หลังจากเครื่องบินลงจอด บอยล์ก็พาเชอรีชไปร้านอาหารชื่อดังในเมืองหลวงเพื่อรับประทานอาหาร
พวกเขาเลือกที่นั่ง
บอยล์นั่งข้างเธอ ขณะที่ทั้งคู่กำลังเริ่มดูเมนูอาหารด้วยกัน
พนักงานเสิร์ฟสาวถามพวกเขา “ต้องการสั่งอะไรดีคะ?”
บอยล์ตัดสินใจกินอะไรก็ได้ที่เชอรีชอยากจะกิน เขาไม่ได้เลือกมาก
ขณะที่เชอรีชมองไปที่ในส่วนของอาหารว่างในเมนู เธอพูดตะกุกตะกัก “บัวลอย…และก็เกี๊ยว…เกี๊ยวทอด…”
เมื่อสาวเสิร์ฟเห็นเธอพูดตะกุกตะกัก เธอก็ขมวดคิ้ว และดูเหมือนกำลังแอบตัดสินเธออยู่
เธอไม่คิดว่าชายหนุ่มที่หล่อเหลาขนาดนี้จะอยู่กับผู้หญิงที่พูดติดอ่าง
แม้ว่าทั้งคู่จะดูน่าดึงดูดมากในมุมมองของคนนอก แต่การพูดติดอ่างของเธอจะทำให้ข้อดีทั้งหมดของเธอสูญเปล่า
พนักงานเสิร์ฟหัวเราะอย่างเจื่อน ๆ ขณะที่เธอหลุดปากพูดหยาบคายออกมา “คุณผู้หญิง ถ้าคุณพูดไม่ชัด คุณสามารถชี้ไปที่รูปภาพอาหารก็ได้ค่ะ”
เชอรีชเงยหน้าขึ้น และจ้องเขม็งไปทางพนักงานเสิร์ฟ เธอไม่ดูเขินอายเลยแม้แต่น้อย
แววตาของเธอดูน่ากลัวจนพนักงานเสิร์ฟรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
สายตาของบอยล์ก็ดูน่ากลัวและเย็นชา แต่เขายังคงเอื้อมมือไปลูบหัวเล็ก ๆ ของเชอรีช เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “คุณพูดต่อได้เลย ยังไงพวกเราก็ไม่ได้รีบร้อนอะไรอยู่แล้ว”
แม้ว่าเชอรีชจะสั่งอาหารจนถึงค่ำ บอยล์ก็จะไม่เร่งเธอ
ไม่แน่ใจว่าพนักงานเสิร์ฟกำลังคิดอะไร เพราะเธออดไม่ได้ที่จะพูดว่า "นายท่านกับมาดาม พวกคุณต้องการเวลาดูเมนูก่อนไหมคะ? คงจะไม่ดีถ้าจะให้แขกโต๊ะอื่นรอนานเกินไป"
บอยล์ยิ้มเยาะ ขณะที่รังสีแห่งความเย็นชาและความน่ากลัวแผ่ออกมาจากตัวของเขา เขาจ้องเขม็งไปที่พนักงานเสิร์ฟ และกล่าวว่า “มาก่อนได้ก่อน เนื่องจากเรามาที่นี่ก่อน เป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเราจะได้รับการบริการก่อน ถ้าคุณรู้สึกไม่อยากให้บริการพวกเรา คุณก็ให้คนอื่นมาให้บริการเราก็ได้”
บอยล์น่ากลัวอย่างมาก ขณะที่สายตาของเขาเต็มไปด้วยความมุ่งร้าย
แต่โชคไม่ดีที่พนักงานเสิร์ฟไม่ฉลาดพอที่จะอ่านอารมณ์ของพวกเขาได้
พนักงานเสิร์ฟพูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว “ทำไมคุณไม่สั่งให้เธอล่ะคะ นายท่าน ดูเหมือนคุณผู้หญิงจะพูดไม่ชัด ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าเธอพูดอะไร”
ออร่าความน่ากลัวของบอยล์หายไป เขาดูเหมือนว่าจะมีสีหน้าปกติ
แต่บอยล์จะโหดเหี้ยมที่สุดเมื่อเขาทำหน้าเรียบเฉย
“ภรรยาของผมจะเป็นคนสั่งเสมอทุกครั้งที่เราออกมาข้างนอกด้วยกัน หากคุณมีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรา คุณเรียกผู้จัดการของคุณมาได้ทุกเมื่อ”
พนักงานเสิร์ฟกัดฟัน และรู้สึกเหมือนได้รับการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
จากนั้นบอยล์ก้มศีรษะลง และถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณสั่งต่อได้เลย ถ้าคุณยังอยากกินอะไรอีก”
เชอรีชยิ้มให้บอยล์ ก่อนที่เธอจะสั่ง "ฉันขอข้าวโพดชุบแป้งทอด…ฟรายฮันนี่บิสกิต…ไก่ทอด…เต้าหู้กุ้ง…และก็ปลานึ่ง…"
เชอรีชใช้เวลาสิบนาทีในการสั่งอาหาร
พนักงานเสิร์ฟทำได้เพียงรอให้เธอสั่งอาหารเสร็จ
พนักงานเสิร์ฟถาม "แค่นี้ใช่ไหมคะ คุณผู้หญิง? งั้นตอนนี้ฉันไปส่งออเดอร์เลยนะคะ?"
แต่ก่อนที่เชอรีชจะได้ตอบ พนักงานเสิร์ฟก็เดินออกไปอย่างหยิ่งผยองเสียก่อนแล้ว
บอยล์เรียกเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เฮ้ ใครบอกคุณว่าเราสั่งเสร็จแล้ว?"
เชอรีชยิ้มอย่างไร้เดียงสา เธอค่อย ๆ สั่งอาหารอย่างอื่นอีกจำนวนมาก
พนักงานเสิร์ฟรออีกครึ่งชั่วโมง
หลังจากที่เธอสั่งอาหารเสร็จ เชอรีชก็ปิดเมนู และมองไปที่พนักงานเสิร์ฟด้วยท่าทางไร้เดียงสา เธอพูดติดอ่างอย่างช้า ๆ “อาหาร…อาหารที่ฉันสั่งไปก่อนหน้านี้…ฉันไม่ต้องการ…ฉันไม่ต้องการมันแล้ว”
บอยล์มองไปที่หญิงสาวที่อยู่ข้างเขาด้วยสายตาที่เปี่ยมด้วยความรัก ขณะที่เขายิ้มบาง ๆ ออกมา
เธอน่ารัก
สีหน้าของพนักงานเสิร์ฟซีดเผือด
หลังจากที่พนักงานเสิร์ฟเดินออกไป เชอรีชก็เบ้ปากแล้วพูดว่า "ฉัน...ฉันไม่...อยากกินที่นี่"
บอยล์ก้มศีรษะลง และคลอเคลียที่หน้าผากของเธอ เขาพูดด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความรัก "งั้นเราจะไปร้านอื่นกัน ผมก็ไม่ชอบร้านนี้เหมือนกัน"
เชอรีชพยักหน้า เธอพูดว่า “ใช่ ไปกันเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน