หลังจากเวินเหยียนเซ็น “สัญญา” แล้วหลิวถิงก็เอาข้อตกลงออกมาอีกฉบับหนึ่ง
“ทําไมคุณไม่เซ็นตรงนี้ล่ะ?”
“นี่คืออะไร?”
“นี่คือการยินยอมบริจาคร่างกาย นั่นคือคุณตกลงที่จะบริจาคร่างกายให้กับผมหลังจากที่คุณตาย” หลิวถึงนั้นเต็มไปด้วยความคาดหวัง ดวงตาของเขาเป็นประกาย
งานอดิเรกของหลิวถิงเป็นที่รู้กันดีของทุกคนในโรงพยาบาลลั่วไห่เซิน
นั่นคือการเก็บรวบรวมอวัยวะและร่างกาย
ในโรงพยาบาลมีห้องหนึ่งห้องสําหรับเก็บของสะสมของเขา
ทั้งหมดนั้นถูกแช่ในขวดแก้วที่มีของเหลวพิเศษ
เต็มทั้งห้อง
หลิวถิงชอบศึกษาสิ่งเหล่านี้ สําหรับเขานี่คือสื่อการเรียนรู้
แม้ว่าสื่อการเรียนรู้ของเขานั้นจะค่อนข้างยากสําหรับคนทั่วไปที่จะยอมรับก็ตาม
แต่เขาศึกษาสิ่งเหล่านี้
งานวิจัยของเขาได้ให้พื้นฐานทางทฤษฎีมากมายสําหรับการพัฒนาสาขาวิชาอื่น
หลิวถิงกล่าวเสริมว่า “แน่นอน ผมไม่ได้คาดหวังให้คุณตายก่อนกําหนด คุณสามารถอยู่ได้
นานที่สุด ถ้าคุณตาย คุณก็จะไม่มีสติที่จะรับรู้ และทิ้งร่างกายไว้ให้ผม
เวินเหยียน “ถ้าผมไม่ประสบอุบัติเหตุ เวลาตายของผมปกติก็จะเท่ากับคุณ”
หลิวถิง “บางทีผมอาจจะอยู่ได้นานกว่าคุณสองปีก็เป็นได้? หากคุณอายุแปดสิบ ผมก็จะอายุแปดสิบสอง ถึงอย่างไรผมก็ยังได้ร่างกายของคุณมาอยู่ดี”
เวินเหยียน “ถ้าคุณอายุแปดสิบสอง แล้วคุณจะต้องการร่างกายของผมไปเพื่ออะไร?”
หลิวถิง “สิ่งที่คุณพูดมันผิด แค่มีดของผมกับเทคนิคนี้ แม้ว่าผมจะอายุแปดสิบสอง ผมก็ยังรับมือได้ ร่างกายของคุณ ผมก็ยังสามารถผ่าตัดได้เป็นอย่างดี อวัยวะต่างๆจะถูกแยกออกใส่ในโหล และป้องกันการกัดกร่อนด้วยน้ํายาฆ่าเชื้อ วางบนชั้นวาง แล้วตั้งโชว์”ประตูห้องผู้ป่วยเปิดอยู่พอดี หลี่จั๋วเจียก็เข้ามา
เมื่อเห็นฉากในห้อง หลี่จั๋วเจียก็สามารถเดาได้
“นายหลอกคนไข้ให้บริจาคร่างกายให้นายอีกแล้วเหรอ?” “ฮีฮีฮี” หลิวถึงรีบเปลี่ยนเรื่อง “คุณหลี่ มาทําอะไรที่นี่?” “มาดูว่ามิสเตอร์เวินตื่นแล้วหรือยัง และมาบอกให้นายไปทําอาหารด้วย”
“ใช่ ฉันหั่นผักได้ แต่ให้ฉันทําอาหาร นายก็รู้ทักษะการทําอาหารของฉัน ผลลัพธ์ไม่ได้ทําร้ายแค่ฉันคนเดียว แต่จะเกิดกับคนในโรงพยาบาลทั้งหมดของเรา”
โดยทั่วไปแล้วหลิวถึงมีหน้าที่หั่นผักเท่านั้น และจะไม่รับผิดชอบในการปรุงอาหาร
“แต่คนที่ทําอาหารเก่งที่สุดในโรงพยาบาลของเราสองคนหลับอยู่ มีแต่นายเท่านั้นที่ทําได้” หลี่จั๋วเจียพูด
คนที่ทําอาหารเก่งที่สุดในโรงพยาบาลสองคนคือเจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยุ่นโม่
เมื่อเจี่ยนอีหลิงอยู่บนเกาะ เจี่ยนอีหลิงเป็นคนปรุงอาหาร
เมื่อเจี่ยนอีหลิงไม่อยู่ก็จะเป็นเจี่ยนหยุ่นไม่
แม้ว่าเจี่ยนหยุ่นโม่จะทําอาหารไม่อร่อยเท่าเจี่ยนอีหลิงแต่ก็ต้องยอมรับว่าอร่อย
แต่วันนี้สําหรับการผ่าตัดของเวินเหยียน ทําให้ทั้งเจี่ยนอีหลิงและเจี่ยนหยุ่นโม่หมดแรงหลังจากต่อสู้มาสิบสามชั่วโมง
“ก็ได้ๆ อย่ามาโทษว่ารสชาติแย่นะ ยังไงพวกเราก็สั่งอาหารไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าไม่มีการเปรียบเทียบก็คงไม่เป็นไร แม้ว่าพวกนายจะไม่ชอบยังไงก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอยู่ดี”
ภายในห้องของเจี่ยนอีหลิง เจี่ยนอีหลิงกําลังหลับอยู่ และข้างๆเธอคือจ่ายหวินเชิ่ง
ทันทีที่เจี่ยนอีหลิงเดินออกจากห้องผ่าตัด เธอก็หมดสติไป
จ่ายหวินเชิ่งอุ้มเธอกลับไปที่ห้องเพื่อพักผ่อน
ในห้องของเจี่ยนอีหลิงเหมือนกับห้องอื่นของโรงพยาบาล ภายในเป็นสีขาวบริสุทธิ์ สะอาดสะอ้าน ไม่มีการตกแต่งเพิ่มเติม และไม่มีสีเพิ่มเติม
จ่ายหวินเชิ่งไม่กล้าหลับเพราะกลัวว่าเจี่ยนอีหลิงจะไม่เห็นเขาตอนที่เธอตื่นขึ้น
บทที่ 956 กอดสบาย
เขาเปิดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตและเขียนคําาตอบด้วยนิ้วเขาบนหน้าจอสัมผัส
ในที่สุดเจี่ยนอีหลิงก็ตื่นขึ้น เธอหันไปรอบๆ และเห็นจ่ายหวินเชิ่งนอนอยู่ข้างๆเธอ
เขาเอนหลังพิงเตียง ขาข้างหนึ่งงอขึ้น อีกข้างหนึ่งตั้งตรง
ในมือเขาถือแท็บเล็ต
สิ่งที่แสดงบนหน้าจอคอมพิวเตอร์คือกลุ่มสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ สูตรทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน และกระบวนการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน
เจี่ยนอีหลิงไม่พูดอะไร และมองจ่ายหวินเชิ่งเงียบๆ
ไม่กี่นาทีต่อมาจ่ายหวินเชิ่งก็มองกลับมาที่คนข้างๆตามความเคยชิน
เมื่อเขาเห็นว่าเธอลืมตา
“ตั่นแล้วทําไมไม่เรียกฉันล่ะ?”
“ดูดี” เจี่ยนอีหลิงมองจ่ายหวินเชิ่งอย่างจริงจัง
“อะไรดูดี?”
เจี่ยนอีหลิงก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าเพราะอะไร เธอรู้แค่ว่าอยากกอดเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ / เธอเปลี่ยนไปเป็นบอส
เรื่องนี้ยังอัปเดตต่อไหมคะ😭...