วันที่หนึ่งพฤษภาคม ท้องฟ้าโปร่งใสและมีลมเล็กน้อย สภาพอากาศดีในวันแต่งงาน
ในคฤหาสน์ตระกูลฟัดด์ หญิงสาวสามคนนอนหลับสบายอยู่บนเตียงขนาดใหญ่
เชอรีชตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนหกโมงเช้า นาฬิกาปลุกส่งเสียงดังเมื่อพระอาทิตย์เริ่มขึ้นที่ขอบฟ้า
เมื่อนาฬิกาปลุกดัง เธอก็เลื่อนปลุกและกลับไปนอนต่อ
ห้านาทีต่อมานาฬิกาปลุกก็ดังขึ้นอีก เชอรีชเลื่อนปลุกอีกและเอาผ้าห่มคลุมศีรษะ
ไม่นานโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น มันดังไม่หยุดจนทำให้เธอต้องตื่น
เชอรีชคว้าโทรศัพท์มารับสายด้วยอาการครึ่งหลับครึ่งตื่น เสียงของเธอแหบเนื่องจากเพิ่งตื่น "ฮัลโหล?"
"รีช ตื่นได้แล้ว ช่างแต่งหน้ามาถึงบ้านหรือยัง?"
บอยล์โทรหาเธอ
เชอรีชพลิกตัวกลับไปอีกด้านและยังซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม "ยังไม่มีใครโทรมาเลย ให้ฉันนอนต่ออีกหน่อย"
"เมื่อคืนใครบอกผมว่าให้ปลุกตอนตีห้าครึ่ง?"
เชอรีชตอบ "ก็ฉันตื่นยากนี่"
เชอรีชซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม เธอนอนหลับขณะตอบบอยล์ที่อยู่ปลายสาย
เวอเรียนเคาะประตู
"เจลลี่ บีน ตื่นได้แล้ว สายแล้วนะลูก ช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมมาถึงแล้ว"
เชอรี่กับวิทนีย์ที่มาพักอยู่ในบ้านของเชอรีช ตื่นเพราะเสียงปลุกของเวอเรียน และเสียงนาฬิกาปลุกก่อนแล้ว
เชอรี่เป็นเพื่อนเจ้าสาว วิทนีย์นั้นแต่งงานแล้วแต่ก็มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธอ
หลังจากผ่านไปสักพัก เชอรี่กับวิทนีย์ก็ช่วยกันลากเชอรีชออกมาจากผ้าห่ม
เวอเรียนลากเชอรีชไปล้างหน้าในห้องน้ำ
ตอนเจ็ดโมงเช้า ช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมเข้ามาแต่งหน้าและทำผมให้เธอ
การแต่งหน้าเจ้าสาวในฤดูร้อนนั้น ช่างแต่งหน้าเลือกใช้สีส้มโซดาในฤดูร้อนของญี่ปุ่น การแต่งหน้าที่ประณีตนั้น ทำให้เจ้าสาวดูงดงาม แต่ยังคงความน่ารักเป็นธรรมชาติและอ่อนโยน
ผมสีน้ำตาลยาวของเชอรีชเป็นลอนคลายและมีสุขภาพดี ความงามของเธออาจถูกบดบัง ถ้าทำผมให้เป็นลอนแน่นเกินไป ช่างทำผมไม่ได้ทำอะไรกับผมของเธอมากนัก แค่ใช้ไดร์เป่าผมให้เธอสักพัก และปล่อยให้ผมลอนของเธอเคลียไหล่อย่างเป็นธรรมชาติ มีดอกไม้สดและก้านดอกไม้ประดับอยู่บนศีรษะ
เมื่อเธอใส่ชุดเจ้าสาวและผ้าคลุมหน้าแล้ว เธอเหมือนนางฟ้าที่ตกมาจากสวรรค์ลงมายังโลกมนุษย์
วิทนีย์แลบลิ้นออกมา "เจ้าสาวสวยขนาดนี้ ฉันไม่ให้ใครเข้าใกล้เธอหรอก"
เชอรีชนั่งอยู่บนเก้าอี้ เธอรู้สึกอึดอัดที่ขยับตัวไม่สะดวกหลังจากที่ใส่ชุดเจ้าสาวแล้ว "ฉันยังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เอาของกินในครัวมาให้หน่อยได้ไหม?"
ตอนที่วิทนีย์กำลังจะเดินไปที่ห้องครัว เวอเรียนก็ถือถาดใส่อาหารใบเล็กเข้ามา มีขนมปังปิ้งทาแยมสตรอวเบอร์รี่สองชิ้น
เวอเรียนแนะนำเชอรีช "ลูกใส่ชุดเจ้าสาวแล้ว มันลำบากที่จะไปห้องน้ำ แม่กลัวว่าลูกจะท้องว่างทั้งวัน กินอะไรเบา ๆ และดื่มน้ำให้น้อย จะได้ไม่ต้องไปเข้าห้องน้ำบ่อย"
ช่างแต่งหน้าพูดแทรก "ฉันยังไม่ได้ทาลิปสติกให้คุณ ตอนนี้คุณรีบกินได้นะคะ ถ้าทาลิปสติกแล้วคุณไม่ควรกินอีกจะดีกว่า เพื่อไม่ให้ลิปสติกเลอะค่ะ"
เชอรีชบ่นในใจว่าชุดแต่งงานทำให้เธอเบื่อ
เธอรีบกินขนมปังปิ้งทาแยมสตรอวเบอร์รี่สองชิ้น และช่างแต่งหน้าก็ทาลิปสติกบนริมฝีปากให้เชอรีช
หลังจากผ่านไปสักพัก นายท่านฟัดด์, ฮีลตัน และแฮร์ริสัน ก็มาที่ห้องของเชอรีช
มีเสียงดังมาจากนอกห้อง "หลานสาวสุดที่รักของปู่แต่งหน้าเสร็จหรือยัง?"
เวอเรียนเปิดประตูให้พวกเขา นายท่านฟัดด์ใส่ชุดสูทผูกเนคไทแบบตะวันตก เขาเหมือนสุภาพบุรุษที่เดินอยู่บนถนนในลอนดอน
วันนี้นายท่านฟัดด์ร่าเริงและมีความสุขเป็นพิเศษ ตอนที่เขาเห็นหลานสาวใส่ชุดเจ้าสาว เขาก็ชมเธอ "นี่นางฟ้าตกมาจากสวรรค์หรือไง? เข้ามาใกล้ ๆ ให้ปู่ดู เจลลี่ บีนให้ชัดหน่อย"
วิทนีย์กับเชอรี่ช่วยจับชุดเจ้าสาวให้เชอรีช เธอยืนขึ้นแล้วยิ้มกว้างให้คุณปู่ "เป็นไงบ้างคะ คุณปู่?"
"สวยมาก! เจลลี่ บีนของปู่โตแล้ว ถึงจะแต่งงานแล้ว แต่หลานต้องกลับมาเยี่ยมปู่นะ เข้าใจหรือเปล่า?"
นายท่านฟัดด์จับมือเชอรีชแน่น เขาพูดด้วยท่าทางใจดี
"ไม่ต้องห่วงนะคะคุณปู่ บอยล์กับหนูจะมาเยี่ยมบ่อย ๆ"
นายท่านฟัดด์ยิ้ม "ใช่แล้ว พาบอยล์มาที่นี่ด้วยกันสิ"
ฮีลตันยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ เขามองลูกสาวที่โตแล้ว และตอนนี้กำลังจะแต่งงาน
เชอรีชเดินเข้ามากอดฮีลตัน
ฮีลตันกอดลูกสาว "ถ้าบอยล์กล้ารังแกลูก บอกพ่อนะ พ่อจะสั่งสอนให้เอง"
"คุณพ่อคะ ถึงหนูจะแต่งงานแล้ว หนูก็ยังเป็น เจลลี่ บีนของคุณพ่อเสมอ" เชอรีชยิ้มหวานให้พ่อของเธอ
ฮีลตันลูบหลังเธอ ดวงตาของเขาเริ่มแดง
เจลลี่ บีนของเขากำลังจะแต่งงาน
จนถึงตอนนี้ ฮีลตันก็ยังยอมรับความจริงไม่ได้
"ถึงลูกจะแต่งงานกับบอยล์ ลูกก็ยังเป็นลูกของพ่อเสมอ ถ้าเจอปัญหาหรือถูกรังแก กลับบ้านมาหาพ่อได้ตลอดนะ"
เชอรีชน้ำตาคลอ เธอยิ้มให้ฮีลตัน "คุณพ่อคะ เลิกพูดคำพูดซึ้ง ๆ ได้แล้ว มันจะทำให้หนูร้องไห้ เดี๋ยวเครื่องสำอางจะเลอะ"
เวอเรียนยิ้มและมองพ่อกับลูกสาว " เจลลี่ บีน นาน ๆ พ่อของลูกจะมีอารมณ์อ่อนไหว วันนี้เป็นวันแต่งงานของลูก เข้าใจและปล่อยพ่อไปเถอะ"
แฮร์ริสันพูดแทรก "พี่ เดี๋ยวพ่อก็ไปร้องไห้ลับหลังเราอีกนั่นแหละ"
ฮีลตันเตะขาแฮร์ริสัน "เจ้าตัวแสบ! นี่พูดไร้สาระอะไรน่ะ?"
แฮร์ริสันปัดฝุ่นออกจากกางเกง "พ่อครับ ช่วยสนใจและใจดีกับผมหน่อยได้ไหม? ผมเป็นน้องชายเจ้าสาวนะ วันนี้ผมมีบทบาทสำคัญ ผมเป็นคนที่กันเจ้าบ่าวไว้นะ อีกอย่างมันก็หายากที่ผมจะใส่ชุดสูท พ่อมาเตะผมแบบนี้ได้ยังไง? มันสมควรแล้วเหรอครับ?"
ฮีลตันพูดเสียงเย็นชา "กันเจ้าบ่าวให้ดีล่ะ ถ้าเห็นว่าลูกจงใจทำให้มันง่ายสำหรับบอยล์ ลูกจะต้องเสียใจที่ทำแบบนั้น"
แฮร์ริสันยักไหล่
ทำให้มันง่ายสำหรับบอยล์เหรอ? ไม่มีทางซะหรอก
เขากับบอยล์ 'มีข้อตกลงกัน' บอยล์สัญญาว่าจะซื้อรถแข่งปอร์เช่รุ่นใหม่ล่าสุดให้เขา มันก็มีเหตุผลที่เขาจะผ่อนผันให้บอยล์
แต่เขาจะทำให้มันง่ายสำหรับบอยล์ และจะผ่อนผันให้มากแค่ไหนนั้น ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะหักหลังพี่สาวง่าย ๆ แบบนั้นเพื่อรถปอร์เช่
ช่างแต่งหน้ารีบเข้ามาช่วยเติมหน้าให้เชอรีช เธอพูดเล่น "วันนี้เจ้าสาวไม่ควรร้องไห้นะคะ ถึงจะเป็นเครื่องสำอางค์กันน้ำ น้ำตาก็อาจทำให้เครื่องสำอางค์เลอะได้"
ตอนเก้าโมง ขบวนรถที่มารับเจ้าสาวก็มาถึงคฤหาสน์ตระกูลฟัดด์ตรงเวลา
วันนี้ประตูที่ประดับด้วยรูปปั้นเปิดออกกว้าง ถ้ามีคนมองลงมาจากหน้าต่างบนชั้นสอง ก็จะเห็นบอยล์ถือช่อดอกกุหลาบเดินเข้ามาในคฤหาสน์ พร้อมกับญาติและเพื่อนเจ้าบ่าวด้วยชุดสูทแบบตะวันตก
วิทนีย์รีบสั่งทุกคนให้เตรียมพร้อม "เร็วเข้า พวกเขาจะมาถึงแล้ว กั้นประตูเลย"
ฮีลตันถามแฮร์ริสัน "ของที่พ่อบอกให้เตรียมไว้อยู่ไหน?"
แฮร์ริสันหยิบกุญแจล็อกขาออกมา "ผมจะลืมที่พ่อสั่งได้ยังไง?"
เวอเรียนกับเชอรีชงง พวกเธอไม่รู้เรื่องเกมเลย
ฮีลตันชี้ผ่านกรามของเขาไปที่เชอรีช และสั่งแฮร์ริสัน "ไปล็อกขาพี่ทั้งสองข้างเลย"
เชอรีชพูดไม่ออก
แฮร์ริสันหยิบกุญแจล็อคขา และก้มลงก่อนจะล็อกข้อเท้าของเชอรีช บนรองเท้าส้นเข็มที่เธอใส่
"เสร็จแล้ว!"
ฮีลตันเตือนเขา "ตั้งรหัสผ่านหรือยัง?"
แฮร์ริสันตอบทันที "ไว้ใจได้เลย เพราะผมเป็นคนตั้งเอง"
เวอเรียนรู้สึกโกรธ มันเป็นเกมที่พวกเขาเล่นในงานแต่งในตอนนั้นไม่ใช่หรือไง?
เวอเรียนถามเขา "แฮร์ริสัน ลูกตั้งรหัสอะไร? บอยล์เดารหัสได้หรือเปล่า?"
แฮร์ริสันทำท่าบอกให้เงียบ "ผมบอกไม่ได้หรอก ถ้าผมบอกตอนนี้ และพี่บอกใบ้ให้บอยล์รู้ มันก็ไม่สนุกสิครับ"
เขาไม่ให้เชอรีชส่งรหัส ไม่อย่างนั้นเขาก็จะไม่ได้แสดงบทบาทในการทำตัวให้เป็นประโยชน์ มันขึ้นอยู่กับรถปอร์เช่คันนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รัก ท่านประธาน