ที่แห่งนี้ซูหนานอีไม่เคยมา แต่ก็เคยได้ยินมาบ้าง
เรือบุปผาที่ลอยอยู่บนแม่น้ำนั่นก็ไม่ต่างกับหอนางโลม เพียงแค่ไม่ได้อยู่บนพื้นดินแต่อยู่บนน้ำ
บนเรือมีหญิงสาวขายสุราและยิ่งกว่านั้นมีร้องเพลงร่ายรำ บอกว่าขายศิลปะไม่ได้ขายตัว เพียงแค่จ่ายเงินแล้วใยจะขายตัวไม่ได้
เหล่าองค์ชายคุณชายพี่ชายต่างก็มาที่แห่งนี้ไม่น้อย แต่……หลงใหลหนานอีรู้คิดว่าหยุนจิ่งไม่ควรมา
จากที่ได้ยินเขาเล่า เขาก็ไม่ได้มาหาพวกสุรานารี แล้วใครกันที่พาเขามาแล้วมีจุดมุ่งหมายอะไรอันแน่จะต้องสืบหาให้รู้
ซูหนานอีกดไฟความโกรธเอาไว้ ระบายยิ้มออกมาแล้วเอ่ย: "จิ่งเอ้อร์ ผู้ใดกันที่พาเจ้ามาที่นี่"
"โจวเฉิง เขาบอกว่าที่นี่สนุก เขายังบอกอีกว่า เสด็จแม่จะต้องไม่ชอบใจที่ข้ามาที่นี่แน่ ทุกครั้งที่เขาไปหาข้าที่จวน ล้วนบอกว่าจะมายืมหนังสือกับท่านผู้เชี่ยวชาญยังบอกอีกว่าห้ามบอกคนอื่น" หยุนจิ่งกระซิบบอกใกล้กับหูของซูหนานอี "นี่เป็นความลับ แต่ข้าคิดว่าข้าบอกเหนียงจื่อได้ กับเหนียงจื่อข้าไม่มีความลับ"
น้ำเสียงของเขาเบาหวิว ลมหายใจอุ่นและสายลมยามค่ำคืนพัดเข้ามาในหูของนาง ซูหนานอีรู้สึกจั๊กจี้ที่ใบหู
ซูหนานอีเอียงหน้ามองเล็กน้อย "จิ่งเอ้อนางโลมทำถูกแล้ว โจวเฉิงนั่นเป็นใครกันหรือ"
"เป็นบุตรชายของโจวช่างชูไงล่ะ" หยุนจิ่งเอ่ยตอบ
"โอ๊ะ" ซูหนานอีใจกระตุก โจวช่างชู หัวหน้าเสนาบดีการคลัง ถุงเงินของกู้ซีเฉิน
ช่างบังเอิญจริงๆ หรือว่าจะมีอะไรอีก
ซูหนานอีเก็บความสงสัยเอาไว้ แล้วเดินตามหยุนจิ่งไป
"เหนียงจื่อ เจ้าดูนั่น! ที่นั่นไง!" หยุนจิ่งจูงมือนางพร้อมกับเล่าออกมาอย่างตื่นเต้น "เดินข้ามสะพานนั้นไป อีกฝั่งของสะพานมีเรืออยู่หลายลำ ล้วนเป็นเรือของเรือบุปผา อยากไปไหนก็ขึ้นลำนั้น"
"ดี" ซูหนานอีเดินไปพร้อมกับกระซิบกำชับ "จิ่งเอ้อร์ถึงนี่ที่แล้วห้ามเรียกข้าว่าเหนียงจื่อ ให้เรียนคุณชายหนาน"
"ทำไมล่ะ" หยุนจิ่งไม่เข้าใจ
"เพราะว่า……" ซูหนานอี ฉุกคิดชั่วครู่ "ข้าคิดว่าพวกเขาโง่ไง ล้วนไม่ฉลาดเท่าจิ่งเอ้อร์ ดูไม่ออกว่าข้าเป็นใคร งั้นเราก็ถือโอกาสนี้หลอกพวกเขาเลย จิ่งเอ้อร์คิดว่าจะสนุกไหม"
"สนุก!" นัยน์ตาของหยุนจิ่งสะท้อนเงาของไฟที่อยู่บนผืนน้ำ สว่างไสวจ้า
ซูหนานอีเดินข้ามสะพานด้วยภายในใจที่มีความแค้นโจวเฉิง คนสารเลว กล้าพาจิ่งเอ้อร์มาที่อย่างนี้ได้ ฝากไว้ก่อนเถอะ!
อีกฝั่งของสะพานก็มีเรืออยู่มากมายหลายลำ เรือทุกลำล้วนมีโคมไฟประดับเอาไว้ อย่างประณีตพร้อมทั้งเขียนชื่อร้านของแต่ละร้านค้าเอาไว้ เด็กรับใช้ประจำเรืออย่างก็ตะโกนเรียกลูกค้า
พอเห็นพวกเขาก็พร้อมกันขึ้นสะพานมา แววตาลุกวาว อา! คุณชายทั้งสองท่าน คุณชายที่สวมชุดสีฟ้าเข้มดุจสีของท้องทะเล ประดับเข็มขัดหยก มีหยกห้อยอยู่ข้างกายแถมยังมีรูปร่างสูงใหญ่ ดูมีสง่าราศี อีกท่านสวมชุดสีขาวในมือมีพัดหยกหนึ่งอัน ราวแสงจันทราสะท้อนคงคา ดุจต้นจือหลานยวี่
ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ยิ่งมิอาจละสายตาได้ คุณชายชุดสีฟ้าเข้มรูปร่างสง่างาม เสริมสง่าราศียิ่งเป็นที่สะดุดตาของผู้พบเห็น อีกท่านที่ใบหน้าหวานแย้ม แววตาแสนซนพร้อมกับรอยยิ้มทีเล่นทีจริง
เหล่าเด็กรับใช้ที่เดินมาถึงพวกเขาถึงได้เรียกสติกลับมา ลอบกลืนน้ำลายก่อนเข้าไปทักทาย ต่างก็อยากให้พวกเขาขึ้นเรือของตน ทั้งกิริยามารยาท การแต่งกาย ก็รู้ได้ทันทีว่าไม่ใช่คนธรรมดา ถ้าถูกเหล่าสาวงามพบเข้าจะต้องยื้อแย่งกันเป็นแน่ และเบี้ยอัดก็คงจะมีไม่น้อยเลยทีเดียว
หยุนจิงที่หน้านิ่ง คิ้วเป็นปมคอยป้องกันซูหนานอีเอาไว้ตลอด กลัวว่าพวกเด็กรับใช้จะเข้ามาทำร้ายนาง
ซูหนานอีรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาทันที และกระซิบข้างหูของเขา "โจวเฉิงเคยพาเจ้าไปที่ไหนบ้าง"
หยุนจิ่งที่สายตายังคงมองกลุ่มเด็กรับใช้พวกนั้นอยู่ ยังไม่ทันได้เอ่ยตอบก็มีคนงานคนหนึ่งเดินเข้ามา "องค์ชายหยุน! ท่านยังจำผู้น้อยได้หรือไม่ ท่านเคยมาที่ร้านของแม่นางจิ่นของเรายังจำได้หรือไม่"
ซูหนานอีหันไปตามเสียง เป็นเด็กรับใช้ที่สวมชุดสีน้ำเงินเดินยิ้มเข้ามาทักทายหยุนจิ่ง
แววตาหยุนจิ่งวาวขึ้นมาเล็กน้อย "เป็นเขา เมื่อก่อนข้าเคยไปที่ร้านของพวกเขา"
ซูหนานอีพยักหน้า "ดี งั้นพวกเราไปร้านของเขากัน"
คนอื่นที่ได้ยินอย่างนั้นก็ถึงกับส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง อยากจะแนะนำร้านของตัวเองว่ามีอะไรดี แต่กลับถูกเด็กรับใช้คนนี้แยกออกเสียก่อน
ทั้งสามคนขึ้นไปบนเรือ เด็กรับใช้เอ่ย "คุณชายหยุน ท่านไม่ได้มาหลายวันแล้ว แม่นางจิ่นของเราเฝ้าคะนึงหาท่านอยู่ทุกวัน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ