ตอนที่ 62 มีเรื่องสำคัญให้ถามเขา
ข้างหน้าเหมือนเป็นหมอกดำครึ้ม เดินไปไม่ถึงจุดสิ้นสุดสักที มีเสียงที่คอยเรียกหาเธอในท่ามกลางหมอกที่ดำครื้ม
"วี…."
"วี…."
"วี…."
เสียงนี้ช่างคุ้นเคย จารวีใส่ชุดนอนสีขาว เดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ เธอสับสนและเดียวดาย
ทันใดนั้นหมอกที่หนาทึบก็ค่อยๆจางหายไป มีใบหน้าญาติคนสนิทที่แสนคุ้นเคยปรากฏเข้ามาในสายตาของเธอ
นั่นก็คือแม่ แล้วก็พ่อ พี่ยุพิน แล้วยังมีคุณลุงเฉลิมชัยอีก
พวกเขายืนอยู่ตรงสุดปลายทางท่ามกลางหมอกหนาทึบ โบกมือเรียกจารวีอย่างสุดกำลัง
"วี รีบมาเร็ว รีบมาเร็วเข้า…"
ทันใดนั้น มีคนซึ่งโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ กำลังถึงปืนและจ่อไปที่พ่อกับแม่
จารวีตกตะลึงงัน ห้ามเขาอย่างลุกลี้ลุกลน “อย่ายิงนะ อย่ายิงนะ แม่รีบวิ่งเร็วเข้า พ่อรีบหนีไป…”
"ปัง ปัง…" มีเสียงปืนดังขึ้นสองนัด พ่อกับแม่ล้มลงไปในกองเลือด
จารวีตกใจจนนิ่งไป แม้แต่ลมหายใจก็ยังหยุดนิ่งไป เธอวิ่งเข้าไปหาแม่ของเธออย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปไกลเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที ยังดูเหมือนจะยิ่งไกลกว่าเดิมด้วยซ้ำ
"แม่….." กรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนราวกับปอดและหัวใจถูกฉีกแยกจากกัน
มีเสียงปืนดังขึ้นอีกสองนัด ยุพินกับเฉลิมชัยล้มในกองเลือด
"อย่านะ…."จารวีเจ็บปวดใจจนเป็นตะคริว เจ็บปวดรวดร้าวราวกับถูกโยนลงไปในเครื่องปั่น
ทันใดนั้น คนที่ถือปืนก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของจารวี
ปากกระบอกปืนสีดำจ่อไปที่หัวใจของจารวี ดวงตาสีดำที่มองเธอเต็มไปด้วยความคับแค้นใจอย่างรุนแรง
"คนในบ้านพูลสวัสดิ์ไม่มีอะไรดี คนในบ้านพูลสวัสดิ์สมควรตายทั้งหมด…"
ในตอนที่จารวีมองใบหน้าของคนตรงหน้าอย่างชัดเจนแล้วเธอก็ตกตะลึงจนขามั้งสองขยับไปไหนไม่ได้
“คนในบ้านพูลสวัสดิ์สมควรตายทุกคน คนในบ้านพูลสวัสดิ์สมควรตายทุกคน….”
คำสาปแช่งที่พ่นออกมาเสียงเบาๆเหมือนจะเร่งให้ไปตาย ทำให้จารวีหนีไปไหนไม่ได้
ทันทีที่เธอหลับตาลง แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องเข้ามาผ่านทางหน้าต่างปัดเป่าฝันร้ายที่น่ากลัว จารวีเหงื่อท่วมกาย หัวใจยังเต้นไม่หยุดด้วยความหวาดกลัว
เห็นชัดว่าเป็นแค่ความฝัน แต่ทำไมมันสมจริงขนาดนี้
"จารวี…”
เสียงที่เต็มไปด้วยความแหบออกมาจากประตูห้อง จารวีตกใจไปยกใหญ่
เพราะว่าในฝันเธอตกใจ ประกอบกับตอนนั้นยศพลตะโกนออกมา เธอจึงกรีดร้องออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
ยศพลวิ่งมาแต่ไกลจากข้างนอก เสื้อยืดสีขาวที่มีเหงื่อโชกเผยให้เห็นกล้ามเนื้อส่วนบนของร่างกายที่แข็งแรงดั่งสิงโตที่มีอำนาจเป็นเผด็จการ ซึ่งเป็นอะไรที่ยั่วยวนมาก กำลังมองจารวีที่มีปฏิกิริยาที่ผิดไปจากปกติ
ยศพลก้าวเท้ายาวเข้ามานั่งอยู่ข้างกายของจารวีแล้วยื่นมือไปลูบหน้าผากของเธอ
"เธอกลัวอะไรอยู่เหรอ?"
จารวียิ้มอย่างอ่อนแอ อยู่ดีๆเธอก็รู้สึกกลัวมากไป เป็นไปได้รึเปล่าว่าผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคือฆาตกร
ความฝันนั้นเกินจริงมากจนทำให้เธอกลัวซะจนรู้สึกหายใจไม่ค่อยออก
"ยศพล ฉันอยากพบคุณลุง ฉันมีเรื่องอยากจะถามอะไรเขาสักหน่อย"
ยศพลแสดงถึงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า แล้วลุกขึ้นยืนเดินตรงไปที่ห้องน้ำ "ตอนนี้เขาถูกรับโทษอยู่ในเรือนจำ ไม่ใช่ว่าใครอยากจะเยี่ยมก็เข้าไปเยี่ยมได้"
จารวีลงมาจากเตียงด้วยอาการเซจนเกือบจะล้ม ยศพลใช้มือทั้งสองจับเธอไว้
"เธอระวังกว่านี้หน่อยไม่ได้รึไง เธอหวังว่าผมจะเลี้ยงดูเธอไปตลอดชีวิตได้เหรอ"ยศพลตำหนิด้วยความไม่พอใจ เขาต้องการให้จารวีเคารพเกรงกลัวเขาและทำให้เธอยอมจำนนไม่ทำในสิ่งที่ตนเสนอมาเมื่อสักครู่
"ยศพล นายเป็นซีอีโอของบริษัทSTกรุ๊ป นายมีอำนาจขนาดที่จะเรียกลมเรียกฝนได้ มีชื่อเสียงกึกก้องในประเทศ ฉันรู้ ถ้าเกิดนายออกโรง ฉันก็ต้องพบคุณลุงได้อย่างแน่นอน ขอร้องล่ะ ฉันมีเรื่องสำคัญจริงๆที่ต้องถามคุณลุงน่ะ"
จารวีเข้ามาใกล้และขอร้องอย่างสิ้นหวัง
ยศพลโยนจารวีลงบนเตียงอย่างแรง จากนั้นก็หันตัวกลับเดินไปทางห้องน้ำ
"จารวี ผมคงต้องทำให้เข้าใจสถานะของตัวเองให้ชัดเจนหน่อยละ อย่ามาชี้นิ้วสั่งผม…"
"ปัง!" พอยศพลเข้าห้องน้ำก็ปิดประตูห้องน้ำเสียงดังลั่น
ทำไมเขาต้องมีปฏิกิริยาโต้ตอบที่รุนแรงขนาดนั้น
ใจของจารวีร่วงไปถึงตาตุ่ม แต่สักพักก็สงบลงได้ หรือว่าความฝันนั่นจะเป็นเรื่องจริงน่ะ
ตอนนี้เธอควรทำอย่างไร ยศพลโกรธจนเดือดดาล เป็นแค่ครั้งคราวเท่านั้นที่จะซื้อใจของเธอด้วยความโรแมนติกและอบอุ่นได้
เธอไม่ใช่หุ่นเชิด และก็ไม่ใช่คนโง่ บางทีก็หลงมัวเมากับหลุมพรางที่อบอุ่นของเขา
เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้แล้ว
เธอจะต้องหาวิธีรู้ว่าคุณลุงตกอยู่ในสภาพแบบนี้ยังไงให้ได้
ใช่แล้ว ไปหาพี่มนต์ เขาก็ต้องมีอิทธิพลในเมืองเอสเหมือนกันแน่ๆ ถ้าต้องการไปที่เรือนจำเพื่อสอบถามเกี่ยวกับที่อยู่ของคนที่สาบสูญไปของคุณลุงคงไม่มีปัญหาอะไร
ยศพลอาบน้ำเสร็จ พอออกมาก็ไม่เห็นจารวีอยู่ในห้องนอนแล้ว
ยัยผู้หญิงรนหาที่ตายคนนี้ ในสมองของเธอคงไม่ได้เอาไว้ใส่ขี้มั้ง พอถึงตอนนี้ยังจะนึกถึงลุงที่ตายไปแล้วอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย