ซูหนานอีรู้สึกประหลากใจเป็นอย่างมาก นักพรตจินอะไรนี่มาจากไหนกัน
อย่าพึ่งพูดเลยว่าหล่อนชื่อเรื่องอะไรพวกนี้หรือไม่ ลัทธิแบบนี้อีกทั้งยังเป็นบุรุษจากข้างนอกอีก แล้วรู้จักที่อยู่นางได้ยังไง คิดว่าคุณหนูใหญ่อย่างข้าเป็นประตูทางผ่านหรือไง
เสี่ยวเถากัดริมฝีปากแน่นกำลังจะเอ่ยอะไรก็ได้ยินเสียงดังมาจากข้างในจวน "ประเสริฐ ประเสริฐ!"
ซูหนานอีคิ้วกระตุก ไม่รอให้เสี่ยวเถาเข้ามารายงานและยังไม่ได้รับอนุญาตจากนางก็บุกเข้ามาในจวนแล้ว!
ช่างอุกอาจเสียจริง!
เสี่ยวเถาก็โมโหจนหน้าหน้าดำหน้าแดง "คุณหนู คุณหนูนักพรตผู้นี้ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ บ่าวจะไปไล่เขาไปเดี๋ยวนี้"
ซูหนานอีรั้งนางไว้ "ไม่ต้อง เจ้าเล่ามาก่อน นักพรตผู้นี้มาทำอะไรที่นี่"
เสี่ยวเถากะพริบตาเล็กน้อยไม่กล้าพูด ซูหนานอีเลยพูดขึ้น:"เจ้าพูดตามความเป็นจริง"
"บ่าวได้ยินจากแม่บ้านที่จวนคุณนายเซี่ยคุยกันว่าที่จวนของเรามีสิ่งอัปมงคลอยู่ ทำให้เกิดเหตุการณ์เรื่องไม่ดีขึ้นจึงต้องทำการกำจัดออกไป"
ซูหนานอีแฉะยิ้มออกมา "แล้วจะมากำจัดสิ่งอัปมงคลที่จวนของข้างั้นหรือ"
"ได้ยินว่านักพรตผู้นี้มีจานอะไรสักอย่าง ที่สามารถระบุตำแหน่งได้ และยังพูด......พูด.....อีกว่าที่จวนนี้มี มีพลังงานที่ไม่ดีเยอะมากที่สุด ดังนั้นเลยจะมาตรวจจับจากที่นี่"
เสี่ยวเถาพูดจบก็โกรธจนกระทืบเท้า "พูดเหลวไหลชัดๆ"
ซูหนานอีพยักหน้าเบาๆ "ไม่เป็นไร เสี่ยวเถา เจ้าไปเฝ้าหน้าประตูไว้ อย่าให้คนอื่นเข้ามาเด็ดขาด ข้าจะไปดูนักพรตผู้นี้สักหน่อย"
ถึงแม้เสี่ยวเถาไม่เข้าใจแต่ก็ตัดสินใจที่จะเชื่อฟังซูหนานอีรีบหันหลังแล้วเดินไปทางหน้าประตู
ซูหนานอีนำขนมวางทับซ้อนกันแล้วเอาวางไว้ตรงหน้าหยุนจิ่ง หยุนจิ่งเห็นก็หยุดเขียนแล้วยิ้มมองออกไปด้านนอก
"เหนียงจื่อ ผู้นั้นเป็นใครกัน"
"หยุนจิ่ง พวกเรามาเล่นอะไรสนุกๆ ดีมั้ย" ซูหนานอีถามพร้อมกับยิ้มตาหยี
"ดีๆ" หยุนจิ่งพยักหน้า น้ำเสียงอารมณ์ดี "หยุนจิ่งชอบเล่นสนุกกับเหนียงจื่อมากที่สุด"
ซูนานอีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ถ้าอย่างนั้นจิ่งเอ้อร์กินขนมอยู่ที่นี่ ข้าจะออกไปพนันกับนักพรตก่อน ถ้าหากข้าไม่เรียกหยุนจิ่งออกมา หยุนจิ่งก็อย่าพึ่งออกมา ดีไหม’ "
"ดีๆ!" หยุนจิ่งรับปากขึ้นมาทันทีและยังลดเสียงลง "จิ่งเอ้อร์เชื่อฟังเหนียงจื่อ เหนียงจื่อไม่เรียก คนอื่นเรียกยังไงจิ่งเอ้อร์ก็จะไม่ออกไป จะยอมให้เหนียงจื่อแพ้ไม่ได้!"
"จิ่งเอ้อร์ว่าง่ายจริงๆ งั้นข้าออกไปพนันกับเขาก่อนนะ ชนะแล้วจะซื้อขนมงาตัดให้เจ้ากิน"
"ดีๆ !"
หลังจากซูหนานอีกล่อมหยุนจิ่งเรียบร้อยแล้วก็ออกมาข้างนอกจวน เวลานี้ก็ตะวันใกล้ตกดินแล้ว แสงอร่ามสีทองปกคลุมลานหน้าจวน และมีแสงเหลืองทองที่สอดสองลงมาผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้และกิ่งก้าน
นักพรตสวมชุดนักพรต บนศรีษะสวมหมวกสีดำ ผมสะอาดจัดเป็นทรงเป็นระเบียบเปิดเผยหน้าผากและขมับทั้งสองข้าง มีขนคิ้วยาวดุจแปลง ตาหรี่เล็ก ตามตัวเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำมัน จมูกแดงเล็กน้อย ใต้ริมฝีปากไว้เคราสองจุกแยกแจกกัน
ซูหนานอีเพียงได้มองก็จำเขาได้แล้ว ที่แท้ก็เป็นเขานั่นเอง ไอ้คนถ่อย!
หลายปีก่อนเขาหลอกลวงว่าเป็นผู้ที่สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้แล้วเร่ขายยาปลอมและเคยถูกซูหนานอีเคยสั่งสอนไปแล้วครั้งนึง คิดไม่ถึงว่า หลายปีมานี้เขายังมาปลอมตัวเป็นนักพรตและยังเปลี่ยนชื่ออีก
ซูหนานอีเหมือนจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม "ท่านนักพรตหรือ"
นักพรตจินเหล่มองสตรีที่อยู่ตรงหน้า นางสวมชุดสีขาว บนศีรษะปักปิ่นหยก เครื่องประดับอย่างอื่นนั้นไม่มี เห็นได้ชัดว่าไม่ถือตัว
นักพรตจินกระแฮมก่อนจะเอ่ยพูดออกมา "ผินเต้าเอง"
"เจ้าเป็นนักพรตอยู่ดีๆ ที่สำนักไม่ชอบ วิ่งมาจวนซูของพวกข้าทำไม เจ้ามีจุดประสงค์อะไร"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ