เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส นิยาย บท 883

สรุปบท ตอนที่ 883-884: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส

อ่านสรุป ตอนที่ 883-884 จาก เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 883-884 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายดราม่า เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ บทที่ 883 หลังจากเปิดเผยสมาชิกภาพของโรงพยาบาลทั่วไห่เซิน 2

“พวกเราโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว?”

“ถึงจะเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่การดื่มเหล้ามันไม่มีอะไรดี”

“เฮ้! แต่ฉันมีลูกน้องมากมาย และที่สําคัญพวกเขาจะหัวเราะเยาะ ถ้าฉันไม่ดื่มมัน!” “ลูกน้องคนไหนที่หัวเราะเยาะนาย? พาเขามาหาฉันได้เลย!” หูเจียวเจียวใช้มือทั้งสองข้างเท้าสะเอว

“พี่สะใภ้ พวกเราไม่กล้า!”

ภายในสนามบาสเกตบอล ลูกน้องของอันหยางกําลังเล่นบาสเก็ตอยู่ แต่เมื่อได้ยินคํากล่าวนั้นก็พร้อมใจกันตอบอย่างพร้อมเพรียง

อันหยาง “…. ”

ไม่ไว้หน้าบอสอย่างเขาสักหน่อยเหรอ?

จ่ายหวินเชิ่งสูดหายใจเข้าลึกๆ

ดีมาก คู่หมั้นของเขาทําตุ๊กตาถุงเท้า*ตกอีกตัวแล้ว

(BH เสื้อกั๊ก,แผ่นรัดเอว,sock puppets ซึ่งคําว่าตุ๊กตาถุงเท้า เป็นสแลงอินเตอร์เน็ต หมายถึงตัวตนปลอมบนอินเตอร์เน็ต ซึ่งบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใช้แสดงมุมมองของตนเอง)

เป็นสมาชิกของโรงพยาบาลรั่วไห่เซินงั้นเหรอ?

ดีมาก

เธอไม่เคยทําให้เขาผิดหวัง และชอบทําให้เขาประหลาดใจอยู่เสมอ

ซิงเหว่ยและหันเหมิงอวี้ ค่อนข้างตื่นเต้นกับข่าวนี้เป็นอย่างมาก

“นายท่านเชิ่ง ฉันมองไม่ผิดใช่ไหม? นี่ใช่พี่สะใภ้ของเราจริงๆเหรอ?” ซิงเหว่ยกลืนน้ําลายลงคออย่างยากล่ามาก

โรงพยาบาลรั่วไห่เซิน อา… โรงพยาบาลรั่วไห่เซินอันโด่งดังนั่น!

หลายคนในเมืองหลวงเป่ยจิงพยายามทุกวิถีทางเพื่อติดต่อกับโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน แต่พี่

สะใภ้ของเขากลับกลายเป็นหนึ่งในนั้น?

นี่มันการกระทําของเทพอะไรกัน?

“เจ้าโง่ นอกจากพี่สะใภ้ของเราแล้ว ยังมีใครที่จะสามารถรวบรวมความงดงาม ความน่ารักและสติปัญญาไว้ด้วยกันอีกงั้นเหรอ? ในรูปนี้ดูก็รู้ว่าเป็นพี่สะใภ้ของฉันอย่างแน่นอน” หันเหมิงอวี้ เคาะหัวซิงเหว่ยหนึ่งที

“พี่สะใภ้แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ฉันขอประกาศว่าตั้งแต่วันนี้ พี่สะใภ้จะกลายเป็นไอดอลที่หนึ่งในใจของฉันตลอดไป” ซิงเหว่ยดูตื่นเต้นมาก

หลังจากพูดจบ ซิงเหว่ยก็รู้ว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขาเหลือบมองที่จ่ายหวินเชิ่งอย่างช้าๆ และพูดขึ้นว่า “พี่สะใภ้เป็นที่หนึ่งเคียงข้างกับนายท่านเชิ่ง”

หันเหมิงอวี้ยืนลูบคางตัวเองแล้วพูดขึ้นว่า “นายท่านเชิ่ง ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าทําไมโครงการก่อสร้างของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินสาขาเป่ยจิง ถึงได้
ก่อสร้างได้อย่างง่ายดายนัก…” ที่แท้…มันมีประตูหลังบ้าน*นี่เอง

(เข้าทางประตูหลังบ้าน หมายถึง อาศัยเส้นสายภายในของคนรู้จัก หรือใช้เป็นทางลัด) จ่ายหวินเชิ่ง “นายท่านคนนี้เสียสละมากมายแล้วจะเข้าทางประตูหลังไม่ได้หรือไง?”

ทําไมนายท่านเชิ่งถึงไม่รู้สึกละอายใจเลยที่พูดแบบนี้ออกมา แต่กลับมีความภาคภูมิใจแทนเสียได้?

“แต่นายท่านเชิ่ง การที่พี่สะใภ้ได้เข้าร่วมกับโรงพยาบาลลั่วไห่เซินถือว่าเป็นข่าวดี ถ้าอย่างนั้น

ทําไมนายถึงไม่ใช่โอกาสนี้ไปหาพี่สะใภ้ล่ะ?”

หันเหมิงอวี้ให้คําแนะนําจ่ายหวินเชิ่ง

ในฐานะผู้ที่มีประสบการณ์ด้านความรักมามากมาย หันเหมิงอวี้จึงต้องเสนอไอเดียดีๆ ให้กับนายท่านเชิ่งที่ยังเป็นผู้บริสุทธิ์และไร้เดียงสา เพื่อให้นายท่านเชิ่งคนนี้ออกสตาร์ทให้เร็วและเกิดผลโดยเร็วที่สุด

จ่ายหวินเชิ่งหยุดคิดชั่วคราว ซึ่งความคิดนี้…เหมือนจะดีอยู่เหมือนกัน และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่สนใจหรือมองข้าม

ท่านผู้เฒ่าจ่ายที่อ่านข่าวอยู่ก็อึ้งไปหนึ่งนาที จากนั้นเขาก็ตบต้นขาแล้วตะโกนออกมาเสียงดัง
“หลานสะใภ้ของฉันน่าทึ่งมาก!”

โอ้วว เขาดีใจและมีความสุขมาก

“ถ้าเธอให้กําเนิดเหลนตัวน้อยออกมา จะเก่งกาจและยากที่จะรับมือขนาดไหนกัน?”

ตอนนี้ ท่านผู้เฒ่าจ่ายเริ่มนึกภาพของเหลนชายตัวน้อย ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้ว แม้ว่าเหลนชายตัวน้อยจะมีอายุเพียงแค่ 3 หรือ 4 ขวบ แต่เหลนของเขาก็จะสวมเสื้อคลุมสีขาวตัวเล็กๆ เพื่อเล่นเกมแพทย์ที่รักษาผู้ป่วยอย่างแน่นอน

โอ้ย! คงจะน่ารักสุดๆไปเลย

“แต่ถ้าเป็นเหลนสาวก็โอเค คงจะเป็นเด็กดีและน่ารัก เหมือนหลานสะใภ้อย่างแน่นอน”

คงต้องไปหาซื้อกระโปรงตัวเล็กๆสักตัวให้กับเหลนสาวของเขาซะแล้ว~

“ตัวเดียวคงไม่พอ ฉันจะต้องมีเหลนมากกว่า 1 คน หรือไม่ก็มีสัก 12 คนเลยยิ่งดี”

ท่านผู้เฒ่าจ่ายพูดอยู่กับตัวเองเป็นเวลานาน

ในระหว่างที่ท่านผู้เฒ่าจ่ายกําลังคุยโอ้อวดเรื่องหลานสะใภ้อยู่นั้น ฝั่งของปู่เจี่ยนก็ไม่ยอมน้อยหน้า

เพราะนั่นคือหลานสาวแท้ๆของเขา!

ปู่เจี่ยนพูดกับหญิงชราอย่างมีชัยว่า “ยายเฒ่า หลานรักของเราสิ ตอนนี้เธอเป็นสมาชิกของโรงพยาบาลลั่วไห่เซินแล้ว! ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่แข็งแกร่งที่สุด และได้รับการยอมรับในวงการ

แพทย์! แล้วสถาบันวิจัยฮุ่ยหลิงนั่นจะสู้ได้อย่างไร สมควรที่จะหลีกทางไปซะ!”

บทที่ 884 หลังจากเปิดเผยสมาชิกภาพของโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน 3

หลังจากนั้น…

“ติ๊งต๊อง”

เสียงกริ่งที่หน้าประตูดังขึ้น และเสียงนั้นได้ขัดจังหวะจ่ายหวินเชิ่ง

และเมื่อจ่ายหวินเชิ่งเดินมาเปิดประตู เขาก็เห็นว่าเป็นปู่เจี่ยนและย่าเจี่ยน

“อาเชิ่ง พวกเรามาเยี่ยมเสี่ยวหลิง ช่วงนี้เธอไม่ยอมเชื่อฟังเลยใช่ไหม? และมัวแต่ทํางานหนักเกินไปจนไม่ได้พักผ่อนเลยหรือเปล่า?”

“ช่วงนี้ เธอสบายดี”

“หลานรักไม่ได้อยู่ตรงนี้ เธอไม่จําเป็นต้องช่วยเสี่ยวหลิงปกปิดก็ได้!”

สองผู้เฒ่าเดินเข้าไปในห้อง ซึ่งเจี่ยนอีหลิงก็ออกมาจากห้องทํางานเช่นเดียวกัน

“ปู่ ย่า”

“หลานรัก อ๊า…ทําไมช่วงนี้ถึงผอมลงล่ะ” ย่าเจี่ยนกอดเจี่ยนอีหลิงและกวาดสายตาดูตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า

เจอกันทีไรก็บอกว่าน้ําหนักลดทุกที แต่ความเป็นจริงแล้วพวกเขาไม่ได้เจอกันแค่สองสามวันเท่านั้น

และน้ําหนักล่าสุดของเจี่ยนอีหลิงก็ไม่ลดลงเลย

“เอ๊ะ? คืนนี้พวกเธอจะดินเนอร์ใต้แสงเทียนกันเหรอ?” ปู่เจี่ยนเห็นการตกแต่งบนโต๊ะก็เข้าใจได้ทันที

ซึ่งเทียนยังคงติดอยู่ และสเต็กยังคงร้อนอยู่เลย

“แค่ก แค่ก” จ่ายหวินเชิ่งไอออกมาเบาๆสองครั้ง เพื่อปกปิดความเขินอายของตัวเอง ย่าเจี่ยนเป็นคนฉลาด สามารถมองทะลุปรุปได้อย่างรวดเร็ว “หนุ่มน้อย จะกินสเต็กแค่พออิ่มได้ยังไง? มานี่หลานรัก ย่าน่าพระกระโดดกําแพงมาให้หลานด้วย!”

ปู่เจี่ยนเข้าใจว่าหญิงชราหมายถึงอะไร จึงพูดขึ้นมาว่า “อย่าจุดเทียนในห้องเลย มันจะทําให้ออกซิเจนค่อยๆหมดไป และจะทําให้อากาศในห้องไม่สะอาด หลานรักปู่พูดถูกไหม?”

เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า

ซึ่งการจุดเทียนจะช่วยลดปริมาณออกซิเจนในห้องนั้นเป็นเรื่องจริง

ย่าเจี่ยนดึงเจี่ยนอีหลิงไปนั่งที่โต๊ะ แล้วเป่าเทียนที่วางอยู่ตรงหน้าให้ดับ และย้ายดอกไม้ทั้งหมดออกไปด้านข้าง

ซึ่งจานสเต็กยังคงวางอยู่ที่เดิม ส่วนเจี่ยนอีหลิงก็กินพระกระโดดกําแพงที่ย่าเยี่ยนนํามาให้

โดยซุปชามนี้คนรับใช้ได้ใช้เวลาเคี่ยวตลอดทั้งบ่ายเลยทีเดียว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส