ตอนเย็นก็ขับรถกลับบ้านด้วยบรรยากาศเงียบเหงา ศศินาก็ไม่คุยกับเขาเหมือนเดิม เธอเพ่งมองแต่นอกหน้าต่างรถ ไม่รู้ว่ามีอะไรดี หรืออาจจะไม่ดี แต่เหม็นหน้าเขาจนไม่อยากจะมอง
“นา วันนี้เราแวะหาอะไรกินก่อนกลับบ้านไหม กินข้าวข้างนอกดีกว่านาจะได้ไม่ต้องทำ”
“อืม”
เธอพยักหน้า เขาเลี้ยวรถเข้าร้านอาหารอิตาเลี่ยนร้านประจำที่มักจะมาด้วยกัน ที่อยู่ก่อนถึงคอนโดแค่สองกิโลเมตร
“วันนี้ทานอะไรดีครับ”
บริกรเดินออกมารับออร์เดอร์อย่างคนที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะเขากับศศินามาทานกันที่นี่อย่างน้อยเดือนละครั้งเป็นเวลานานถึงสี่ปีแล้ว
“เอาเหมือนเดิมนะนา บรูเชตต้า คาเปรเซ่สลัด ริชอตโต้ แล้วก็ ราวีโอลี่ทรัฟเฟิลครับเครื่องดื่มขอเป็นสปาร์กลิ้ง วอเตอร์”
เขาสั่งเมนูที่ศศินาสั่งประจำ ซึ่งส่วนใหญ่นั้นเป็นเมนูที่เขาชอบ ปกติศศินาจะเป็นคนจัดการ เขาแค่นั่งรอกินแต่วันนี้เขาอยากดูแลเธอบ้าง
ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะเขาดังขึ้น เขาเหลือบตามองเห็นเป็นเบอร์ของนลินี เลยคว่ำหน้าจอไว้เพราะไม่อยากให้ศศินาต้องขุ่นเคือง แต่โทรศัพท์ก็ยังสั่นอยู่แบบนั้น
“คุณนา คุณพีทสวัสดีครับ”
ติณห์ พิริยะกุล เดินเข้ามาทักทาย
“คุณติณห์ สวัสดีครับ มาทานข้าวเหรอครับ”
“ใช่ครับ พอดีพาลูกค้ามาเลี้ยง”
เขาหันไปมองเห็นเลขาของติณห์ กำลังพาแขกไปที่ห้องรับรองที่จัดไว้เป็นส่วนตัว
“คุณนาสบายดีนะครับ ผมเห็นข่าวงานเมื่อวานแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ”
ติณห์ส่งยิ้มจริงใจมาให้ วันนี้มีแต่คนพูดถึงข่าวของสยามพาณิชย์ ทุกพื้นที่ของสื่อไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคมการเมือง ล้วนแต่มีภาพข่าวงานเมื่อวาน โดยเฉพาะข่าวบันเทิง ที่มีแต่รูปผู้บริหารหนุ่มหล่อของสยามพาณิชย์กับนางเอกสาวพรีเซนเตอร์ของบริษัท เรียกได้ว่าชื่อของสยามพาณิชย์ และ ภัทรพล พาณิชย์ศิริกุล น่าจะเป็นคำค้นหาต้นๆ ของวันนี้
“ขอบคุณมากค่ะคุณติณห์ เดี๋ยวเดือนหน้าปล่อยโฆษณาของพิริยะ นาว่าก็จะถูกพูดถึงเยอะเหมือนกันค่ะ”
หญิงสาวยิ้มบางๆ
“หวังให้เป็นแบบนั้นครับ ผมขอตัวก่อนนะครับ”
“สวัสดีค่ะ”
ก่อนที่ติณห์จะเดินจากไปเขาก็หันกลับมาพูดว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เมียครับ ผัวขอโทษ