ตอนที่95 ระบายความคับข้องใจ
หลังจากทานอาหารเย็นเสร็จ ในขณะที่มนต์ตรีกำลังจะไปส่งจารวีอยู่นั้น พวกเขาก็เจอเข้ากับยงยศที่หน้าประตูพอดี
“คุณลุงค่ะ วีจะกลับแล้วนะคะ สวัสดีค่ะ”
จารวีกล่าวลายงยศอย่างนอบน้อม เขาพยักหน้ารับพลางหันไปหามนต์ตรี “มนต์ มานี่หน่อย พ่อมีเรื่องจะคุยกับแก”
“คุณพ่อครับ ผมกำลังจะไปส่งวีกลับบ้าน ไว้ผมกลับมาค่อยคุย!”
จารวีโบกมือเป็นพัลวัน “ไม่เป็นไรค่ะ ที่นี่อยู่ห่างจากบ้านของวีไม่มากนัก เดี๋ยววีเรียกรถกลับเองดีกว่าค่ะ”
มนต์ตรีเหมือนอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่จารวีส่งสายตาบอกเป็นนัยให้เขาหยุดพูด
เธอไม่อยากให้ความสัมพันธ์ของเธอกับคุณลุงแย่ลงไปกว่านี้
มนต์ตรีลังเลสักครู่ “โอเค งั้นพี่เรียกรถให้”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่มนต์ วีมีมือมีเท้า วีดูแลตัวเองได้ค่ะ เดี๋ยวไว้วีกลับถึงบ้านแล้วโทรหานะคะ พี่ไปคุยเรื่องสำคัญกับคุณลุงท่านก่อนเถอะค่ะ วีไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ!”
จารวีสะพายกระเป๋าใบเล็กของตน พลางเดินออกจากรั้วเหล็กอย่างรีบร้อน เธอวิ่งไปตามถนน
ยงยศจ้องมองลูกชายของตน พลางเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เข้ามา!”
ภายในห้องรับแขก ใบหน้าของยงยศถูกปกคลุมไปด้วยเมฆครึ้ม เขาเอ่ยเข้าประเด็น “ต่อไปห้ามพาจารวีมาที่นี่อีก”
“ทำไมล่ะครับคุณพ่อ!”
ร่างสูงวัยของยงยศยืนหันหลังให้มนต์ตรี “ฉันเคยบอกแล้ว ว่าเรื่องของพวกแกสองคนมันเป็นไปไม่ได้ ฉันไม่อนุญาตให้แกกับเธออยู่ด้วยกัน”
“คุณพ่อ แต่เธอเป็นผู้หญิงที่ยอดเยี่ยมจริงๆ และผมรักเธอ พ่อรู้ไหมว่าผมรักเธอขนาดไหน”
มนต์ตรีเอ่ยออกไปอย่างสะเทือนใจ สิบปีมานี้ ผู้หญิงคนเดียวที่อยู่ในความฝันของเขาก็คือจารวี
ยงยศหมุนตัวกลับมาอย่างฉับพลัน “แกรู้ไหมว่าพ่อของเธอทำอะไรไว้บ้าง ถ้าแกยังจะไปข้างเกี่ยวกับบ้านนั้น บริษัทซัวกรุ๊ปของเราก็จบเห่แล้ว”
“ผมไม่สน ผมอยากแต่งงานกับจารวี ไม่ใช่พ่อของเธอ ผมไม่สนหรอกว่าพ่อของเธอจะทำอะไรไว้”
“สามหาว!” ยงยศโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาไม่คิดว่าลูกชายที่โอนอ่อนผ่อนตามเขามาตลอด จะเปลี่ยนไปเป็นคนไม่มีเหตุผลเพียงชั่วพริบตา
“มนต์!แกทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ไม่คิดเลยว่าแกจะกล้าต่อล้อต่อเถียงกับพ่อเพราะผู้หญิงคนเดียว!!”
เสียงของยงยศดังขึ้นอีก เขาตวาดเสียงดังลั่น
มนต์ตรีโต้กลับทันควัน “ตั้งแต่เล็กจนโต มีครั้งไหนที่คุณพ่อไม่ยึดเอาความคิดตัวเองมาคอยบงการผมบ้าง!ตอนเลือกสาขาวิชาที่เรียน ตอนเลือกคณะที่มหาลัย หรือแม้แต่ตอนที่เรียนจบถึงทุกวันนี้!ผมก็เป็นคนเหมือนกันนะ ผมมีความคิดมีความต้องการของตัวเอง!แต่เพื่อบ้านหลังนี้ ผมเลยอดทนมาตลอด แต่ว่าตอนนี้ผมได้เจอกับคนที่ผมชอบ คนที่ผมรักเธอมาชั่วชีวิต ยังไงผมก็จะตัดสินใจด้วยตัวเอง ครั้งนี้ผมจะไม่ทำตามความต้องการของคุณพ่อ!!”
ยงยศโมโหจนหน้าแดงก่ำ เขาง้างมือขึ้นด้วยหวังจะฟาดไปที่ไอ้ลูกไม่รักดี
มนต์ตรีเพียงมองเขาอย่างคับแค้นใจ ไม่หลบหลีกไม่วิงวอนร้องขอใดๆจากผู้เป็นพ่อ
ยงยศรับรู้ได้อย่างชัดเจน ลูกชายที่อ่อนโยนและสง่าของเขา จริงๆแล้วเป็นคนดื้อรั้นมาก ขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องที่กำหนดชัดเจนแล้ว เขาไม่มีทางไปเปลี่ยนมันได้
“ก็ดี ในเมื่อแกตัดสินใจเองโดยไม่ฟังฉัน งั้นตั้งแต่นี้เป็นต้นไป แกก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก”
น้ำเสียงดุดันราวกับระเบิดที่ประทุออกมาของยงยศ ดังเข้าสู่โสตประสาทของเขา
มนต์ตรีมองผู้เป็นพ่อเพียงแวบเดียว เขาหมุนตัวเดินอย่างฉับพลัน พลางตะบึงออกจากคฤหาสน์หลังโตที่โอ่อ่าหรูหรานี้
ยงยศพลันรู้สึกว่าเรี่ยวแรงของตนถูกสูบออกไปจนหมด เขานั่งลงบนโซฟาตัวยาวอย่างห่อเหี่ยว
หลายปีมานี้ เขาอดทนสร้างทรัพท์สินในบ้านหลังนี้มาแทบตาย เพื่อเก็บไว้เป็นมรดกตกทอดของลูกชายตน แต่คิดไม่ถึงว่าไอ้ลูกไม่รักดีจะถูกผู้หญิงทำให้หน้ามืดตามัว ทั้งยังยอมละทิ้งทุกอย่าง
ถ้าเขารู้เร็วกว่านี้ เขาจะไม่กลับมาทำธุรกิจที่ประเทศตัวเองตั้งแต่แรก....
จารวียืนโบกรถอยู่บนถนนนานครึ่งค่อนวัน ก็ยังไม่มีรถผ่านมาสักคัน
ทันใดนั้น รถเฟอร์รารีคันสีแดง ก็วิ่งมาหยุดลงที่ข้างกายของเธอ
ร่างสูงของยศพลปรากฏแก่สายตาของจารวี “ขึ้นรถ!”
จารวีมองเขาอย่างงุนงง พลางส่ายหัวไปมา “ฉันไม่รู้จักคุณ”
“รู้ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรหรอก ขึ้นรถ เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน ไม่คิดตังค์หรอกน่า!” ยศพลพยายามสะกดกั้นอารมณ์โมโหที่เดือดพล่านในใจของตน เมื่อเห็นจารวีเดินออกมาจากบ้านของมนต์ตรีอย่างสนิทชิดเชื้อ เขาก็แทบอยากจะพุ่งเข้าไปควักลูกกระตาของไอ้มนต์ตรีทิ้งไปซะ
จารวีลังเล “ฝนจะตกแล้ว เธออยากจะรอจนถึงกลางถึงหรือไง!ฉันไม่กินเธอหรอกน่า”
พลันจารวีก็จำได้เลือนรางว่าเขาคือคนที่ช่วยเธอไว้ที่มหาวิทยาลัยเมื่อครั้งก่อน ผู้ชายคนนี้ดูเหมือนคนโหดเหี้ยม แต่เขาก็ไม่ได้ทำไม่ดีอะไรกับเธอ
ยศพลมองเธออย่างเยือกเย็น พยายามระงับความโกรธของตน “อืม แล้วแต่เธอ ถ้าไม่ขึ้นมาฉันไปแล้ว”
“นี่!โอเค ขึ้นก็ได้!”
จารวียังคงหวาดกลัว เธอไม่กล้าขึ้นไปนั่งเบาะใกล้คนขับ จึงขึ้นไปนั่งที่เบาะหลัง
ยศพลเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงอย่างสะกดกั้นอารมณ์ ถ้าไม่ใช้เพราะเขาไปได้ยินคำแนะนำของนายแพทย์คนนั้น เขาจะจับแต่กดไว้ใต้ร่าง พร้อมกับสั่งสอนเธอสักรอบสองรอบ ให้เธอรู้ไว้ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้ชายของเธอ
ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้ ทำไมต้องความจำเสื่อม ทำไมต้องลืมเขาด้วย!
ภายใต้ความโมโหเดือดดาลของยศพล เขาเหยียบคันเร่งสุดแรงเกิด ความโกรธเดือดพล่านในใจอย่างไม่ลดละ
“นี่ ขับช้ากว่านี้ไม่เป็นหรือไง!” จารวีหวาดกลัว เห็นได้ชัดว่าผู้ชายตรงหน้าเธอสมองมีปัญหา ขับรถเร็วขนาดนี้ อยากตายหรือไงก็ไม่รู้!
ยศพลเหยียบคันเร่งต่อไป โดยไม่สนใจเธอแม้แต่น้อย
รถทะยานไปข้างหน้า จนถึงหน้าประตูใหญ่ของอพาร์ทเมนต์จารวี ยศพลจึงหยุดรถ
จารวีเดินลงจากรถ เธอครุ่นคิดสักพัก จากนั้นเอ่ยประโยคธรรมดาออกมา “ขอบคุณนะ!”
ยศพลพลันรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างหลอมละลายหัวใจของเขา นี่เธอยอมพูดกับเขาแล้วงั้นหรอ?
สายตาของยศพลจับจ้องไปยังร่างบางที่เดินจากไปอย่างช้าๆ เขาแทบจะอดไม่ได้ที่จะพรวดพราดเข้าไปดึงเธอเข้ามาไว้ในอ้อมกอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เล่ห์รักเมียตัวน้อย