เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 869

สรุปบท ตอนที่ 869-870: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนที่ 869-870 – ตอนที่ต้องอ่านของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

ตอนนี้ของ เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายดราม่าทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 869-870 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 869 ความทรงจําหลิงหลิงน้อย อายุห้าขวบ

เด็กหญิงตัวเล็กสวมชุดกระโปรง และสวมหมวกใบเล็กๆ

ข้างหน้าของเธอคือคนรับใช้ของตระกูลเวิน

ทุกคนไม่กล้ายั่วโมโหเด็กน้อยคนนี้ เพราะกลัวจะทําให้เธอร้องไห้

“คุณหนูหลิง รออยู่ข้างล่างเถอะนะคะ เดี๋ยวพวกเราจะขึ้นไปเก็บมาให้เองดีไหมคะ?”

“ใช่ค่ะ คุณหนูหลิง พวกเราจะไปเก็บมาให้เองนะคะ”

“ไม่ ไม่ ไม่!” เจี่ยนอีหลิงส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว “หลิงหลิงอยากเก็บเอง!”

หลังจากที่พูด เธอก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้ด้วยตัวเอง

ด้วยแขนและน่องเล็กๆนั้น ทําให้ผู้คนที่พบเห็นต่างตกใจ

ใช้เวลาไม่นาน เธอก็ปีนขึ้นไปบนต้นไม้และยืนอยู่บนกิ่งก้านได้สําเร็จ เด็กหญิงตัวเล็กหัวเราะคิกคักและพูดว่า “ดูสิ หลิงหลิงเก่งมาก!”

จากนั้น เธอก็เอื้อมมือไปเก็บผลหยางเหมย*ที่เธอคิดถึง

(หยางเหมย หรือสตรอเบอร์รี่จีน มีสีแดงเข้ม ฉ่ําน้ํา มีรสหวานและเปรี้ยว ใช้ กินสด สําหรับคั้นเป็นน้ําผลไม้ ทําผลไม้แห้ง หรือ หมักเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์)

ทีละลูก ทีละลูก

มือเล็กๆนั้น เล็กเกินกว่าจะเก็บได้ทีละสองหรือสามลูก

เธอเลือกเก็บผลหยางเหมยอย่างตั้งใจ และไม่ได้สังเกตว่าเท้าที่เหยียบลงไปนั้นมีแต่ความว่างเปล่า

เด็กหญิงตัวเล็กๆ จึงตกลงมาจากต้นไม้อย่างรวดเร็ว

“อา — ”

ความเจ็บปวดที่คาดหวังกลับไม่รู้สึกแม้แต่น้อย เพราะเธอตกลงมาบนร่างกายที่อ่อนนุ่ม

เจี่ยนอีหลิงหันกลับมาด้วยความงุนงง และพบว่าตัวเองอยู่ในอ้อมแขนของญาติผู้พี่เวินเหยียน ในขณะที่เจี่ยนอีหลิงกําลังตกลงมา เวินเหยียนก็รีบวิ่งเข้าไปรับเธอไว้

เด็กชายอายุสิบสองปีไม่มีเรี่ยวแรงมากนัก ในขณะที่รับเจี่ยนอีหลิงเขาก็ล้มลงกับพื้น

ทั้งสองล้มลงกับพื้น และเจี่ยนอีหลิงก็ได้รับการปกป้องอย่างดีจากเวินเหยียน ไม่ได้รับกระทบกระเทือนใดๆทั้งสิ้น

แต่ตัวเขาเองกลับล้มลงกระแทกกับพื้นอย่างแรง

“พี่เวินเหยียน…” เจี่ยนอีหลิงตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก

“เธอเป็นอะไรไหม?” เฉินเหยียนถามขึ้นเบาๆ

“ไม่เป็นไร…”

“มีอาการปวดตรงไหนไหม?”

“ไม่…”

“ไม่เป็นไร” เวินเหยียนตอบเจี่ยนอีหลิงและยิ้มอย่างอบอุ่น

หมอประจําตระกูลเวินรีบวิ่งเข้าไปดูทั้งสองคนอย่างรวดเร็ว

หลังจากตรวจเจี่ยนอีหลิงแล้ว พบว่าเจี่ยนอีหลิงปลอดภัย แต่เวินเหยียนไม่ได้โชคดีขนาดนั้น

เพราะแขนของเขาหัก

เมื่อได้ยินข่าวนี้ เจี่ยนอีหลิงก็ตกใจจนน้ําตาไหล

“เธอร้องไห้ทําไม?” เวินเหยียนถาม

“พี่เวินเหยียนแขนหัก ฉัน ฉัน ฉันหักแขนพี่เวินเหยียน…”

เจี่ยนอีหลิงร้องไห้เสียงดังเป็นอย่างมาก

เด็กหญิงตัวเล็กๆ เข้าใจได้ทันทีว่าเธอหักแขนและทําร้ายเวินเหยียน

“ไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็หายของมันเอง” เวินเหยียนอธิบายกับเจี่ยนอีหลิง

“หลิงหลิงทําร้ายพี่ มันเจ็บมากใช่ไหม?”

“ไม่เป็นไร” มือที่ไม่ได้รับบาดเจ็บของเฉินเหยียน ลูบศีรษะของเจี่ยนอีหลิงเบาๆและพยายามปลอบเธอ

“หลิงหลิงไม่ดี หลิงหลิงไม่ดีเอง หลิงหลิงไม่ควรปีนต้นไม้นั่น…

เด็กหญิงอายุ 5 ขวบรู้ รับรู้ถึงความผิดของตัวเอง

เวินเหยียนได้รับบาดเจ็บจนกระดูกหัก และเจี่ยนอีหลิงไม่สามารถหยุดร้องไห้ได้

แม้แต่เวินน่วนที่เป็นแม่แท้ๆก็ยังไม่สามารถเกลี้ยกล่อมได้ เธอเลยต้องโทรไปหาเจี่ยนหยุ่นไม่

เจี่ยนหยุ่นโม่มาถึงในชั่วข้ามคืน และตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว

แต่เจี่ยนอีหลิงก็ยังร้องไห้ไม่หยุด

เมื่อเห็นเจี่ยนหยุ่นไม่มา เจี่ยนอีหลิงก็วิ่งไปกอดเขา “พี่ชายรองหลิงหลิงท่าตัวไม่ดี หลิงหลิง ไม่ยอมเชื่อฟัง…”

เจี่ยนอีหลิงฟุบลงบนไหล่ของเจี่ยนหยุ่นโม่ และร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่อย่างนั้น

เจี่ยนหยุ่นโม่ตบหลังสาวน้อยเบาๆ พลางปลอบด้วยน้ําเสียงที่แผ่วเบา

“หลิงหลิงท่าผิด แต่การร้องไห้ไปก็ไม่มีประโยชน์ เราต้องจําความผิดพลาดครั้งนี้ไว้ให้ดีแล้ว คราวหน้าก็อย่าทําอีก และที่สําคัญอย่าไปปีนต้นไม้ด้วยตัวเองอีก”

“อือ หลิงหลิงจะไม่ทําอีก หลิงหลิงจะไม่ปีนต้นไม้อีกแล้ว…”

“งั้นหลิงหลิงก็หยุดร้องไห้ได้แล้ว ตกลงไหม?”

“ไปโค่นต้นไม้เลว ที่ทําให้หลิงหลิงตกลงมา”

“อะไรนะ?” เมื่อได้ยินคํากล่าวนั้น ปากเล็กๆถึงกับอ้ากว้าง

“ปล่อยเอาไว้ทําไม มันโยนหลิงหลิงของพี่ชายรองลงมา ฉะนั้นเราต้องโค่นมันทิ้ง”

“ไม่ ไม่ ไม่

“หือ?”

“หลิงหลิงไม่ดีเอง ไม่ใช่ว่าต้นไม้ไม่ดี” เจี่ยนอีหลิงพูดต่อ “พี่ชายรองเราไม่ต้องโค่นมันหรอก”

“หือ? จะไม่โค่นมันงั้นเหรอ?”

“อือ! หลิงหลิงไม่ดีเอง พี่ชายรองตีก้นหลิงหลิงได้เลย”

“แล้วก้นเล็กๆของเธอจะไม่เจ็บเหรอ?”

“ถ้าอย่างนั้น…พี่ช่วยตีเบาๆหน่อยได้ไหม?” เธอเบ้ปากทันทีเพราะกลัวถูกตีอยู่นิดหน่อย

เมื่อได้ยินคําพูดนั้น เจี่ยนหยุ่นโม่ก็หัวเราะเจี่ยนอีหลิง

“ถ้าอย่างนั้นก็ติดหนี้ไว้ก่อน” เจี่ยนหยุ่นโม่พูดต่อ “แต่ตอนนี้หลิงหลิงกับพี่ชายรองต้องเข้านอนได้แล้ว ตกลงไหม? แล้วพรุ่งนี้เช้าเราจะตื่นมาดูแลพี่เวินเหยียนกัน

“อือ อือ หลิงหลิงต้องดูแลพี่เวินเหยียน!”

เมื่อเจี่ยนหยุ่นไม่กลับมาที่ห้องพร้อมกับเจี่ยนอีหลิง เด็กหญิงตัวเล็กๆในอ้อมแขนของเขาเธอ

ก็หลับไปแล้ว

แต่แขนเล็กของเจี่ยนอีหลิงยังคงโอบรอบคอของเจี่ยนหยุ่นโม่ไม่ยอมปล่อย

เมื่อเวินน่วนเห็นภาพนั้น เธอก็หัวเราะ “เธอมีวิธีเกลี้ยกล่อมเด็กผู้หญิงคนนี้ได้ดีจริงๆ”

วันรุ่งขึ้น เจี่ยนอีหลิงก็ตื่นแต่เช้า

“พี่ชายรอง พี่ชายจอมขี้เกียจ ตื่นได้แล้ว ตะวันส่องกันแล้วนะ!”

เธอตื่นแล้ว และไม่ลืมลากพี่ชายรองของเธอลุกขึ้นมาด้วย

“เจ้าจอมวายร้ายตัวน้อย ไม่รู้เหรอว่าเมื่อคืนพี่ชายรองของเธอรีบมาที่นี่เพราะใครกัน”

เมื่อเจี่ยนหยุ่นไม่ตื่นขึ้นมา เสียงของเขาก็แหบเล็กน้อย

เจี่ยนหยุ่นโม่ลุกขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งมันไม่มีทางเลือกอื่นเลย ในเมื่อเจ้าหญิงตัวน้อยของพวกเขาตื่นขึ้น และไม่มีใครอยากนอนต่ออีกต่อไป

“วันนี้เธออยากใส่กระโปรงสีชมพูหรือกระโปรงสีน้ําเงิน?” เจี่ยนหยุ่นโม่เลือกกระโปรงให้น้อง

สาวอย่างชานาญ “สีชมพู!” เจี่ยนอีหลิงพูด “พี่ชายรองรีบๆหน่อย หลิงหลิงจะไปดูแลพี่เวินเหยียนกินอาหารเช้าแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส