ศศินารับฟังคำตอบจากปิติศักดิ์ด้วยใจสั่นหวิว สังหรณ์มากมายเกิดขึ้นในหัว เธอไม่รู้ว่าภัทรพลมีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหก ตลอดระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันมาภัทรพลไม่เคยโกหกเธอเลยสักครั้ง วันอังคารที่แล้วเขาไม่ได้ไปดื่มกับปิติศักดิ์ ตัวเขาไม่มีกลิ่นเหล้า เธอยังคิดในแง่ดีว่าเพราะเขาต้องดูแลเพื่อนเลยไม่ดื่ม คีย์การ์ดในกระเป๋าไม่ใช่ของเพื่อนคุณเต้ แล้วของใคร ศศินาต้องตั้งสติอยู่นานกว่าจะขับรถกลับคอนโดได้ ห้าโมงเย็นเธอถึงห้องภัทรพลยังไม่กลับมา จนกระทั่งเวลาหนึ่งทุ่มซึ่งเป็นเวลาปกติที่เขากลับบ้าน ภัทรพลจึงโผล่หน้าเข้ามา
“นาทำอะไร หอมจัง กลิ่นแบบนี้กุ้งอบเกลือแน่ๆ เลยใช่ไหม”
เขาเดินเข้ามาหอมเธอที่แก้มของเธอ แล้วไปนั่งที่โต๊ะกินข้าว
“ว้าวมีแชมเปญด้วย เนื่องในโอกาสอะไร”
ภัทรพลเปิดฝาครอบกุ้งอบเกลือออก แล้วใช้ส้อมจิ้มกินอย่างอร่อย เพราะศศินาแกะมาเรียบร้อย ศศินามองแฟนหนุ่มนิ่งนานไม่ได้พูดอะไร เมื่อเขามองมาเธอก็หลบสายตาทำเป็นจัดจานเพราะไม่สามารถที่จะมองหน้าเขาได้
“นาปิดจ็อบใหญ่ของบริษัททีพีได้ เลยอยากฉลอง”
“โอ้โห มูลค่าร้อยล้านเลยนะนั้น เมียใครน้าเก่งจัง”
พูดพรางลุกขึ้นมาหอมแก้มอีกรอบศศินาเบี่ยงหน้าหลบเพราะทนรับสัมผัสจากเขาไม่ได้ แค่คิดว่าเขาโกหกเธอ เธอก็ไม่สามารถทนมองหน้าเขาได้อีกต่อไป ภัทรพลมีเหตุผลอะไรที่ต้องโกหกเธอ ศศินาคิดหาเหตุผลมากมายในหัวเพื่อหาข้อแก้ต่างให้เขา แต่ก็นึกเหตุผลที่ควรจะเป็นไม่ออก สังหรณ์ในใจรุนแรง ว่าเหตุการณ์คราวนี้จะไม่ธรรมดาเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และมันต้องเป็นเรื่องใหญ่มาก
“พีทไปอาบน้ำก่อนนะ แล้วค่อยออกมากินข้าวกัน”
ภัทรพลเดินเข้ามากดจูบอีกรอบ รู้สึกแปลกใจที่ศศินาเบี่ยงตัวหลบอีกครั้ง
‘สงสัยจะเหนื่อย’
"นาเห็นแบตจะหมดก็เลยเอามาชาร์จให้”
ภัทรพลมองจ้องคนรักอย่างค้นคว้า แล้วพูดว่า
“ไม่เป็นไร นาไปนอนเถอะ เดี๋ยวฉันชาร์จเอง”
ศศินาตัดสินใจเดินไปล้มตัวนอนที่ข้างเตียง น้ำตาไหลริน กลั้นเสียงสะอื้นไว้ ฝั่งภัทรพลเมื่อได้โทรศัพท์มาอยู่ในมือแล้วก็รีบกดเข้าไปดูแอพลิเคชั่นข้อความ ที่สนทนากับนลินีกดลบทั้งหมดอย่างรวดเร็ว มองหาที่ชาร์จแบตมาชาร์จแล้ววางลง ก่อนจะเปลี่ยนใจยกขึ้นมาอีกครั้งแล้วเปลี่ยนรหัสผ่าน เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงเดินไปทรุดตัวลงนอนข้างศศินาที่นอนตะแคงหันข้างอยู่ เขาดึงเธอเข้ามากอดแล้วเขาก็หลับไป ศศินาซึมซับเอาอ้อมกอดของแฟนหนุ่มไว้ แล้วนึกถึงวันคืนที่ผ่านมาวันนั้นวันที่แม่ของเธอเสียเธอไม่เหลือใครอีกแล้วบนโลกใบนี้ไม่มีใครสักคนที่จะคอยห่วงหาอาทรเธอเพราะครอบครัวคนสุดท้ายของเธอได้จากไปแล้ว แล้วก็มีอ้อมกอดนี้ที่เข้ามา เขาบอกกับเธอว่า ‘ฉันจะเป็นครอบครัวให้แกเอง’
ศศินารู้ดีว่าได้ยึดเอาอ้อมกอดนั้นให้เป็นความอบอุ่นของหัวใจ ยึดเอาคำสัญญานั้นให้เป็นหลักในชีวิต แต่วันนี้อ้อมกอดของเขาทำไมมันถึงหนาวเหน็บแบบนี้ หรือนี่จะถึงเวลาที่เธอจะต้องเดินออกไปจากอ้อมกอดนี้แล้วจริงๆ ศศินานอนหลับไปพร้อมคราบน้ำตาเต็มใบหน้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ
สงสารน้ำหวาน สงสารหนูนา ไอ้พีทคือผู้ชายเลวๆ ที่เห็นได้ทั่วไปเลยอะ...