ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ นิยาย บท 29

ซูซืออวี้พยายามระงับความโกรธในใจเอาไว้ ในขณะที่กำลังจะกล่าวบางอย่างออกมา ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังตามหลังมา เป็นเซี่ยซื่อนั่นเอง

เซี่ยซื่อก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของซูซืออวี้ไว้ "อะไรนะเจ้าคะ หมอหูมิยอมมาหรือ?"

ใบหน้าของซูซืออวี้มิน่ามอง "มิใช่ว่ามิยอมมา แต่ข้ามิได้แม้แต่เข้าพบ!เขากล่าวว่าบัดนี้มิเปิดออกตรวจแก่ผู้ใด!"

เซี่ยซื่อตื่นตระหนกขึ้นมา "ถ้าเช่นนั้น......หากเรายอมจ่ายค่ารักษาเพิ่มมากขึ้นได้หรือไม่?"

"เขามิได้ขาดแคลนเงินทอง" ซูซืออวี้รู้สึกอึดอัดยิ่ง

ซูหว่านเอ้อร์พยายามอดทนมิให้ร้องออกมา เพียงเวลามินานนี้ ใบหน้าของนางก็แตกลายมากขึ้นเรื่อยๆ มือของนางอดมิได้ที่จะเกาไปรอบๆ แม้แต่บริเวณลำคอ

เซี่ยซื่อเป็นกังวล "นายท่านเจ้าคะ ท่านลองหาวิธีดูอีกหน่อยมิได้หรือ หากมิมีหนทางจริงๆ ข้าจะไปคุกเข่าร้องขอด้วยตนเอง!"

"ต่อให้เจ้าไปก็มิมีประโยชน์หรอก" ซูซืออวี้ขมวดคิ้วและกล่าวอย่างลังเลว่า "เขากล่าวว่า หากต้องการรักษาโรคให้หาย ให้คนผู้ที่ถูกลิขิตเอาไว้เท่านั้น"

"ผู้ถูกลิขิตงั้นหรือ?" เซี่ยซื่อตกตะลึง "นี่หมายความว่าอย่างไร?"

"เขาบอกว่า เขาอยากได้ขวดแป้งที่ทำจากไฟวิญญาณ สิ่งนี้แม้แต่ทองนับหมื่นตำลึงก็เทียบค่ามิได้ หากว่ามิมีละก็......"

"ไฟวิญญาณหรือ? หญ้าไฟวิญญาณคืออะไร?" ใบหน้าของเซี่ยซื่องุนงง

ซูหว่านเอ้อร์คันไปกรีดร้องไป "ท่านแม่ ซูหนานอีมี!เขากล่าวแล้วว่าจะช่วย ซูหนานอีมีจริงๆ! ให้นางนำออกมาเสียดีๆ!"

เซี่ยซื่อตกตะลึง ซูหนานอี? นางมีสิ่งนี้ได้อย่างไร?

ซูซืออวี้งุนงง เขามองไปยังประตูที่เงียบสงบความโกรธในหัวใจของเขายังคงเพิ่มขึ้น "ซูหนานอี ออกมาหาเดี๋ยวนี้!"

เสี่ยวเถาแอบเข้าไปในเรือน และพบว่าซูหนานอีกำลังดื่มซุปอย่างใจเย็น นางเช็ดปากอีกครั้งและกล่าวช้าๆว่า "เสี่ยวเถา นำเก้าอี้มา เราไปตากลมเย็นๆที่ในลานกันเถอะ"

ในใจของเสี่ยวเถารู้สึกว่าคุณหนูช่างเก่งกาจเหลือเกิน นางแตกต่างไปจากจากรูปลักษณ์ที่เงียบและอ่อนแอเดิมของนาง

อย่างสิ้นเชิง

แต่ถึงอย่างไร คุณหนูเช่นนี้นางชื่นชอบยิ่งนัก!

เสี่ยวเถามิตื่นตระหนกอีก นางเดินออกไปพร้อมกับเก้าอี้ตามหลังซูหนานอี

ซูหนานอีค่อยๆเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองผู้คนในลาน แสงสะท้อนจากไฟในลานทำให้เงาของพวกเขาดูตลกขบขัน

ซูหว่านเอ้อร์รอมิไหวอีกต่อไป "ซูหนานอี ส่งหญ้าไฟวิญญาณมาเสีย!"

"เหตุใดข้าต้องมอบมันให้เจ้า?" ซูหนานอีหัวเราะหึๆ "นั่นเป็นของของข้า เกี่ยวอะไรกับเจ้ากัน?"

"เจ้า!"

เซี่ยซื่อปลอบโยนเบาๆ และกล่าวด้วยความโกรธว่า "หนานอี แม้ว่าเจ้าจะมิชอบหว่านเอ้อร์แต่ไหนแต่ไรมา แต่บัดนี้เรากำลังเดือดร้อนจริงๆ เจ้าจะยืนมองอยู่เช่นนี้หรือ? มิกลัวจะได้ฉายาว่ารังแกน้องสาวหรือ?"

"ข้ามิกลัว" ซูหนานอีกล่าวเบาๆ อย่างไรเสียทำให้ใครบางคนโมโหจนตายก็มิต้องชดใช้ชีวิต "เดือดร้อนงั้นหรือ? เกี่ยวอะไรกับข้า?"

"หนานอี!" ซูซืออวี้ทนมิไหวอีกต่อไป "พ่อถามเจ้าว่า เจ้ามีผงหญ้าไฟวิญญาณหรือไม่?"

"ข้ามี" ซูหนานอียอมรับอย่างตรงไปตรงมา "แล้วอย่างไร?"

"จงมอบมันมา!" ซูซืออวี้สั่ง "มิมีข้อแม้"

"เพราะเหตุใด" ซูหนานอีถามกลับ "เหตุใดข้าต้องมอบของของข้าให้ด้วย?"

"เพราะข้าคือพ่อของเจ้า! และมันชีวิตของหว่านเอ้อร์ได้!" หน้าผากของซูซืออวี้มีเส้นเลือดปูดโปน ดวงตาของเขาฉายแววความโกรธ

ซูหนานอีหาได้กลัวไม่ "ข้าเคยบอกไปแล้วว่าอย่ามาขอร้องข้า ดูเหมือนพวกนางจะมิได้มาขอจริงๆด้วย แต่นี่คือการรวมตัวกันมาบังคับข้าสินะ ข้าจะบอกความจริงให้ว่า ข้ามีผงหญ้าไฟวิญญาณ นั่นคือสิ่งที่ท่านอ๋องมอบให้ข้า หากพวกจ้าต้องการ ก็จงไปถามท่านอ๋องว่าเห็นด้วยหรือไม่"

"......" ซูซืออวี้หายใจมิออก เขามัวแต่โกรธที่ถูกหมอเทวาผู้นั้นปฏิเสธจนเสียหน้า แต่เขาลืมไปว่าบัดนี้ลูกสาวคนนี้ของเขามีผู้สนับสนุนจากจวนอ๋องเป่ยลี้"

ซูหนานอีเหลือบมองดูพวกเขา "พวกเจ้ามิละอายใจหรือที่กล่าวว่ากำลังเดือดร้อน เมื่อครั้นข้าถูกตราหน้าว่ามีความสัมพันธ์กับชายอื่น พวกจ้าก็เอาแต่ใส่ความผิดให้ข้าอย่างมิลดละ พวกเจ้าเคยคิดถึงความรู้สึกข้าบ้างหรือไม่? บัดนี้กลับจะมาบอกให้ข้าเห็นแก่ซูหว่านเอ้อร์ หึๆ ไร้สาระสิ้นดี"

ดวงตาของซูหนานอีเย็นชาราวกับมีดดาบ ความเยือกเย็นนั้นถูกฉายแสงออกมาทั่วทิศ

ซูหว่านเอ้อร์คันมากจนอยากจะถลกหนังตัวเอง นางยังคงกรีดร้องต่อไปว่า "ท่านพ่อ ท่านพ่อช่วยข้าด้วย ข้าขอร้อง ช่วยหาวิธีนำของจากมือของนางมาเถิด ท่านพ่อ......"

ซูซืออวี้อารมณ์แปรปรวน สมองของเขาวุ่นวายจนมิอาจคิดอะไรออก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ