ตอนที่ 35
"มึงจะไม่ยอมเสียอะไรไปเลยรึไง อยากให้ครอบครัวของตัวเองยังคงอยู่อย่างเดิม แต่ก็อยากอยู่กับเมียน้อยด้วยมึงต้องเลือกเอาสักทาง"
"..." ภูวดลนิ่งเงียบไม่ได้ตอบโต้อะไรเพราะสิ่งที่นาวาเอ่ยมันคือเรื่องจริงที่เขาเห็นแก่ตัวไม่ยอมเสียอะไรไปเลยแม้แต่อย่างเดียว เขาไม่ยอมเลือกใครเลยสักคนแต่ในตอนนี้เขาตัดสินใจแล้วที่จะทิ้งวาวาและแม่ของเธอเพื่อที่จะอยู่กับซิตาและน้ำหนาวหลังจากที่วันนี้ได้รู้ว่าวาวาติดเชื้อเอดส์
"ถ้าให้กูแนะนำ มึงควรที่จะเซ็นใบหย่าซะเพราะถ้ามึงติดเอดส์ขึ้นมาคุณซิตากับคุณน้ำหนาวจะใช้ชีวิตอยู่กับคนน่ารังเกียจอย่างมึงยังไง พวกเขาสองคนจะเอาหน้าที่ไหนเข้างานสังคมถ้าคนอื่นรู้ว่ามึงติดเชื้อเอดส์"
"..."
"มึงไม่สงสารพวกเขาเหรอ มึงเองก็ทำผิดต่อพวกเขามากแล้วยังจะไปเป็นภาระให้เขาดูแลมึงในสภาพที่มึงติดเชื้อเอดส์แบบนี้เหรอ จะไม่เห็นแก่ตัวเกินไปหน่อยเหรอ"
"กูยังไม่ได้ติด" ภูวดลแย้งกลับเสียงแข็งพลางดีดดิ้นออกจากการเกาะกุมของลูกน้องของศิลา "ผลตรวจยังไม่ออกกูก็ยังไม่ติด"
"หึ..แน่ใจว่าไม่ติด?" นาวาแค่นหัวเราะในลำคอหนาอย่างเย้ยหยัน "ที่ไม่ยอมหย่าเพราะยังรัก หรือเพราะหวงก้าง?"
"ไอ้เด็กเมื่อวานซืนมึงมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับกูแบบนี้กูเป็นใครแล้วมึงเป็นใคร"
"เหมือนจะคุยกันดีๆ ไม่ได้ ตัดแขนมัน" นาวาเอ่ยอย่างเย้ยหยันก่อนจะหันไปออกคำสั่งกับนักฆ่าฝีมือดีที่ยืนอยู่ด้านหลังของเขาให้เดินเข้ามาตัดแขนข้างซ้ายของภูวดลตามคำสั่งของผู้เป็นนายหากภูวดลไม่ยอมเซ็นใบหย่า
"ปล่อยกู!!" ภูวดลดิ้นสุดกำลังเมื่อนักฆ่าเดินถือดาบซามูไรตรงเข้ามาหาเขาสองคนพร้อมกัน
"อย่า!!" ภูวดลร้องห้ามสุดเสียงเมื่อนักฆ่ายกดาบขึ้นหมายจะฟันเข้าที่ท่อนแขนข้างซ้ายของเขา แต่ทว่านาวายกมือขึ้นมาสั่งห้ามนักฆ่าให้หยุดก่อนทำให้นักฆ่าเก็บดาบลงแล้วเดินถอยหลังสองก้าวหลีกทางให้นาวาเดินเข้ามา
"เซ็นซะ" นาวายื่นปากกาให้ภูวดลอีกครั้งภูวดลทำใจอยู่นานนับนาทีกว่าจะยอมจรดปลายปากกาเซ็นใบหย่าด้วยความจำใจด้วยในตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากยอมเซ็นใบหย่าเพื่อรักษาชีวิตของตัวเองเอาไว้
"มันยอมเซ็นแล้วครับนาย" นาวาเดินเข้ามาหาผู้เป็นนายที่เดินสูบบุหรี่สำรวจรอบๆ คฤหาสน์ของภูวดลอยู่อย่างเงียบๆ นาวายื่นใบหย่าของซิตาและภูวดลให้ผู้เป็นนายดูอย่างนอบน้อม
"อืม" ศิลาปลายตามองใบหย่าเพียงนิดก่อนจะเดินสำรวจรอบๆ คฤหาสน์ต่ออย่างใจเย็น
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
"ผลตรวจออกมาแล้วนะครับ" หัวหน้าบอดี้การ์ดเดินเข้ามารายงานผู้เป็นนายหลังจากได้ผลตรวจของภูวดลแล้ว
"อืม" ศิลาตอบรับในลำคอหนาเบาๆ ก่อนจะเดินเข้าไปภายในคฤหาสน์เพื่อฟังผลตรวจด้วยตัวเอง
"รายงานมา" ศิลาเอ่ยเสียงเรียบพลางหย่อนสะโพกนั่งลงบนโซฟาฝั่งตรงข้ามกับปาลีที่นั่งหน้าซีดอยู่บนโซฟาห้องโถงใหญ่อย่างใจเย็น
"ผลเป็นบวกครับ คุณภูวดลติดเชื้อเอชไอวีครับ" นายแพทย์หนุ่มเอ่ยรายงาน ศิลาที่ได้ฟังอย่างนั้นก็ไม่ได้แสดงท่าทีตกใจอะไรด้วยพอจะเดาได้ตั้งแต่แรกแล้ว
"อีวาวากูจะฆ่ามึง!!" ภูวดลตวาดเสียงดังลั่นคฤหาสน์ราวกับคนสติแตกเมื่อได้ฟังผลตรวจของตัวเองจากปากของนายแพทย์หนุ่มเมื่อครู่
"พ่อ" วาวาเอ่ยเรียกภูวดลเสียงสั่นเครือเธอยื่นตัวแข็งทื่อโดยที่แขนทั้งสองข้างของเธอยังคงถูกไขว้หลังเธอรู้สึกตกใจไม่น้อยกับผลตรวจของภูวดล
"มึงทำให้กูติดโรคมึงตายซะเถอะ!" ภูวดลพุ่งตัวเข้าไปหมายจะทำร้ายวาวาแต่ทว่าบอดี้การ์ดของศิลาล็อกตัวเขาเอาไว้แน่นจึงทำให้ภูวดลขยับตัวไปไหนไม่ได้
"พ่อ วาไม่ได้ตั้งใจ" วาวาส่ายหน้าทันควันเธอเองก็เสียใจไม่น้อยที่ทำให้ภูวดลติดโรคจากเธอหนำซ้ำแม่ของเธอยังต้องมาเสี่ยงติดโรคต่อจากภูวดลอีก
"อีทุเรศมึงมันก็เหมือนกับแม่ของมึงอีอัปรีย์!!อีระยำ!" ภูวดลตวาดเสียงดังลั่นด้วยความเกรี้ยวกราดเขาโกรธวาวาจนควบคุมอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ไม่ได้มาดเจ้าสัวผู้อบอุ่นหายไปในพริบตาเดียวเพียงเพราะอารมณ์โทสะที่เกิดจากตัณหาราคะของตนเอง
"พ่อ วาขอโทษวาไม่ได้ตั้งใจ"
"มึงโตมาในทุ่งดอกทองเหรอถึงได้มั่วขนาดนี้!!อีวาวา!กูจะฆ่ามึง!!" แม้น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของภูวดลจะดังก้องแค่ไหนก็ไม่ได้ทำให้ปาลีรู้สึกตัวได้เลยเธอยังคงช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยเธอเองก็เพิ่งลึกซึ้งกับภูวดลไปเมื่อคืนโดยที่ไม่ได้สวมใส่ถุงยางอนามัย
"นายครับ ตัวแม่จะให้ทำยังไงครับ" นาวาเอ่ยถามผู้เป็นนายที่นั่งมองท่าทางเกรี้ยวกราดของภูวดลเงียบๆ ศิลาปรายตามองปาลีเพียงนิดก่อนจะตอบกลับลูกน้องคนสนิท
"เอาอาหารหมากรอกปากมัน" ศิลาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูงเดินออกมาจากคฤหาสน์หรูของภูวดลทันที
@คฤหาสน์หรูของซิตา
"..."
"เฮ้อ..เอาเถอะถ้าอยากแต่งงานเราต้องไปขอน้องเองถ้าน้องยอม แม่ก็ไม่ขัดข้อง"
"ครับ ผมจะขอหนาวแต่งงานเอง ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวกลับเลยนะครับป่านนี้หนาวคงรอทานมื้อค่ำอยู่ที่บ้านแล้ว"
"จ้ะ ขอบคุณมากนะศิลา"
"ครับ" ศิลาเอ่ยลาอย่างสุภาพก่อนจะเดินออกมาจากคฤหาสน์ของซิตาทันที
@คฤหาสน์ของศิลา
"ไง แม่มดน้อยรอทานข้าวกับเฮียอยู่เหรอ" ศิลาเอ่ยแซวน้ำหนาวที่นั่งทำหน้ากระเง้ากระงอดอยู่บนโซฟาห้องนั่งเล่น
"ทำไมไม่ทานก่อนครับ เดี๋ยวอาหารเย็นหมดนะ" ศิลาเอ่ยถามพลางอุ้มน้ำหนาวขึ้นมาแนบอกเดินตรงไปที่ห้องอาหารทันที
"ศิลาไปทำธุระที่ไหนมา ทำไมไปนานจัง" น้ำหนาวเอ่ยถามขณะที่นั่งอยู่บนตักแกร่งของศิลาภายในห้องอาหาร
"เฮียมีธุระหลายอย่างที่ต้องทำ หนูอยู่บ้านเบื่อรึเปล่าอยากไปเที่ยวทะเลไหม" ศิลาเอ่ยถามพลางหยิบช้อนมาตักอาหารป้อนใส่ปากให้น้ำหนาวไปด้วย
"อ๊า~อยากไปทะเล" น้ำหนาวเอ่ยเสียงหวานพลางกอดกระชับลำคอหนาของศิลาเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ
"อยากไปวันไหนครับ" ศิลากดจูบสูดดมกลิ่นหอมจากพวงแก้มนวลฟอดใหญ่
"ไปวันนี้เลยได้ไหมคะ" น้ำหนาวเอ่ยพลางส่งยิ้มหวานให้เขาจนตาหยี
"ได้ครับแต่ต้องทานข้าวให้หมดก่อนนะ" ศิลาเอ่ยพลางตักข้าวขึ้นมาป้อนน้ำหนาว "อร่อยไหมครับ"
"ศิลาทานบ้างสิ" น้ำหนาวที่เห็นศิลาเอาแต่ป้อนข้าวให้เธอยังไม่ได้ทานข้าวเลยสักคำ เธอจึงแย่งช้อนในมือของศิลามาตักอาหารขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากหยักได้รูปของเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: FIERCE MAFIA พิษรักแฟนเก่า