความผิดล่ะครับ? ไปถามเขาสิว่ารู้สึกยังไงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ทำแบบนั้นแล้วสถานีที่พวกคุณทำข่าวให้ อาจช่วยทำอะไรดี ๆ ให้สังคมก็ได้นะครับ"
นักข่าวต่างพากันพูดไม่ออกกับคำตอบของบอยล์
คำพูดของบอยล์นั้นทั้งตรงและไร้ความปราณี
เมื่อบอดี้การ์ดกำลังจะพาบอยล์ไปที่รถ ทันใดนั้น บอยล์ก็หันมามองกล้องแล้วพูดอย่างชัดเจน "ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ผมจะบอกพวกคุณว่าที่นี่เป็นที่ส่วนตัวของผม การกระทำของพวกคุณนั้นเป็นการบุกรุก เพราะไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้ามา ผมแจ้งข้อหาพวกคุณทุกคนได้นะครับ"
น้ำเสียงของเขาฟังดูน่ากลัว
นักข่าวทั้งหมดพากันพูดไม่ออก
พวกเขานั้นต่างตกใจและกลัวบอยล์
ปกติแล้วนักข่าวจะเป็นผู้ชนะ ถ้าเผชิญหน้ากับคนธรรมดา แต่พวกเขากำลังรับมือกับทนาย พวกเขาพ่ายแพ้อย่างราบคาบ พวกเขาไร้ทางสู้เพราะบอยล์เป็นทนาย!
คาลัมออกรถหลังจากที่บอยล์เข้าไปนั่งในรถแล้ว
คาลัมเหลือบมองเจ้านายที่กำลังเจอปัญหาหนัก เขาอยากจะพูดอะไรสักอย่างเพื่อคลายความเครียด แต่เขาก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ฝ่ายจัดการระดับสูง จากสำนักงานใหญ่ในเมืองนิวยอร์กโทรหาพวกเขา พวกเขาคุยกันเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น
คาลัมไม่รับสาย เพราะบอยล์ก็กดดันเรื่องของเขาพอแล้ว
ไม่ว่าบอยล์จะสร้างภาพแค่ไหน คนที่ลักพาตัวก็เป็นพ่อของบอยล์อยู่ดี ยิ่งเหยื่อที่ถูกลักพาตัวนั้นเป็นถึงผู้หญิงที่เขารัก
เรื่องนี้ก็ทำให้เขากดดันพอแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน