เมียเสี่ย นิยาย บท 34

“จะส่งผมไปดูสาขาย่อยหรือไง”

ธุรกิจของเสี่ยขุนหลักๆคือนำเข้ารถหรูมาขาย ตอนนี้เป็นบริษัทใหญ่ที่สุดในจังหวัด และมีสาขาย่อยหลายแห่ง ส่วนธุรกิจย่อยอื่นๆ ก็ตามแต่เสี่ยอยากซื้อมาทำกำไร บริษัทไหนมีปัญหาแล้วเสี่ยพอเห็นช่องทางว่ามันจะสร้างรายได้ เสี่ยซื้อไว้หมด ทั้งๆที่บางบริษัทก็บริหารไม่เป็นด้วยซ้ำ ถ้าเขาถูกส่งไปบริษัทพวกนั้น เขายอมเป็นเลขาไปตลอดชีวิตดีกว่า ขี้เกียจแก้ปัญหาให้บริษัทอื่น

“ไม่ๆ พวกนั้นมีคนดูอยู่แล้ว อยากให้นายรับช่วงบริษัทก่อสร้าง ไอซ์คงทำไม่ไหว” อัครราชวางปากกาสีทองลงบนโต๊ะ พิงหลังกับเก้าอี้ทำงาน เพื่อสำรวจน้องชายเงียบๆ

เขาจับตาดูคนรอบตัวมาเกือบหนึ่งเดือนแล้ว ทุกคนทำตัวปกติมาก เหมือนรู้นอกในเขาทุกอย่าง เขาเองก็เครียดมากขึ้นเพราะจับมือใครดมไม่ได้สักที จึงคิดหาแผนการมาหลอกล่อให้คนพวกนั้นแสดงตัวออกมา การยกตำแหน่งให้ปณิธานก็เป็นแผนการของเขา

“แล้วคิดว่าผมทำไหว? อยู่กับรถมาเกือบห้าปี อยู่ดีๆจะถีบหัวไปบริษัทก่อสร้าง ใช้สมองหรืออะไรคิด”

ปณิธานไม่สนใจบริษัทนั้นหรอก ถ้ายกโชว์รูมเปิดใหม่ที่กรุงเทพให้ดูแลก็ว่าไปอย่าง แต่ที่นั่นมีวารีน้องสาวดูแลอยู่แล้ว เขาเลยไม่หวัง อยู่กับเสี่ยขุนก็ดีแล้ว แม้จะเหนื่อยหน่อย แต่ก็ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรมาก

“งั้นขายคืนให้กรรณิการ์”

“เธออยากได้คืนเหรอ” ปณิธานไม่รู้จริงๆ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยสุงสิงกับคนอื่น งานยุ่งจะตายห่า จะเอาเวลาไหนไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน

“คงจะเป็นแบบนั้น แม้จะไม่พูดออกมาตรงๆ แต่พยายามจะโน้มน้าวให้ขายหุ้นคืนอยู่ตลอด”

“ก็ขายๆไปสิ ปีหน้าธุรกิจอสังหาฯมันจะซบเซา รีบเทขายแล้วเอาเงินไปลงทุนตัวใหม่ดีกว่า”

ปณิธานเรียนบริหาร จบป.ตรี พี่ชายก็ถีบหัวส่งไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศทันที หวังให้เขามาเป็นเรี่ยวแรงอีกคน ตอนแรกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่พี่ขุนทำ ตอนนี้เริ่มเข้าใจแล้ว เพราะพนาที่อายุเท่านั้นไม่เอาอ่าว เขาเลยถูกตั้งความหวังไว้เยอะมาก

“ปีหน้าอะไรก็ดิ่งลงเหวหมดแหละ ว่าแต่นายคิดว่าดีแล้วจริงๆเหรอ”

“อืม ก็ดีนะ ไหนๆไอซ์ก็ไม่อยากขึ้นบริหารอยู่แล้ว ก็ให้ทำงานอินทิเรียไปเถอะ ถ้าบริษัทนั้นปิดกั้นเรื่องลูกค้า ก็ให้จัดหาลูกค้าผ่านทางออนไลน์ไปเลย คนมีฝีมือ ไม่ต้องมีชื่อบริษัทก็ดัง”

อัครราชพยักหน้าขึ้นลงอย่างเห็นด้วย แม้จะยังไม่คลายความสงสัย แต่สิ่งที่ปณิธานพูดก็มีเหตุผล เป็นความคิดที่ดี สมกับที่เขาไว้วางใจให้เป็นมือขวา

“งั้นฝากจัดการหาที่เงียบๆให้ไอซ์ทำงานด้วยนะ”

“ถ้ามาทำที่เดียวกัน มันจะเงียบเร้อ”

ปณิธานพูดแซวขำๆ แต่ไม่คิดว่าใบหน้าพี่ชายจะแดงก่ำได้ขนาดนี้ พี่ชายคงรักเธอจริงๆสินะ โชคดีที่เขาถอนตัวออกมาก่อน ไม่งั้นเขาคงพลั้งพลาดทำร้ายคนที่พี่ชายรักแน่ๆ

“แอบฟังผู้ใหญ่ทำภารกิจมันไม่ดี”

“คืนนี้ชวนไอซ์ไปกินเหล้าได้ไหม” ปธิธานเมินคำพูดตำหนิ ถือเอกสารสั่งซื้อมาวางลงบนโต๊ะให้พี่ชายตรวจสอบ แอบขอร้องทางสายตา จนพี่ชายพยักหน้าขึ้นลงอนุญาต

“ร้านเดิม?”

“อืม ร้านนั้นแหละ เหล้าเด็ด”

“ฮะฮ่า เหล้าหรืออะไร อยู่คนเดียวเริ่มเบื่อแล้วสิ” ใบหน้าหล่อเหลาหัวเราะจนตาหยี มีแววว่าเขาจะต้องเสียเงินเป็นเถ้าแก่ไปสู่ขอเจ้าสาวให้น้องเร็วๆนี้แน่

“ก็นะ”

ปณิธานเดินกลับไปนั่งทำงานต่อ แต่ไม่มีสมาธิหรอก เมื่อหวนคิดถึงสาวเจ้าของร้านเหล้าชื่อดัง หลังจากคืนนั้นที่ไปกับพี่ชาย เขาไม่ได้เข้าไปอีกเลยเพราะเผลอทำเรื่องแย่ๆกับเธอไป เคยคิดไว้ว่าช่างมันเถอะเดี๋ยวเธอก็ลงลืม แต่กลายเป็นว่าเขานี่สิ ที่ไม่เคยลืมรสสัมผัสของเธอเลย

18.00

อารยามาถึงร้านของเพื่อนก่อนเวลาที่เสี่ยโทรมานัดนิดหน่อย เพราะติดต่อเพื่อนสาวทั้งสองคนไม่ได้จึงต้องเดินทางมาก่อน เสี่ยย้ำนักหนาว่าให้ชวนเพื่อนมาร่วมโต๊ะด้วย เดาได้ไม่ยากเลยว่าเพราะอะไร เหมือนคุณเลขาของเสี่ยจะติดใจยัยปรายเพื่อนสาวของเธอเข้าแล้ว

“ปรายทำไมไม่รับโทรศัพท์” อารยาเดินเข้าไปหาเพื่อนที่นั่งดื่มเหล้าเงียบๆตั้งแต่หัววัน เพราะเสี่ยไม่ค่อยให้เข้าไปทำงานในบริษัท เธอจึงว่างมากๆ การมาหาเพื่อนที่ร้านนี้ เหมือนจะกลายเป็นกิจวัตรไปแล้ว

“วันนี้เราเจอผู้หญิงคนนั้นมา สภาพเธอดูแย่มาก” วันนี้ปัญณิสามีเรียนเช้า เธอขับรถไปเรียนที่กรุงเทพ เรียนเสร็จก็กลับมา เพราะที่เรียนกับบ้านอยู่ห่างกันไม่ไกล แต่ระหว่างที่แวะกินข้าว เธอเจอกับเมียน้อยเสี่ยขุนเข้า สภาพผู้หญิงคนนั้นดูไม่ได้เลย เนื้อตัวมีแต่รอยช้ำ ยังไม่ได้ถามอะไร ยัยนั่นก็วิ่งหนีหายไปจากสายตา

“หมายถึงใครเหรอปราย”

“เมียน้อยเสี่ยขุน” รู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่เธอจำชื่อผู้หญิงคนนั้นไม่ได้จริงๆ

“มารวี?”

“เออนั่นแหละ ยัยนั่นยังติดต่อกับสามีไอซ์อยู่ป่ะ คงไม่ใช่ว่าสามีไอซ์ไปทำร้ายเขาหรอกนะ”

“ไม่นะปราย เสี่ยไม่ค่อยได้ไปไหนเลย”

อารยาไม่ค่อยมั่นใจนัก แต่เท่าที่เธอรู้เสี่ยไม่ได้ไปไหนเลยช่วงเกือบเดือนที่ผ่านมา ตื่นเช้าก็มาทำงานโดยมีเธอห้อยตามไปด้วย มืดค่ำก็กลับบ้าน แต่มันก็มีช่วงที่เธอมาหาเพื่อนกับช่วงที่เธอเข้าไปทำงาน ที่เธอไม่รู้เหมือนกันว่าเสี่ยแอบไหนหรือเปล่า

“เธอไม่ได้อยู่กับเขาตลอดเวลานะไอซ์” ปัญณิสาแค่สงสารผู้หญิงด้วยกัน ไม่ได้ตั้งใจจะปรักปรำเสี่ยหรอก ถ้าไม่ใช่ก็แล้วไป แต่ถามให้แน่ใจก็ใช่ว่าจะผิด

“ฉันเชื่อใจเสี่ย”

“งั้นใครละจะทำแบบนั้น เธอท้องด้วยนะไอซ์ น่าสงสาร”

“เดี๋ยวจะลองปรึกษาเสี่ยดูนะ” อารยาเองก็ไม่สบายใจ คนท้องถูกทำร้ายร่างกายแค่ฟังก็รู้สึกแย่เต็มทน

“จ๊ะ แล้วนี่ไอซ์มาเกือบทุกวันแบบนี้ เสี่ยไม่ว่าเหรอ”

“ไม่หรอก ช่วงนี้เสี่ยเลิกดึกอะ กลับบ้านทีเกือบสามทุ่ม ไอซ์ว่าง”

“แต่ช่วงนี้ไม่เจอลรินเลยเนอะ ได้ข่าวว่าติดผู้” ปัญณิสาพูดเสียงเรียบ ตั้งแต่วันนั้นที่ไอซ์มาปรึกษาเรื่องหย่า เธอก็ไม่เคยเจอหน้าลรินอีกเลย เห็นอยู่ไกลๆว่าไปกับผู้ชาย ไม่รู้ว่าคนๆนั้นเป็นใครด้วย

“คงเจอคนที่ถูกใจแล้วแหละมั้ง” ลรินเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย นิสัยแรงๆของเธอบางครั้งก็น่าเป็นห่วง แต่เพราะที่ผ่านมาเพื่อนเอาตัวรอดได้ดี จึงไม่มีใครกล้ายุ่งมากนัก ได้แต่มองดูอยู่ห่างๆ แม้จะเป็นห่วงมากก็ตาม

สองสาวเริ่มสั่งเครื่องเดิมมาเพิ่ม เมื่อขวดเดิมที่ปัญณิสาดื่มก่อนหน้าหมดลง อารยาเคยถามสามีบ่อยครั้ง ว่าไม่ชอบใจหรือเปล่า ที่เธอออกมานั้งแหมะอยู่ร้านเหล้าบ่อยๆ คำตอบของเสี่ยคือไม่ อะไรที่เธอทำแล้วไม่กระทบกับการทำหน้าที่ภรรยา เสี่ยไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ออกจะชอบใจด้วยซ้ำที่เธอดื่ม เสี่ยบอกว่าพูดกับเธอตอนเมา ง่ายกว่าตอนปกติเยอะเลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียเสี่ย