กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ นิยาย บท 1134

ฝูกวงกล่าวออกมาด้วยความเป็นห่วง “นายท่าน......”

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นในทันใด ออกคำสั่งกับเหล่าองครักษ์ให้ไปปกป้องดูแลเยี่ยจิ่งหานให้ดี

“นายท่าน ทั่วทั้งดินแดนวิญญาณเยือกแข็งไม่มีใครสามารถบุกเข้าไปในตำหนักยูซุยได้ นับประสาอะไรกับองครักษ์ของพวกเรา”

“อาม่อจากไปแล้ว หากข้าเดาไม่ผิด เมื่อเสี่ยวเยี่ยเยี่ยฟื้นขึ้นมา หากพบว่าตนเองตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ เขาเองก็คงจากข้าไปเป็นแน่”

“เช่นนั้นข้าจะรีบส่งคนไปปกป้องคุณชายเยี่ยทันที”

ฝูกวงเพิ่งจะพูดจบ

องครักษ์คนหนึ่งเข้ามารายงานด้วยความร้อนรน

“นายท่าน เสี่ยวเฟิงโห้วขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ข้าน้อยไม่กล้าขวางเขา จึงทำได้เพียงปล่อยให้ชิงเฟิงและเจี้ยงเสวี่ยพาตัวเสี่ยวเฟิงโห้วจากไป”

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างขมขื่น

เป็นอย่างที่คิด......

ต้องการจากไปอย่างที่คิด

ฝูกวงกล่าวออกมา “นายท่าน ท่านอย่าได้กังวล ข้าจะรีบส่งคนไล่ตามคุณชายเยี่ยทันที”

“ไม่จำเป็น เขาอยากไป ใครก็ห้ามเขาไม่ได้ทั้งนั้น ให้เขาได้อยู่อย่างสงบก็ดีแล้ว”

“แต่เสี่ยวเฟิงโห้วได้รับบาดเจ็บ......”

“เขาไม่มีทางเป็นอะไร และไม่อาจเป็นอะไรได้”

“ขอรับ”

วันนี้ จักรพรรดินีได้มอบรัฐปิงให้หยางโม่เป็นผู้ดูแลชั่วคราว และตนเองก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ต้าเฟิงโห้ว เสี่ยวเฟิงโห้ว รวมถึงม่อเหม่ยเหรินเองก็ต่างหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาไปอยู่ที่ไหน

หยางโม่ส่งคนจำนวนมากออกไปตามหาพวกเขา แต่ตั้งแต่ต้นจนจบก็ไม่พบร่องรอยของพวกเขาแม้แต่นิดเดียว

มีคนบอกว่าพวกเขาตายแล้ว และก็มีคนบอกว่าจักรพรรดินีพาเสี่ยวเฟิงโห้วและม่อเหม่ยเหรินเดินทางออกไปท่องเที่ยว เพลิดเพลินไปกับภูเขาและแม่น้ำ

แต่อย่างไรก็ตาม......สถานที่เดินทางของพวกเขายังคงเป็นปริศนา

ดินแดนเยี่ยอวี่

กู้ชูหน่วนควบม้าอย่างดุเดือด ด้านหลังของนางมีฝูกวง ลั่วอิ่ง รวมถึงผู้อาวุโสหกติดตามมา

ผู้อาวุโสหกหายใจหอบ “อาหน่วน เจ้าจะวิ่งเร็วขนาดนี้เพื่ออะไร กระดูกแก่ ๆ ของข้าใกล้จะแหลกสลายแล้ว”

หยุด......

กู้ชูหน่วนดึงบังเหียนเอาไว้

พวกของผู้อาวุโสหกหยุดแทบไม่ทันและเกือบจะชนนาง

ข้าว่าเจ้าต้องจงใจทำเช่นนี้เป็นแน่ ชีวิตอันแก่ชราของข้าแทบจะรักษาไว้ไม่ได้

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นมองไปรอบ ๆ นางมองเห็นควันของดินปืนและเสียงคำรามของกลองสงครามได้ในระยะไกล

แม้จะอยู่แสนไกลแต่ก็ได้กลิ่นคาวเลือด

ฝูกวงขมวดคิ้ว “กลิ่นเลือดแรงมาก หรือว่ามีการต่อสู้เกิดขึ้นด้านหน้า? แต่หลังจากข้ามภูเขาลูกนี้ไปก็ถึงเมืองหลวงของรัฐเยี่ยแล้ว คงไม่ใช่ว่ารัฐเยี่ยถูกโจมตีจนถึงหน้าของเมืองหลวงแล้วใช่ไหม”

ยากมากที่ลั่วอิ่งจะเอ่ยปากออกมาสักครั้ง “ด้านหน้ามีธงสีดำอยู่ มันคือธงของกองทัพแห่งรัฐฉู่ที่บุกโจมตีรัฐเยี่ย”

ฝูกวงกล่าวออกมา “นายท่าน หากเมืองหลวงของรัฐเยี่ยถูกโจมตีแล้ว ต่อให้พวกเราพยายามอย่างสุดกำลังก็ยากที่จะพลิกสถานการณ์”

กู้ชูหน่วนเกลียดตัวเองที่ไม่อาจทำตามความคาดหวังให้สำเร็จ เสี่ยวเยี่ยเยี่ยตั้งจุดตรวจและกองทหารไว้ในรัฐเยี่ยจำนวนมาก ต่อให้รัฐฉู่จะเก่งกาจแค่ไหน พวกเขาก็ไม่มีทางบุกเข้ามาถึงรัฐเยี่ยได้โดยง่าย จะต้องเป็นจักรพรรดิองค์น้อยที่ขุดหลุมฝังตัวเอง เปิดจุดตรวจเหล่านั้นออก

“นายท่าน ข้าจะยิงพลุสัญญาณ เพื่อรวบรวมกำลังพลของฝ่ายเรา”

ปัง......

พลุสัญญาณลูกหนึ่งลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า

ลั่วอิ่งและผู้อาวุโสหกมองไปทางฝูกวง

ฝูกวงโบกมือ “ข้าไม่ได้เป็นตนยิง ข้ายังไม่ทันได้เตรียมพลุสัญญาณเลยด้วยซ้ำ”

ฮี้......ฮี้......

เสียงดังกึกก้อง......

กองทหารม้าเหล็กอันเกรียงไกรปรากฏตัวออกมาในระยะไกล

พวกของกู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าผู้มาเยือนนั้นมีจำนวนมากแค่ไหน แต่รู้เพียงแค่เวลานี้พื้นดินกำลังสั่นสะเทือน

ใบหน้าของพวกฝูกวงเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม นำอาวุธออกมาเพื่อป้องกันกู้ชูหน่วนอยู่ด้านหน้า

ผู้อาวุโสหกกล่าวด้วยความสงสัย “ช่างแปลกประหลาดยิ่งนัก ไม่น่าจะมีใครรู้ถึงการกลับมาของพวกเรา ไป๋เฉ่าเองก็ยังอยู่ในดินแดนวิญญาณเยือกแข็ง ไม่มีทางเปิดเผยตัวเป็นอันขาด เช่นนั้นใครจะรู้ว่าพวกเรากลับมาแล้ว”

ลั่วอิ่งกล่าวออกมาว่า “รัฐฉู่ นั่นมันเป็นธงของกองทัพแห่งรัฐฉู่?”

หัวใจของผู้อาวุโสหกจมลง หรือว่าบุคคลลึกลับที่อยู่เบื้องหลังของรัฐฉู่ต้องการมุ่งเป้ามาที่พวกเขาตั้งแต่แรกแล้ว?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์