อย่างแรก งานแต่งจัดขึ้นที่เมืองนอร์ท ซิตี้
ครอบครัวของบอยล์กับเชอรีชได้ไปดูสถานที่จัดงานในเมืองนอร์ท ซิตี้ พวกผู้ใหญ่ไม่ได้ว่าอะไรที่จะจัดงานในโบสถ์ที่นอร์ท ซิตี้
ระหว่างทางกลับ บอยล์รู้สึกว่าการจัดงานในโบสถ์นั้นยังไม่พอ และรู้สึกว่าเหมือนขาดอะไรไป
เชอรีชไม่ได้แสดงความคิดเห็นอะไรเกี่ยวกับสถานที่จัดงาน บอยล์จึงไม่ได้พูดอะไร
เมื่อพวกเขากลับมาที่คฤหาสน์เลค สตรีท ในขณะที่บอยล์กำลังเตรียมบัตรเชิญงานแต่งงาน เขาก็นึกได้ถึงเหตุผลที่รู้สึกเหมือนขาดอะไรไป หลังจากที่เห็นชื่อของเชส
ความรักของเขากับเชอรีชเริ่มเบ่งบานที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ แม้พวกเขาจะแยกจากกันมาตลอดเจ็ดปี มันเป็นเรื่องจริงที่เรื่องราวความรักของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นที่มหาวิทยาลัย จนถึงวันที่พวกเขาได้แต่งงานกัน
ถ้าเขาจัดงานแต่งที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ มันคงเป็นความทรงจำที่มีค่าสำหรับเขา
ทุกพื้นที่ในมหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ ได้ย้ำเตือนอดีตของพวกเขา และทำให้นึกถึงความทรงจำอันมีค่าและสวยงาม
บอยล์โทรหาเชส
เชสรู้สึกแปลกใจตอนที่เขารับสายบอยล์ "บอยล์ ทำไมวันนี้ถึงได้โทรหาฉันล่ะ? มีเวลาโทรหาฉันด้วยเหรอเนี่ย? ตอนนี้เจ้าบ่าวน่าจะยุ่งอยู่กับการเตรียมงานแต่งไม่ใช่หรือไง?"
บอยล์ถูขมับ "ที่จริงก็ใช่ครับ แต่ผมอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ"
"ช่วยเหรอ? อยากให้ช่วยอะไรล่ะ?"
"ผมคิดว่าจะจัดงานแต่งที่มหาวิทยาลัยแคพิทัล ซิตี้ ไม่รู้ว่าจะได้หรือเปล่าครับ?"
เชสตกใจ เขารู้สึกว่าเป็นความคิดที่ไม่เหมือนใคร และไม่เคยได้ยินมาก่อน "จะจัดงานวันไหนล่ะ?"
"เดือนพฤษภาคมครับ"
"นักศึกษาส่วนใหญ่จะหยุดและกลับบ้านกัน ตอนนั้นมหาวิทยาลัยก็จะว่าง คิดว่าจัดได้นะแต่...เรื่องนี้ต้องได้รับการอนุมัติจากดีนก่อน อีกอย่างจะมีนักศึกษาที่ไม่ได้กลับบ้านในวันนั้นด้วย มันไม่ง่ายเลยที่จะจัดงานในมหาวิทยาลัยนะบอยล์ ฉันจะคุยกับดีนก่อน แล้วดูว่ามันจะเป็นยังไง"
"คุณเชสครับ ขอบคุณมากนะครับที่ช่วยพูดกับดีนให้ ผมจะบริจาคห้องสมุดให้มหาวิทยาลัยเป็นการส่วนตัว ส่วนนักศึกษาที่ไม่ได้กลับบ้านในวันนั้น พวกเขามาร่วมงานแต่งของผมกับเชอรีชได้ถ้าอยากมา ถ้าจัดงานแต่งที่มหาวิทยาลัยได้นะครับ เราจะจัดงานเลี้ยงตอนเย็นกันที่สนาม เราจะมีบุฟเฟ่ต์ให้นักศึกษาที่มาร่วมงานแต่งได้กินด้วยครับ"
เชสหัวเราะ "บอยล์ พวกนักศึกษากินเยอะนะ! แน่ใจนะว่าอยากทำแบบนี้? ไม่กลัวว่าเด็กพวกนั้นจะกินเกินงบประมาณเหรอ?"
"คุณเชสครับ ผมคงดีใจถ้าคุณช่วยพวกเราเรื่องนี้ได้"
"ไม่ต้องห่วง เป็นไปไม่ได้หรอกที่ดีนจะไม่สนเงื่อนไขและข้อเสนอของนาย นายพูดถูกเลยล่ะ ห้องสมุดของมหาวิทยาลัยค่อนข้างเล็ก มีนักศึกษามาใช้จนเต็มห้องทุกวัน เราอยากได้ห้องสมุดที่ใหญ่กว่านี้ นักศึกษาต้องขอบคุณนาย และจดจำผลงานของนายจนขึ้นใจ"
บอยล์ไม่กล้ารับเกียรตินั้น "ผมแค่ทำเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ถึงกับต้องให้นักศึกษาจดจำคนที่บริจาคห้องสมุดให้ก็ได้ครับ ถ้าทางมหาวิทยาลัยช่วยผมเรื่องนี้ ผมก็จะช่วยนักศึกษาด้วยเหมือนกัน"
สิบห้านาทีต่อหน้า เชสก็โทรหาเขา
น้ำเสียงของเชสเต็มไปด้วยความสุข "บอยล์ ทายซิ? ดีนตอบตกลงทันทีตอนที่ฉันบอกเรื่องนี้กับเขา เขาบอกว่าให้นายบอกเขาได้ ถ้าต้องการหรืออยากให้ช่วยเรื่องอื่นอีก"
หลังจากพูดคุยสั้น ๆ กับเชสแล้ว บอยล์ก็เดินออกมาจากห้องทำงาน และลงไปที่ห้องนั่งเล่น
เชอรีชนั่งอยู่บนพรมขนสัตว์ เธอนั่งพิงเก้าอี้ไม้ มีรูปปั้นพลาสติกหลากสีวางอยู่บนโต๊ะ
มันเป็นรูปปั้นคู่รักขนาดเล็กจับมือกัน
บอยล์เดินเข้ามาหาเธอและนั่งลงบนโซฟา เขามองรูปปั้นที่เธอทำเองแล้วยิ้ม "นี่พวกเราเหรอ?"
เธอหยิบรูปปั้นขึ้นมาแกว่งตรงหน้าเขา "มันดูไม่เหมือนเราเหรอ?"
บอยล์เข้าไปดูรูปปั้นใกล้ ๆ "ทำไมปั้นตัวเองได้น่าเกลียดจัง?"
เชอรีชหันหน้าหนีและไม่สนใจบอยล์ "น่าเกลียดตรงไหน? ออกจะน่ารัก"
"น่าเกลียดกับน่ารักเหรอ?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน