วันนี้บอยล์ขับรถคันใหม่ เขารู้สึกปวดใจที่เชอรีชเตะล้อรถของเขาอย่างแรง
รถสไปเกอร์สีดำขับไปในเขตมูนไลท์
เชอรีชมองออกไปข้างนอกหน้าต่างแล้วถามเขา "เรากำลังจะไปไหนกัน?"
'เราไปหาร้านกาแฟใกล้ ๆ คุยกันไม่ได้หรือไง?' เชอรีชสงสัย
บอยล์มองเธอด้านข้างแล้วตอบ "ตอนนี้สิบเอ็ดโมงสิบห้านาที ผมคิดว่าได้เวลามื้อเที่ยงแล้ว"
"ฉันไม่อยากกินมื้อเที่ยง"
"ผมรู้ว่าตอนนี้คุณยังไม่อยากกิน แต่คุณต้องกินอะไรบ้างนะ"
อาการซึมเศร้าทำให้ไม่อยากทานอาหาร แต่ถ้าท้องว่างมันก็ไม่ดีต่อสุขภาพ
เธอต้องกินอะไรบ้าง เธอผอมเกินไป
เธอผอมลงมากตอนที่เขากอดเธอ ตอนนั้นเธอไม่ได้ผอมขนาดนี้
เขาต้องให้เธอกินจะได้น้ำหนักเพิ่มขึ้น
"เราจะคุยเรื่องคดีกันไม่ใช่เหรอ?"
บอยล์ยิ้ม "เราต้องกินให้อิ่มก่อนอยู่แล้ว"
"คุณจะขยายธุรกิจด้วยความคิดแบบนั้นได้ยังไง?"
"คุณต้องใช้สมองด้วย คุณจะทำไม่ได้ถ้าปล่อยให้ตัวเองหิว"
เชอรีชพูดไม่ออก
ก็ได้ งั้นก็ปล่อยให้เขาทำก็แล้วกัน
พวกเขามาถึงร้านอาหารที่ขายเกี๊ยว
เชอรีชเม้มปากแล้วคิดในใจ 'ทำไมเราต้องมากินเกี๊ยวตอนบ่ายกันด้วย?'
หลังจากลงจากรถ พวกเขาก็เดินเข้าไปในร้านอาหารและสั่งเกี๊ยวนึ่งมาสองชุด
พวกเขาไม่ได้สั่งอะไรมาก เพราะต้องไปทานที่อื่นกันอยู่แล้ว
มีโต๊ะจำนวนจำกัดในร้านอาหาร และในร้านก็มีคนเต็ม
บรรยากาศดูมีชีวิตชีวา มีควันไฟลอยมาจากในครัว
นานมากแล้วที่เชอรีชอยู่ในกลุ่มคน และในสถานที่ที่มีชีวิตชีวา เธอรู้สึกว่าอยู่ในความมืดมาตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมานี้
อากาศร้อนและแสงอาทิตย์ ส่องลงมาที่ใบหน้าของเธอผ่านทางหน้าต่าง เธอใช้มือบังแสงอาทิตย์
บอยล์นั่งตรงข้ามเธอ เขาไม่อยากทำให้เธอรู้สึกอึดอัดถ้าเขาอยู่ใกล้เธอเกินไป
แต่เธอยกมือขึ้นบังแสงอาทิตย์ เขาจึงลุกขึ้นยืนแล้วไปนั่งข้างเธอ เพราะเขาตัวสูงกว่าเธอจึงบังแสงอาทิตย์ให้เธอได้
เชอรีชมองเขาแล้วขมวดคิ้ว
แม้จะได้รับความเย็นชาจากเธอ แววตาของเขานั้นมีแต่ความรักและอ่อนโยน "มองผมทำไมเหรอ? มองไปก็ไม่ทำให้ท้องอิ่มหรอกนะ รีช"
อาหารของพวกเขามาเสิร์ฟทันที บอยล์ขอจานรองจากพนักงานเสิร์ฟ และเทน้ำส้มสายชูลงในจานรองสีขาว
"คุณชอบเกี๊ยวที่นี่มากที่สุดไม่ใช่เหรอ? กินตอนที่มันยังร้อนสิ"
เชอรีชหยิบส้อมและช้อนขึ้นมาตักเกี๊ยว และจุ่มลงในน้ำส้มสายชูก่อนจะตักเข้าปาก
รสชาติของเกี๊ยวนั้นสดใหม่ ทำให้เธออยากทานอาหาร
บอยล์ยิ้มเมื่อเขามองเธอทาน "กลิ่นหอมดีใช่ไหมล่ะ?"
เชอรีชไม่ตอบเขา เธอคิดในใจ 'กลิ่นหอมดี'
เชอรีชรู้สึกขัดแย้งกับตัวเอง เธอไม่เต็มใจและไม่อยากทานเมื่ออาหารมาถึง แต่เธอก็ทนไม่ได้
มีเกี๊ยวอยู่สิบชิ้น เธอทานไปแปดชิ้น บอยล์ทานอีกสองชิ้นที่เหลือ
บอยล์ขับรถไปที่ร้านอาหารถัดไป หลังจากทานเกี๊ยวเสร็จแล้ว
เชอรีชคิดว่าพวกเขาจะไปคุยกันเรื่องคดีหลังจากทานเกี๊ยวเสร็จ แต่เธอก็พูดไม่ออกเมื่อมาถึงร้านอาหารเพนินซูล่า
"ฉันไม่ได้หิวนะ" เธอบอกเขา
บอยล์ไม่สนใจและเปิดประตูให้เธอ เขาปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วลากเธอลงจากรถ
"ที่เป็นร้านอาหารที่รู้จักกันดีในนอร์ท ซิตี้ มันถูกแนะนำจากหลายคน คุณต้องชอบเพราะเขาขายอาหารตะวันตกด้วย"
"...คุณสนใจแนะนำอาหารให้นักท่องเที่ยวตั้งแต่เมื่อไหร่?"
บอยล์ยิ้ม "ผมหาข้อมูลอาหารกลางวันมา เพื่อเอาใจว่าที่เมียน่ะ"
เชอรีชพูดไม่ออก
เธอเหวี่ยงแขนเขาออกไป แล้วเดินเข้าไปในร้านอาหาร
บอยล์จองโต๊ะที่สนามกลางแจ้งใกล้สระน้ำ
มีต้นมะพร้าวปลูกไว้หลายต้นและได้ยินเสียงจั๊กจั่นร้อง ลมเย็นพัดผ่านพวกเขา บรรยากาศสบายและผ่อนคลาย โดยไม่มีแสงอาทิตย์อยู่เหนือศีรษะพวกเขา
บอยล์สั่งของหวานที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้หญิงหลายคนมา
เขายังสั่งสเต็กเนื้อวัวสุกปานกลางมาด้วย รสชาติที่ฉ่ำและอ่อนนุ่มของเนื้อละลายในปาก และมีรสชาติหอมน่าทานมาก
สเต็กชิ้นเล็กเสิร์ฟในจานใหญ่ เชอรีชทานสเต็กหมดไปแค่ไม่กี่คำ
บอยล์เห็นดังนั้นจึงแบ่งส่วนของเขาให้เธอ
เชอรีชปฏิเสธ "ไม่เอาแล้ว ฉันอิ่มแล้ว"
บอยล์ไม่ได้ตอบหรือเอาส่วนของเขาที่ให้เธอคืนมา เขาลุกขึ้นยืนแล้วบอกเธอ "กินไปก่อนนะ เดี๋ยวผมมา"
สเต็กหายไปแล้วเมื่อบอยล์กลับมาจากห้องน้ำ
เชอรีชทานของหวานราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
บอยล์ก็ไม่ได้ถามเธอเรื่องสเต็ก
หลังจากผ่านไปสักพัก เชอรีชก็กระแอมแล้วอธิบาย "ถ้าสเต็กเย็นมันจะไม่อร่อย ฉันเลยกินแทนคุณ"
บอยล์มองเธอด้วยสายตารักใคร่ "คุณพูดถูกแล้ว"
เชอรีชไม่รู้จะตอบยังไง เธอจึงทานชีสเค้กที่บอยล์สั่งมาเงียบ ๆ
'มันผิดปกตินะ เราควรจะคุยกันเรื่องคดีไม่ใช่หรือไง?' เธอคิดในใจ
เธอเงยหน้าขึ้นมามองบอยล์
ก่อนที่จะรู้ตัว บอยล์ก็เช็ดวิปครีมที่ริมฝีปากของเธอ
มันใกล้ชิดเกินไปสำหรับเชอรีช
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน