เมื่อมาถึงโรงแรม อิ่นซินพูดพร้อมกับขมวดคิ้วว่า “พ่อแม่ของฉัน ทำเกินไปแล้วจริงๆ มาบังคับให้คุณคุกเข่าและโขกศีรษะคำนับ นี่คือสิ่งที่ผู้ชายควรทำเหรอ ผู้ชายมีทองคำอยู่ใต้หัวเข่า นี่มันเป็นการเอาศักดิ์ศรีของคนเหยียบย่ำลงบนพื้นดิน”
“ไม่เป็นไร”
ฉินเฟิงมองไปที่อิ่นซิน แล้วหายโกรธอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าผู้คนรอบๆ จะสร้างความลำบากให้กับเขา แต่อย่างน้อยภรรยาของเขาก็ยังคอยปกป้อง เปรียบเสมือนความอบอุ่นในหิมะน้ำแข็ง ทำให้ผู้คนต้องการเสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้อง
ผู้ชายมีทองคำอยู่ใต้หัวเข่า ครั้งที่แล้วฉินเฟิงคุกเข่าลงเพื่ออิ่นซินกับกั่วกั่ว ส่วนศีรษะก็ยอมโขกคำนับเพื่อพวกเขาเช่นกัน
เรื่องนั้นเขาไม่เสียใจเลย
หลังจากนั้นฉินเฟิงก็ไปรับฉินกั่วกั่วกลับมา ทั้งสามคนอาศัยอยู่ในห้องเดียวกัน ฉินเฟิงยังคงปูพรมเช่นเคย ตราบใดที่อิ่นซินยังไม่ได้อนุญาตให้เขาขึ้นเตียง เขาก็ขึ้นไปไม่ได้
นี่เป็นหลักการที่ยึดถือกันมา
เช้าวันถัดมา อิ่นซินตื่นมาเก็บของออกจากโรงแรม เธอไม่ได้บอกฉินเฟิงกับฉินกั่วกั่ว แต่ฉินเฟิงตื่นขึ้นมาทันทีที่เธอออกไป
“เมียโง่ของผม ผมจะปล่อยให้คุณไปเผชิญหน้ากับทุกอย่างตามลำพังได้ยังไง”
จากนั้น เขาก็ส่งฉินกั่วกั่วไปโรงเรียน แล้วรีบไปที่บริษัทซานหยวนกรุ๊ป
ในบริษัทซานหยวนกรุ๊ปกำลังมีการประชุมอยู่ในห้องโถง พนักงานหลายร้อยคนในบริษัทกำลังมองดูห้องรับแขกนี้อยู่
ที่นำมาเป็นคนแรกที่ฟางเย้น คุณชายใหญ่ฟาง ทางด้านซ้ายคืออิ่นเสี้ยงสวี่ และทางด้านขวาคืออิ่นป่าย เนื่องจากคุณท่านอิ่นไม่อยู่ที่นี่ในวันนี้ พวกเขาทั้งสองจึงเป็นบุคคลผู้มีอำนาจของบริษัท
“เฮ้ ว่าไง มาคนเดียวเหรอ? แล้วคนไม่เอาถ่านนั่นล่ะ?”
ฟางเย้นนั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองไปที่อิ่นซินที่อยู่ท่ามกลางฝูงชน เธอเป็นเหมือนดอกบัวสีขาวที่อ่อนนุ่ม ละเอียดอ่อนและน่าสงสาร แต่สัมผัสได้ถึงความหัวแข็งในดวงตาของเขา
ผู้หญิงแบบนี้ทำให้เขามีความรู้สึกอยากจะพิชิตเธอ
เธอเป็นสาวสวยอันดับหนึ่งในเมืองเจียงเฉิงจริงๆ
“ฮ่าฮ่า วันนี้คนไม่เอาถ่านไม่กล้ามาสินะ เพราะถ้ามา เขาก็ต้องคุกเข่าโขกศีรษะคำนับ สำหรับผู้ชาย จะทนรับได้อย่างไร อีกอย่างยังมีคนจับตาดูอยู่มากมาย”
“คนไม่เอาถ่านน่าจะทิ้งอิ่นซินให้มาตามลำพัง ตัวเขาหนีไปแล้ว ผู้ชายแบบนี้ ฉันไม่รู้ว่าอิ่นซินยังเก็บไว้อีกทำไม”
“คนไม่เอาถ่านคนนั้นจะหนีไปได้ยังไง เขาเป็นพระเอกของงานเลี้ยงในวันนี้นะ ถ้าเขาไม่มา แล้วใครจะคุกเข่าโขกศีรษะคำนับล่ะ ถ้าอยางนั้นบริษัทซานหยวนกรุ๊ปของเราไม่ต้องล้มละลายหรอกหรือ?”
“อิ่นซินไม่อยู่ที่นั่น ได้ยินมาว่า ฟางเย้นชอบอิ่นซินมาโดยตลอด เช่นนั้นก็อาจจะเป็น ค่ำคืนแห่งฤดูใบไม้ผลิ”
คนรอบๆ พากันวิพากษ์วิจารณ์ เอะอะก็คนไม่เอาถ่าน มีไม่น้อยที่พุ่งความสนใจไปที่อิ่นซิน มีข่าวแพร่กระจายเล็กน้อยว่าต้องการให้อิ่นซินไปอยู่กับคุณชายฟาง
คนที่พูดเช่นนี้ ส่วนใหญ่มาจากลูกๆ ตระกูลอิ่น
“สามีของฉัน วันนี้เขาไม่สบาย...”
เดิมทีอิ่นซินอยากจะบอกว่าวันนี้เธอไม่สบาย แต่ในเวลานี้มีมือข้างหนึ่งวางลงบนหัวไหล่ของเธอ ต่อมาชายคนหนึ่งได้ก้าวไปข้างหน้าเพื่อขวางหน้าเธอเอาไว้ เขาพูดอย่างโกรธเคือง “รู้สึกไม่ค่อยสบายนิดหน่อย แต่ไปหาหมอมาแล้ว เลยรีบมา”
“คุณ ที่รัก”
อิ่นซินมองไปข้างหน้าตนเอง ค่อนข้างผอม แต่หัวไหล่กว้างผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด ชั่วครู่หนึ่ง หางตาของเธอก็ชื้นเล็กน้อย แต่เธอยังคงถามอย่างดื้อรั้นว่า “คุณมาที่นี่ทำไม?”
“ถ้าผมไม่มา คุณก็ถูกรังแกไปแล้ว”
ฉินเฟิงหันกลับมา เอามือข้างหนึ่งแตะแก้มของอิ่นซิน แล้วพูดเบาๆ “ที่เหลือ ให้ผมจัดการเอง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เทพศึกมังกรหวนคืน