มู่หรงเจียงเสว่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา แววตาของเธอแฝงไปด้วยความรังเกียจ ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง เธอเกลียดกฎที่แฝงอยู่ในวงการบันเทิงมากที่สุด เธอเคยออกคำสั่งห้ามปรามครั้งแล้วครั้งเล่า ว่าไม่อนุญาตให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในทีมงานของเธอ
แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะยังคงมีอยู่
“มู่หรงเจียงเสว่ ผมเป็นผู้ช่วยผู้กำกับของทีมละครเรื่องนี้ ผู้ช่วยผู้กำกับ คุณต้องคิดให้ดี ผมทำเพื่อทีมละครนี้มามาก แต่ตอนนี้คุณกลับมาจับผม? คุณกล้าจับผมเหรอ?”
เจียงหยุนพยายามโต้เถียงอย่างสุดกำลัง
“ฮ่า จับคุณเหรอ? ฉันไม่เพียงแต่จะจับคุณเท่านั้น แต่ฉันยังจะเล่นงานคุณด้วย”
ความโกรธปรากฏขึ้นบนใบหน้าของมู่หรงเจียงเสว่ เธอขยิบตาให้บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทันที
รับเงินมาแล้วก็ต้องสะสางปัญหาให้สำเร็จ
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเหล่านั้นเป็นมืออาชีพและเข้าใจในทันที หนึ่งในนั้นต่อยเจียงหยุนที่ท้อง ทำให้เขาตัวงอ ส่งเสียงร้องอย่างน่าเวทนา
“โอ๊ย!”
เจียงหยุนน้ำตาแทบไหล “มู่หรงเจียงเสว่ คุณ...”
“ยังมีแรงพูดอีกเหรอ? พูดต่อสิ”
ความเยือกเย็นส่องประกายผ่านดวงตาของมู่หรงเจียงเสว่
การที่เธอสามารถมีสถานะอย่างในวันนี้ได้ แสดงให้เห็นว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนโยน แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่ง ในฐานะผู้หญิงที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง เธอย่อมมีความสามารถอยู่แล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ฉินเฟิงยังอยู่ที่นี่
ตามที่หลิวหลินว่าไว้ ฉินเฟิงก็เป็นคนสำคัญเช่นกัน เธอไม่สนใจว่าคนคนนี้จะดีหรือไม่ แต่เธอไม่มีสำนึกในความเป็นธรรมโดยกำเนิดเหมือนอย่างหลิวหลิน เธอรู้แค่ว่า จะล่วงเกินฉินเฟิงไม่ได้
สิบนาทีต่อมา
เจียงหยุนล้มลงกับพื้น หายใจรวยริน เช่นเดียวกับเจียงจื่อจิ้นที่อยู่ข้างๆ
“อีกะหรี่ กูจะไม่ปล่อยมึงไป”
เจียงหยุนพูดในใจด้วยความเกลียดชัง
เขายังมีญาติมิตรเพื่อนฝูงจำนวนหนึ่งที่ถูกส่งตัวไปที่สถานีตำรวจด้วย มากสุดก็คงต้องจ่ายเงินก้อนหนึ่งเพื่อประกันตัวออกมา พอถึงตอนนั้น เขาจะต้องแก้แค้นมู่หรงเจียงเสว่อย่างสาสมอย่างแน่นอน
กล้าดีอย่างไรมาทำแบบนี้กับเขา!
จนกระทั่งเขาได้เห็นผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา หัวใจของเขาก็เย็นวาบ “ทำไมถึงเป็นผู้หญิงคนนี้ บัดซบ ทำไมฉันถึงซวยแบบนี้?
คนที่เข้ามาคือหลิวหลิน
มู่หรงเจียงเสว่แจ้งความแล้ว
“เจ้าหมอนี่สินะ ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันจะขุดคุ้ยประวัติเก่าของเขาออกมาเอง”
หลังจากได้ฟังมู่หรงเจียงเสว่เล่าคร่าวๆ แล้ว หลิวหลินก็ตบหน้าอกรับประกัน
“ว่าแต่ว่า คราวนี้ก็มีคุณอีกแล้วเหรอ”
หลิวหลินจ้องมองฉินเฟิง
ยั่วยุ 10% ดูถูกเหยียดหยาม 30% ไม่ยินยอม 40% และน้อยเนื้อต่ำใจ 20% นี่คือความรู้สึกของหลิวหลินเมื่อเผชิญหน้ากับฉินเฟิงในตอนนี้
“บังเอิญจัง”
ฉินเฟิงตอบอย่างไม่ใส่ใจ
“ฮึ ไม่ช้าก็เร็ว ฉันจะต้องจับคุณให้ได้”
หลิวหลินพ่นลมหายใจอย่างเย็นชา แล้วพาคนกลับไป
“ขอโทษค่ะ ครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของพวกเรา”
มู่หรงเจียงเสว่กล่าวขอโทษอิ่นหนิงหยู่
“อ้อ...ไม่เป็นไรค่ะ...ไม่เป็นไร”
สิ่งนี้ทำให้อิ่นหนิงหยู่รู้สึกปลาบปลื้ม เธอคิดไม่ถึงเลยว่ามู่หรงเจียงเสว่ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจะกล่าวขอโทษตัวเอง เธอรีบโบกไม้โบกมือทันที
หลังจากที่มู่หรงเจียงเสว่ออกไปแล้ว อิ่นหนิงหยู่ก็พูดกับฉินเฟิงอย่างตื่นเต้นดีใจว่า “ผู้กำกับมู่หรงอ่อนโยนมาก แถมยังตั้งใจมาขอโทษฉันด้วย เธอเป็นคนที่เข้าถึงได้ง่ายมาก”
“ก็อาจจะใช่”
ฉินเฟิงเอามือลูบจมูกตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน