เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 575

สรุปบท ตอนที่ 575-576: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 575-576 – เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บท ตอนที่ 575-576 ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ในหมวดนิยายดราม่า เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

บทที่ 575 ลุงสองมาตรฐาน

“เธอต้องการไปไหม?” จำยหวินเชิงถามเจียนอีหลิง

เมื่อได้ยินแบบนี้หันเหมิงอและซิงเหว่ยก็เริ่มคิดสงสัยในชีวิต พวกเขารู้จักผู้ชายคนนี้ หรือเปล่า?

เสียงออดอ้อนนี่คืออะไร?

นี่ยังเป็นนายท่านเชิงอยู่อีกเหรอ

ไม่ นายท่านเชิ่งไม่มีท่าทางอย่างนี้

เงี่ยนอีหลิงชะงักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้า

“ตกลง คืนนี้ฉันจะพาเธอไปด้วย” จำยหวินเชิงกล่าว

“นายท่านเชิง นั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีนะ” ซิงเหว่ยตะลึง

“ใช่… ผมก็คิดว่ามันไม่เหมาะสมที่เธอจะไป.” หานหมิงอวี่กล่าวก่อนจะเดินจากไป

“ประหยัดลมหายใจนายไว้ เพียงไปจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยตอนนี้”

จำยหวินเชิงไม่ให้โอกาสชายสองคนพูดต่อ

” ตกลง ตกลง ผมจะไปจัดการทุกอย่าง”

คืนนี้งั้นเหรอ?

ไม่สมควรให้ไปงั้นเหรอ?

นี่มันเกี่ยวข้องกับอะไรกัน?

เวินเฉิงเพิ่งสนทนากับใครบางคนเสร็จ จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นลูกสาวจ้องมองไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง เมื่อเห็นแบบนั้น เขาก็เบนสายตาตามลูกสาวไป

จากนั้น หน้าของเวินเฉิงก็เคร่งเครียดขึ้น

จากนั้น เขาก็ลุกขึ้นอีกครั้ง และเดินตรงไปยังเงี่ยนอีหลิงและพวก

“ พ่อ?”

การกระทำอย่างกะทันหันของเวินเฉิงทำให้เป็นรั่วงงเหลือเกิน

หลังจากเหลือบมองแม่ของเธอแล้ว เวินรั่วก็ตัดสินใจติดตามพ่อไป

เงินเฉิงเดินไปที่เงี่ยนอีหลิงและจำยหวินเชิง และพูดด้วยน้ำเสียงดุดันว่า “อีหลิงมาอยู่ข้างลุงมี”

บอดี้การ์ดของจำยหวินเชิงกำลังจะหยุดยั้งเขา แต่ทว่าพวกเขาก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนี้

จากนั้นเดินเฉิงก็ชี้ไปยังชายที่อยู่ข้างเงี่ยนอีหลิง “คุณปล่อยหลานสาวของฉัน”

ถ้าตอนนี้พวกเขาไม่ได้อยู่ที่งานเลี้ยงอาหารค่ำ เวินเฉิงคงจะดุผู้ชายข้างๆเงี่ยนอีหลิงไปแล้ว

หลานสาวเขายังเด็กมาก ผู้ชายคนนี้ไม่ควรหลอกลวงสาวน้อยด้วยหน้าตาที่หล่อเหลา คิดว่าหลานสาวเขาถูกรังแกง่ายนักหรือไง?

เมื่อใช่ชิงเยวตามมาทันสามี เธอก็พยายามดึงเขากลับมา

ไม่เหมาะสมที่จะโต้แย้งกันในเวลาดังกล่าว การล่วงเกินใครสักคนจะไม่เป็นผลดีแก่พวกเขา

เวินรั่วพยายามเกลี้ยกล่อมเดินเฉิงเช่นเดียวกัน “พ่อ ได้โปรดใจเย็นๆ อีหลิงดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับชายคนนี้ แม้ว่าเธอจะยังเด็ก แต่หนูก็ยังเชื่อว่าเธอน่าจะรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่”

ซิงเหว่ยและหานหมิงอี้ชำเลืองไปสบตากัน

เห็นได้ชัดว่าชายผู้โกรธแค้นคนนี้ไม่รู้ว่ากำลังตะโกนใส่ใคร

ซิงเหว่ยรีบลุกขึ้น “คุณอาจเข้าใจสถานการณ์ผิดไป? เราไม่ได้ทำอะไรไม่ดีเลย เรามาพูดคุยเรื่องอื่นกันเถอะ”

เวินเฉิงชี้ไปที่แขนของจำยหวินเชิง ตอนนี้ แขนของเจียนอีหลิงยังคงโอบรอบแขนของจำยหวินเชิง เขาร้องออกมาว่า “ปล่อย ให้เขาปล่อยมือเธอ”

เอ่อ… ซิงเหว่ยคิดขณะเหลือบมองจำยหวินเชิง

เงี่ยนอีหลิงเป็นคนที่จับแขนของจำยหวินเซิ่งไม่ใช่เหรอ

เขาควรจะบอกให้หลานสาวปล่อยนายท่านเพิ่งไปไม่ใช่เหรอ?

ลุงคนนี้ สองมาตรฐานแบบนี้

เงี่ยนอีหลิงพยายามเอามือเธอออก แต่ยังไงก็ตามจำยหวินเชิงปฏิเสธที่จะปล่อยเธอไป เขาตั้งใจหนีบแขนเขาไว้

เนื่องจากเจียนอีหลิงไม่ต้องการทำให้มือตัวเองเจ็บ เธอจึงทำได้เพียงจ้องมองไปที่จำยหวินเชิงรอเขาปล่อยเธอ

เมื่อเห็นดวงตาเธอ สุดท้ายจำยหวินเชิงก็ตัดสินใจคลายแขน เมื่อสบตากับดวงตาคู่นั้นแล้วเขาจะทำอะไรได้อีก?

ด้วยเหตุนี้ เจี้ยนอีหลิงจึงดึงมือออกจากแขนของจำยหวินเพิ่งได้

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว สีหน้าของเวินเฉิงก็ผ่อนคลายลง

จากนั้น เขาก็พูดกับเจี้ยนอีหลิง “อีหลิงกลับกันเถอะ ลุงมีเรื่องจะคุยกับหลานเรื่องนี้”

เจียนอีหลิงส่ายหน้าและอธิบายว่า “เขาไม่ได้เป็นคนเลว”

“อีหลิง หลานไม่สามารถตัดสินคนจากหน้าตาได้นะ พวกเขาจะไม่เขียนคำว่าเลวไว้บนใบหน้า” เป็นเฉิงกล่าว เวินเฉิงมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ที่กอดหลานสาวเขาไม่ใช่คนดีแน่นอน

แน่นอนว่าเขาต้องเป็นคนเอาแน่นอนไม่ได้และไม่สัตย์ซื่อ

รูปร่างหน้าตาเขาทำให้รู้สึกเหมือนว่าเขาเป็นเพลย์บอย

ไม่มีใครต้องการล่วงเกินตระกูลฉินและตระกูลจำย

แน่นอนเวินเฉิงก็ไม่กล้าทำเช่นเดียวกัน

ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ เขาทำได้เพียงยอมแพ้ในการแยกหลานสาวเขาออกจากจ๋ายหวินเชิง

ขณะที่เขาจากไป เวินเฉิงได้แต่ก้มหน้าลงอย่างหดหูและเศร้าหมอง

อาา เขาต้องหาโอกาสคุยกับหลานสาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้ชายคนนั้นเป็นเพลย์บอยแน่นอน

หลังจากออกจากงานเลี้ยงอาหารค่ำ เจียนอีหลิงก็ขึ้นรถของจำยหวินเชิง

เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังจะออกไป “เล่น”

ชายสามคนขับรถสปอร์ตคนละคัน พร้อมกับเสียงคำรามจากเครื่องยนต์รถสปอร์ต พวกเขาขับรถไปจนถึงสนามแข่งในเขตชานเมืองของเปยจิง

เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ ก็มีรถแข่งสมรรถนะสูงจอดอยู่ที่นั่นอยู่แล้ว

กลุ่มคนกำลังรออยู่ที่นั่น

ถึงเวลานี้ ท้องฟ้าก็ได้มีดลงแล้ว แต่ทว่าสนามแข่งทั้งหมดสว่างไสวด้วยแสงไฟนับไม่ถ้วน ราวกับว่ายังเป็นเวลากลางวัน

พวกเขามาที่นี่เพื่อแข่งรถกันงั้นเหรอ? นี่คือสิ่งที่พวกเขาหมายถึงกับคำว่า ออกไป?

จำยหวินเพิ่งหัวใจไม่ค่อยดี แต่ถึงกระนั้น เขาก็ชอบกีฬาผาดโผนเหล่านี้

อาา ท่านผู้เฒ่าจำยคงจะเป็นกังวลอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา

เมื่อจำยหวินเชิงปรากฏตัว ฝูงชนก็รวมตัวกันรอบตัวเขา

พวกเขาเห็นเด็กสาวที่มีรูปร่างกระทัดรัดลงมาจากที่นั่งผู้โดยสารของจำยหวินเชิง

สีหน้าประหลาดใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของทุกคน

จากนั้นพวกเขาก็ตั้งคำถามกับซิงเหว่ยและหานหมิงอี้

แต่ทว่าทั้งสองคนได้แต่ก้มหน้าลง พวกเขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นอะไรเลย

พวกเขาไม่รู้สิ่งที่มีประโยชน์ใดๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะถามพวกเขา

แต่ยังไงก็ตาม พวกเขามั่นใจในสิ่งหนึ่ง ที่นั่งผู้โดยสารของนายท่านเพิ่งอาจถูกจับจองไปแล้วในวันนี้

แต่ทว่าสาวน้อยคนนี้จะกลัวมากหรือเปล่า?

ดูเหมือนว่าเธอจะตกใจง่าย

บางที่กีฬาผาดโผนอาจไม่เหมาะกับเธอ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส