เมียครับ ผัวขอโทษ นิยาย บท 48

Rrrrr Rrrrrr

เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เรียกสติเธอให้กลับมาอยู่กับปัจจุบัน ศศินาเช็ดน้ำตาที่ไหลลงมาข้างแก้มเบาๆ มองดูเวลาที่หน้าปัดบอกเวลาของรถยนต์ เกือบสามทุ่ม นี่เธอนั่งเหม่ออยู่ที่นี่มาสองชั่วโมงแล้ว ศศินาเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าที่กำลังส่งเสียงกรีดร้อง เห็นเป็นเบอร์ของเขาโทรเข้ามา ลังเลว่าจะรับดีไหม สุดท้ายสัญญาณเรียกเข้าก็ถูกตัดไป ศศินากลับมาคิดทบทวนจิตใจตนเอง เธอจะทำยังไงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ดี มันเป็นโจทย์ที่ยาก ยากมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ภัทรพลคงมีใจให้ทางนั้นไม่น้อย ที่ผ่านมานอกลู่นอกทางก็แค่ซื้อกิน มาเจอของดีของพรีเมี่ยมอย่างนลินีเข้าก็คงติดใจถึงได้โกหกเธอได้ แค่ในระยะเวลาสั้นๆ ผู้หญิงคนนั้นยังมีความสำคัญต่อเขาขนาดนี้เขาถึงกับกล้าโกหกเธอ คนที่ไม่เคยมีความลับต่อกันสามารถโกหกกันได้เพราะต้องการรักษาความสัมพันธ์กับคนที่เพิ่งเจอ เขาคงหลงทางนั้นมาก แค่นึกถึงว่าเขาจะมีช่วงเวลาพิเศษกับคนอื่นออดอ้อนคนอื่น ทำกับคนอื่นเหมือนที่ทำกับเธอใจเธอมันก็ร้าวไปหมด ถ้าไม่มีเหตุบังเอิญให้เธอต้องสงสัยเธออาจจะรู้ตัวอีกทีตอนที่เขาเลือกคนอื่นไปแล้ว หรือบางทีระหว่างเธอกับเขาอาจจะเป็นแค่ความผิดพลาด และอาจจะเป็นแค่ความผิดพลาดที่เคยชิน เคยชินที่จะมีเพราะเขาไม่เคยเปิดโอกาสให้ใครเหมือนที่เปิดโอกาสให้เธอ ไม่เคยต้องเปรียบเทียบไม่เคยต้องมีตัวเลือก เพราะเธอเป็นตัวเลือกเดียวที่เขามีมาตลอด ในวันที่มีโอกาสได้เปรียบเทียบเธออาจะไม่ใช่ทางเลือกของเขาแล้วก็ได้ เสียงข้อความจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น เธอเหลือบตามองโดยไม่ได้เปิดเข้าไปอ่าน

‘นาอยู่ที่ไหน กลับบ้านเราเถอะนะ พีทเป็นห่วง’

น้ำตาของเธอไหลลงมาอาบแก้มอีกครั้ง ศศินารู้สึกเหมือนถูกกระตุกกลับด้วยเชือกที่มองไม่เห็น เชือกที่เขาใช้ร้อยรัดเธอมานาน และเธอก็พึงพอใจที่จะให้เขาร้อยรัดมันอยู่แบบนั้น เหมือนทาสผู้ซื่อสัตย์ ที่ผูกติดอยู่กับคำว่ารัก คำว่าครอบครัว ไม่กล้าแม้แต่จะไปไหน แต่ตอนนี้เธอเจ็บเหลือเกิน เจ็บซ้ำๆ กับเรื่องเดิมๆ

“พีทขอโทษ พีทรักนานะ” อีกหนึ่งข้อความที่ถูกส่งมา ศศินาเช็ดน้ำตาพร้อมบอกกับตัวเองว่าเจ็บให้ถึงที่สุด เจ็บให้พอ เผื่อว่าความเจ็บปวดจะทำให้เธอตัดใจได้เสียที ศศินาตัดสินใจเคลื่อนรถออกจากที่จอด มีเสียงข้อความดังขึ้นต่อเนื่องอีกสองสามครั้งแต่เธอไม่ได้หยิบมาดู สลับกับเสียงโทรเข้าดังตลอดเวลา

ห้าทุ่มแล้วแต่ศศินายังไม่กลับ เขาโทรหาเธอไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เธอไม่ยอมรับสาย ส่งข้อความไปก็ไม่อ่าน เป็นห่วงแทบบ้าเป็นยังไงเพิ่งเข้าใจในวันนี้ ในตอนที่นักข่าวยื่นไมค์ไปที่เธอมันบีบหัวใจเขาจนแทบจะหลุดจากขั้ว เขาอยากจะประกาศออกไปว่าใช่เธอเป็นเมียของเขา เขามันก็แค่ผู้ชายเลวๆ ที่นอกใจเมีย เมียที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขามานานถึงแปดปี เมียที่รักและให้อภัยเขาเสมอมา แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรเธอก็ประกาศออกไปว่าระหว่างเธอกับเขาเป็นเพียงเพื่อนกัน เขารู้ รู้ว่าเธอทำแบบนั้นทำไม เขาเข้าใจเหตุผลของเธอดี เธอทำเพราะเธอต้องการปกป้องเขา ปกป้องชื่อเสียงธุรกิจของครอบครัวเขา เพราะเธอรู้ว่าสยามพาณิชย์ประกันภัยสำคัญสำหรับเขา มันไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่มันคือความภาคภูมิใจและภารกิจจากรุ่นสู่รุ่น ภัทรพลนึกถึงใบหน้าของศศินาที่พยายามปั้นยิ้มให้สัมภาษณ์ เขารู้ว่าภายใต้ใบหน้ายิ้มแย้มนั้น ข้างในเธอปวดร้าวแค่ไหน ในตอนที่เธอเดินหันหลังจากไป เขาอยากวิ่งตามแล้วคว้าเธอไว้ โอบกอดเธอและให้เธอร้องให้กับอกเขา แต่สิ่งที่ทำได้ในเวลานั้น ทำได้เพียงมองเธอเดินจากไปจนลับตา เขาต้องปั้นยิ้มให้สัมภาษณ์ข้างนลินีและคุณลุงของเธอ ตอบคำถามนักข่าว และยืนเป็นหุ่นหน้ายิ้มให้นักข่าวเก็บภาพ พอเสร็จงานเขาตั้งใจจะโทรหาศศินาและตามเธอไป แต่ท่านรัฐมนตรีช่วยก็เรียกเขาไปพบเป็นการส่วนตัว ท่านตำหนิเขาที่ทำให้เกิดเรื่องเสียหายขึ้นในงาน ท่านเรียกร้องให้เขาแสดงความรับผิดชอบต่อชื่อเสียงของครอบครัวท่าน

‘คุณภัทรพลผมชื่นชมในความเป็นคนหนุ่มอนาคตไกลของคุณนะ แต่เรื่องนี้ทำให้หลานสาวผมเสียชื่อเสียง ผมบอกตรงๆ ว่าครอบครัวผมไม่ได้อยากให้น้ำหวานเข้าวงการตั้งแต่แรก แต่เพราะเขาชอบและมีความฝันที่จะทำงานด้านนี้ ถึงได้อนุญาตให้ทำงานในวงการได้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาน้ำหวานไม่เคยทำให้ครอบครัวต้องผิดหวังทำแต่เรื่องดีดี ได้รับเสียงชื่นชมไม่ขาด แต่เหตุการณ์ในวันนี้ชื่อเสียงวงษ์ตระกูลของครอบครัวผมต้องด่างพร้อยไปหมด ถ้าคุณรักใคร่ชอบพอกับหลานสาวผมจริง ก็ทำให้มันถูกต้องเข้าตามตรอกออกตามประตู อย่าย่องไปหากันดึกๆ ให้นักข่าวเก็บภาพมาขายอีก”

ท่านจากไปพร้อมกับสั่งให้เขารีบไปพบกับพ่อแม่ของนลินี ความกดดันมากมายถูกแบกไว้ที่บ่าทั้งสองข้าง

วันนี้กว่าจะจัดการเรื่องยุ่งยากให้เรียบร้อยได้ก็ใช้เวลาไม่น้อย หลังจากนั้นเขาก็ต้องขับรถไปส่งนลินีที่คอนโด ที่เอาแต่ร้องให้และโทษตัวเองไปตลอดทาง เขาต้องอยู่ปลอบใจเธอให้หายเศร้า โดยที่ใจก็ห่วงไปถึงเมียอีกคนว่าตอนนี้จะมีใครปลอบใจเธอบ้างไหม ซึ่งจริงๆ เขารู้ดีว่า ‘ไม่มี’

เขามาถึงห้องเกือบสามทุ่ม เดินตามหาศศินาไปทั่วคอนโดแต่ก็ไม่พบเขากังวลใจแทบบ้า โทรหาเธอไม่รู้ตั้งกี่รอบโทรไปถามที่บ้านของเขา เพราะคาดหวังว่าเธออาจจะไปแต่ก็ไม่มี ที่บ้านยังไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่เชื่อเถอะว่าพรุ่งนี้พอข่าวของเขากับนลินีออก พ่อต้องโทรมาเฉ่งเขาแน่ๆ เสียงลูกบิดประตูดังขึ้น ภัทรพลผุดลุกขึ้นจากโซฟาในห้องนอน เดินออกไปที่ห้องรับแขก ศศินาในเสื้อผ้าชุดเดิมดูอ่อนล้า เดินเข้ามาในเวลาห้าทุ่มเศษ เธอดูเหมือนตุ๊กตากระเบื้องเคลือบเปราะบางและแตกสลาย ทันทีที่ตาสบกันน้ำตาของเขาก็ไหลออกมา

“นาพีทขอโทษ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ