“บุญคุณที่ให้ชีวิตใหม่ เรื่องอะไรกัน?”ฉินเฟิงถาม
“แบ็คหลังของผมคือคุณตู้”
โหวเฟยพูดออกมาเช่นนี้ ฉินเฟิงก็พอจะเข้าใจแล้ว ตู้ต้วนเทียนอยากประจบเขา ถึงได้ช่วยโหวเฟยเพียงเพราะการเจอกันโดยพรหมลิขิต
บางที สักวันอาจได้ใช้
แต่เรื่องบังเอิญคือ ความคิดนี้ของตู้ต้วนเทียนเป็นจริงพอดี
"จริงสิ พนักงานของคุณรับเงินแล้วจะไล่พวกเราออกไป"ฉินเฟิงพูด
“คุณฉิน ผมจะจัดการให้เดี๋ยวนี้”
โหวเฟยหน้าเปลี่ยนสี ฉินเฟิงเป็นคนระดับไหน นี่เป็นถึงผู้มีพระคุณของเขา เป็นคนที่ทำให้คนระดับตู้ต้วนเทียนเกรงกลัว แต่พนักงานของเขากลับกล้าไล่เนี่ยนะ?
อยากตายรึไง
เขารีบหันไปยังผู้จัดการตรงล็อบบี้ทันที
“เจ้านาย คือ……ผม……”
ผู้จัดการตรงล็อบบี้ตัวสั่นเทา พูดจาไม่ได้ศัพท์ เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าเจ้าหนุ่มจนๆที่ถูกรังแกก่อนหน้านี้ จะทำให้เจ้านายที่เขาเกรงกลัวโค้งคำนับให้ได้
เจ้านายคนนี้มีแบ็คหลังใหญ่โต
งะ……งั้นฉินเฟิง ต้องเป็นคนระดับไหนกัน
แม่เจ้า
ซวยแล้ว
“รปภ. ค้นตัว”
โหวเฟยเป็นเจ้านาย แน่นอนว่ารปภ.พวกนั้นต้องเชื่อฟัง หลังจากค้นเสร็จ พวกเขาก็ค้นได้นาฬิกาออกมา ทองสว่างไสว แค่เห็นก็รู้แล้วว่ามีราคามาก
“ฉันจำได้ นายไม่ได้มีนาฬิการาคาแพงขนาดนี้นี่”
โหวเฟยถือนาฬิกาเรือนนั้น หน้าเคร่งขรึม ทว่าขณะนั้นเองผู้จัดการอีกคนโผล่มา แล้วพูดกับโหวเฟย:“เจ้านาย ตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว นาฬิกาเป็นของหวงจงคนนั้น”
ผู้จัดการคนนี้ชี้ไปยังหวงจง
โหวเฟยหันไปมองหวงจงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรทันที
หวงจงเห็นเช่นนั้นก็รีบหนีทันที ถ้ายังไม่หนีซะตอนนี้ รอให้โหวเฟยเล่นงานหรือไง
“การรับสินบน ในกฎของร้านไม่อนุญาตไม่ใช่เหรอ รปภ.จัดการ อัดให้สุดแรง อัดเสร็จแล้วก็โยนออกไป”
โหวเฟยโกรธขึ้นมาทันที โบกมือไปมาพลางพูด
“ครับ”
รปภ.เหล่านั้นจับตัวผู้จัดการตรงล็อบบี้ทันที แล้วพาไปอีกด้านหนึ่ง ผู้จัดการตรงล็อบบี้ดิ้นสุดกำลัง แต่เขาจะดิ้นพ้นรปภ.ที่ผ่านการฝึกมาได้ยังไง
สำหรับฉินเฟิง เป็นแค่สวะก็เท่านั้น
ไม่นานนักก็ได้ยินเสียงร้องน่าเวทนาออกมา แต่จากนั้นไม่กี่วินาทีเสียงก็หายไป คนที่เดินผ่านเห็นผู้ชายหัวแตกเลือดไหลคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนถนน
“คุณฉิน ต้องขอโทษด้วย ร้านเราให้บริการไม่ดีเอง วันนี้ให้กินฟรีทั้งหมดเลยครับ ”
หลังจากจัดการเสร็จ โหวเฟยก็มาพูดกับฉินเฟิงอย่างระมัดระวัง กลัวจะทำให้ฉินเฟิงไม่พอใจเข้า
“อืม”
ฉินเฟิงจึงหายโกรธขึ้นมาหน่อย
อิ่นซินคือเกล็ดใต้คอมังกรของเขา ทว่ากลับมาด่าเขาว่าหน้าไม่อาย และมาด่าภรรยาของเขาก็เท่ากับรนหาที่ตาย โชคดีที่อยู่ที่นี่ ถ้าอยู่ที่อื่นแขนหมอนั่นอาจหักครึ่งไปแล้วก็ได้
จากนั้นโหวเฟยก็พูดกับคนอื่นๆ:“วันนี้กินฟรีทั้งร้าน”
ข่าวดังกล่าวทำเอาคนอื่นๆต่างพากันส่งเสียงร้องดีอกดีใจ
เพราะการทะเลาะกันในร้าน สามารถส่งผลกระทบกับธุรกิจได้
และหลังจากฉินเฟิงนั่งลง อิ่นซินที่กำลังตกตะลึง ดึงมือฉินเฟิงด้วยความสงสัยพลางถาม:“เกิดอะไรขึ้นๆ ทำไมเจ้าของร้านถึงคำนับให้คุณ”
“คุณเดาดูสิ”
“รีบบอกมาสิ……บอกมา……”
อิ่นซินอ้อนๆ เพราะยังไงเวลาเธอถอดลุคนี้ออก เธอก็เป็นแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่เคยมีแฟนมาก่อน
“คิคิ แม่น่ารักมากๆเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน