สรุปเนื้อหา บทที่ 232 คุณไม่คู่ควรให้ผมสอน – เทพศึกมังกรหวนคืน โดย โซ่วปี่หนานซาน
บท บทที่ 232 คุณไม่คู่ควรให้ผมสอน ของ เทพศึกมังกรหวนคืน ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย โซ่วปี่หนานซาน อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ฉินเฟิงไม่ใช่หรอ?
อิ่นซินคิดมาตลอด ว่าเป็นฉินเฟิง Mr.Xปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างไร
หรือว่า
แต่แล้วเวลานี้ เมื่อจางลี่ได้ยินอิ่นซินพูด เธอจึงพูดอย่างเย้ยหยันว่า“จะเป็นฉินเฟิงได้อย่างไร คนที่ช่วยลูกคือMr.X เป็นMr.Xมาตลอด Mr.Xที่ชื่อเสียงโด่งดังของเจียงเฉิง มีเงินหน้าตาดีรูปร่างสูง ฉินเฟิงที่ลูกว่ามาน่ะ ไม่เคยปรากฏตัวขึ้นด้วยซ้ำ ทั้งสองคนนี้ไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ด้วยซ้ำ”
คนหนึ่งคือเจียงเฉิง ชื่อเสียงโด่งดัง Mr.Xที่พูดคำไหนคำนั้น
ไอ้รปภ.เส็งเคร็ง
ต่างกันราวฟ้ากับดิน
คนโง่ยังรู้เลยว่าควรเลือกใคร มีแต่ลูกรักของตัวเองเท่านั้นแหละ ที่โง่ยิ่งกว่าโง่ วันๆเอาแต่พูดถึงชื่อฉินเฟิงฉินเฟิง ไม่รู้ว่าฉินเฟิงมีอะไรดี
“แต่ว่า อาหารบนโต๊ะ ต้องเป็นฝีมือของฉินเฟิงแน่”อิ่นซินชี้ไปที่อาหารที่อยู่บนโต๊ะ
“Mr.Xคนนั้นเป็นคนช่วยลูกออกมา พอออกไปแล้ว เขาก็มาพอดี เขาแค่โชคดีเท่านั้นแหละ ลูกจ๋า ลูกกำลังเพ้อฝันอะไรอยู่ Mr.X ไม่ดีหรอ?”
คำพูดของจางลี่ ทำให้อิ่นซินหน้าซีดเผือด
ค่อยๆนั่งลงกับที่ ดวงตาสีแอปริคอต ค่อยๆเต็มไปด้วยสัมผัสของความอ่อนแอและความผิดหวัง เธอพูดพึมพำว่า“Mr.Xเป็นคนช่วยฉัน ฉินเฟิง คุณโชคดีอีกแล้ว ใช่ไหม?”
“เมื่อไรคุณ จะลุกขึ้นมาสู้สักที”
ความหวังพังทลายลงอีกครั้ง
โชคดีอีกแล้ว
ฉินเฟิง เมื่อไรคุณจะไม่โชคดี แล้วทำดีกับฉันสักครั้ง
สัญญาครึ่งปีอะไรนั่น คุณจะทำมันสำเร็จไหม
……
และเวลานี้เอง ฉินเฟิงเดินทางกลับไปที่วิลล่าหยุนติ่งคนเดียว แต่หลังจากที่กลับคฤหาสน์ไปแล้ว พบว่าในคฤหาสน์มีคนเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน เป็นผู้หญิงที่สวมเสื้อกันเปื้อน ท่าทางเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ
“คุณตำรวจหลิว คุณทำไมน่ะ?”
ฉินเฟิงมองไปที่หลิวหลิน แล้วเอ่ยถาม
เห็นเพียงแค่ หลิวหลินอยู่ในห้องโถง ทำอาหาร หอมกรุ่นเตรียมไว้เต็มโต๊ะ เธอสวมเสื้อกันเปื้อน ตอนนี้กำลังง่วนกับการทำความสะอาด ด้วยใบหน้ามุ่งมั่น
ในนั้น ยังมีเสี่ยวหยูกับหลิวหลิน ที่กำลังวุ่นอยู่
“อืม คุณกลับมาแล้วหรอ วันนี้ฉันไม่มีอะไรทำน่ะ เลยนึกถึงเรื่องที่ฉันมาหาคุณครั้งก่อน ที่นี่เหมือนจะไม่ค่อยสะอาดเท่าไร เลยมาทำความสะอาดให้น่ะค่ะ”
หลิวหลินปาดเหงื่อบนหน้า แล้วหันมาพูดกับเขา
ใบหน้ารูปไข่ แดงระเรื่อเล็กน้อย เต็มไปด้วยเหงื่อ ดูออกว่าเหนื่อย แต่ถึงแม้เธอจะพูดคุยกับฉินเฟิง เธอก็ไม่ได้วางผ้าขี้ริ้วในมือเลย
เธอตั้งใจมากๆ
“ก็ดี รบกวนหน่อยนะคุณตำรวจหลิว”
ฉินเฟิงไม่ได้เกรงใจแต่อย่างใด เขาตรงไปนั่งที่โต๊ะอาหาร แล้วเริ่มทานอาหารทันที และเรียกเสี่ยวหยูมานั่งด้วยกัน เพื่อทานอาหาร
แต่ว่า เสี่ยวหยูกลับไม่มีกะจิตกะใจทานอาหาร ยังคงมองไปที่หลิวหลินเป็นระยะๆ พลางถามฉินเฟิงอย่างสงสัยว่า“คุณลุงคะ ทำไมเราไม่เข้าไปช่วยล่ะคะ”
“ไม่จำเป็นหรอก มาเถอะ มากินน่องไก่กัน”
ฉินเฟิงบีบขาไก่ออกมาหนึ่งชิ้นให้เสี่ยวหยู
“ทำไมหรอคะ?”
แววตาน้อยๆของเสี่ยวหยู ซ่อนความสงสัยเอาไว้ เธอไม่เข้าใจจริงไ
“เพราะว่า เธออยากได้อะไรบางอย่าง เลยต้องแลกกัน เรื่องนี้หนูยังไม่เข้าใจหรอก อีกหน่อยหนูก็จะรู้เอง”ฉินเฟิงลูบผมของเสี่ยวหยูเบาๆ
ยกตัวอย่างเช่นเขา ตำแหน่งนี้ เขาแลกมาด้วยชีวิต
เจ็ดปีในกองทัพ รอดชีวิตมาอย่างหวุดหวิด
ทั้งเนื้อทั้งตัวเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น
ถึงได้มาซึ่งทุกอย่างในตอนนี้
“อ่อๆ”
เสี่ยวหยูไม่เข้าใจจริงๆ แต่ยังคงพยักหน้าอย่างว่าง่าย
ในตอนที่ทานอาหารเสร็จแล้วนั้น ฉินเฟิงก็พาเสี่ยวหยูออกไปเดินเล้น หลิวหลินสวมชุดลำลองทั้งตัว เดินตามด้านหลัง เหมือนลูกน้องยังไงอย่างนั้น
จะให้ คนพิการคนหนึ่งมาสอน มันดูจะ……
แต่ฉินเฟิงก็หันหน้ามา แล้วเดินไปอีกทาง ในมือยังจูงแขนป้อมๆของเสี่ยวหยูไปด้วย
“คุณหมายความว่าไง?”
หลิวหลินขมวดคิ้ว ถาม
“จะฝึกก็ฝึก ไม่ฝึกก็ไสหัวไปซะ จะให้ลูกน้องเบอร์หนึ่งของผมมาสอนคุณ คุณไม่คู่ควรหรอกนะ”ฉินเฟิงเดินไปด้วย พูดไปด้วย
“คุณ!”
หลังจากถูกกล่าวตำหนิ หลิวหลินก็โมโหจนหายใจหน้าอกกระเพื่อมขึ้นลง
หมายความว่าไง!
ไม่คู่ควร!
มีสิทธิ์อะไรกัน
ถึงยังไงเธอก็ได้ที่หนึ่งจากการแข่งขันในโรงเรียน ในโรงเรียน ถึงจะเป็นครูฝึก ก็ต่างชื่นชมเธอกันทั้งนั้น ฉินเฟิงมีสิทธิ์อะไร ที่ทำให้มันดูไร้ค่าแบบนี้
เมื่อเห็นว่าฉินเฟิงเดินออกไปไหลเรื่อยๆ หลิวหลินคิดไม่ออกจริงๆ เลยตามไป เธอจะใช้ความสามารถของตัวเอง พิสูจน์ให้ฉินเฟิงเห็นว่าเธอก็เก่งเหมือนกัน
“คุณหยุดนะ”
เธอวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว มือซ้ายคว้าจับเอาไว้ คว้าหมัดขึ้นมา เตรียมจะจับฉินเฟิง
แต่ทว่า ในตอนที่มือของหลิวหลิน ใกล้จะจับโดนศีรษะของฉินเฟิงนั้น มีมือหนึ่ง เคาะที่แขนของเธอเบาๆ ทันใดนั้นก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวไปทั้งแขน
เธอถอยหลังไปอย่างช่วยไม่ได้
รอหลังจากที่หลิวหลินรู้สึกดีขึ้น ถึงมองไปข้างหน้า เธอไม่กล้าเชื่อว่า“คุณตามมาทันได้ยังไง คุณขาเป๋ไม่ใช่หรอ ตามทันมาได้ยังไง”
คนที่ตามอยู่ด้านหลังของฉินเฟิง ก็คือหวางเถ่ที่เดินขากะเพก
“นี่สาวน้อย ฉันจะบอกอะไรเธออย่างหนึ่งนะ ในสนามรบ คนที่คิดว่าตัวเองฉลาด มักจะตายเป็นคนกลุ่มแรกเสมอ มาเถอะ ฉันอยู่นี่แล้ว ถ้าเธอสามารถแตะต้องชายเสื้อของฉันได้ ฉันจะยอมแพ้ เธอจะทำอะไรก็ได้”
หวางเถ่มองไปที่หลิวหลิน เขาแต่งตัวเหมือนคนใช้แรงงาน ธรรมดามากๆ แต่กลับทำให้รู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับสิงโตตัวผู้
หลิวหลิน เธอไม่รู้ว่าตัวเองกำลังเผชิญกับอะไรอยู่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน