ผู้ว่าการนครหลวงเป็นเจ้าเมืองของเมืองซินเยว่ การเป็นเจ้าเมืองในนครหลวงนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย ที่นี่มีข้าราชการยศสูงมากมาย บังเอิญเจอคนบนถนนคนหนึ่ง ก็มีโอกาสสูงมากที่จะเป็นขุนนางขั้น4หรือขั้น5 ถ้ามิใช่ขุนนางก็เป็นญาติพี่น้องของขุนนาง ส่วนเจ้าเมืองจ้าวคนนี้ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งเจ้าเมืองนครหลวง เป็นคนที่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ตั้งแต่ตอนที่เป็นเจ้าเมืองในเมืองเจียงหนาน หลายปีก่อนเนื่องจากว่าตระกูลเซี่ยมีความเกี่ยวข้องกับคดีความหนึ่ง จึงถูกกักสินค้าไว้ชุดหนึ่ง ใช้เงินยังไงก็ไม่ได้ เจ้าเมืองจ้าวคนนี้ไม่เอาเงินแม้แต่สลึงหนึ่ง ยึดเอาหลักฐานและกฏเกณฑ์อย่างเดียว ทำให้ตระกูลเซี่ยปวดหัวมาก เซี่ยหล่านเสนอตัวไปเอง แต่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร แม้กระทั่งท่านเจ้าเมืองยังไม่ได้เห็นเลย ในที่สุดยังเป็นซูหนานอี รักษาโรคที่ติดตัวมานานของคุณหญิงจ้าวจนหาย นี่ถึงทำให้เจ้าเมืองจ้าวยอมพบกับเซี่ยหล่าน เล่าความเป็นมาของเรื่องให้เขาฟัง และก็นำหลักฐานมาให้ นี่ถึงจะคืนสินค้าให้กับตระกูลเซี่ย จึงไม่ได้ผิดนัด
ซูหนานอีคิดไม่ถึงว่า จะบังเอิญขนาดนี้ เจ้าเมืองจ้าวคนนี้ที่ซื่อตรงต่อหน้าที่และไม่ประจบสอพลอใครนั้น จะถูกโยกย้ายมาที่นี่
"ถ้าหากเป็นเจ้าเมืองจ้าวคนนี้ เรื่องนี้ก็จัดการได้ง่ายแล้ว"ซูหนานอียิ้มเบาๆ มองความคิดในใจของเซี่ยหล่ายออกทันที"เจ้าเมืองจ้าวเป็นขุนนางที่ดี ครั้งนี้อาจจะช่วยเรื่องของเราได้มาก"
เซี่ยหล่านทำตาขาวใส่นาง แต่ก็เห็นด้วยเช่นกัน
ระหว่างที่พูด หลี่จิ้งหว่านก็มา ตามจริงนางเขียนเสร็จตั้งนานแล้ว แต่ว่าซูหนานอีไม่ได้ออกมา นางมารบกวนก็ไม่ดี
"เขียนเสร็จแล้วหรือ?"ซูหนานอีถาม
"ใช่ รบกวนคุณหนูซูแล้วนะ"หลี่จิ้งหว่านยื่นจดหมายซองหนึ่งให้นาง"วันหลังข้าจะตอบแทนบุญคุณแน่นอน"
"เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ไม่ต้องเกรงใจ"ซูหนานอีรับจดหมายมา"คุณหนูหลี่ไม่ต้องเป็นห่วง พักอยู่ที่นี่ตามสบายเลย ถ้ามีข่าวข้าจะแจ้งเจ้า"
"เจ้าค่ะ"
ซูหนานอีออกจากเรือนพร้อมกับหยุนจิ่ง เซี่ยหล่านพูดว่า"จดหมายซองนี้เอาให้ข้าไปก็ได้"
"ไม่ต้องแล้ว รับเรื่องจากคนอื่นมา ก็จะทำให้เรียบร้อยด้วยตัวเอง"ซูหนานอีเก็บจดหมายไว้อย่างดี"พรุ่งนี้ข้าจะไปที่ศาลเจ้าพระแม่กวนอิม ส่งไปให้พอดีเลย"
"เจ้าจะไปที่ศาลเจ้าพระแม่กวนอิมด้วยหรือ?ฝั่งของหุบเขาหมอเทวดา......"
"ไม่เป็นไร ข้าไม่เปิดเผยตัวตน พวกเขานึกไม่ถึงว่าเป็นข้าหรอก"รอยยิ้มของซูหนานอีค่อยๆเย็นขึ้น"ไม่มีอันตรายหรอก"
"ภรรยา ไม่ต้องกลัว ข้าจะไปกับเจ้า จิ่งเอ้อร์จะปกป้องเจ้า"หยุนจิ่งรีบเสนอตัว ตั้งนานเขาก็สอดแทรกคำพูดไม่ได้ น่าเสียใจมาก!คนพวกนี้พูดอะไรกับภรรยา เขาฟังไม่รู้เรื่องเลย ความรู้สึกแบบนี้ไม่ดีเลย!
"......"เซี่ยหล่านจนปัญญา"เจ้าอย่ามาสร้างความวุ่นวายได้ไหม?"
"ข้าไม่ได้สร้างความวุ่นวาย ข้าสามารถปกป้องภรรยาได้"หยุนจิ่งไม่ยอมท้อถอย"เซี่ยหล่านหล่าน
เจ้านั่นแหละถึงเป็นภาระ ชอบใส่สิ่งประดับที่มันสว่างพริบพราวขนาดนั้นหรือ"
"ฮ่าๆ......."เมื่อกี้นี้ซูหนานอียังเต็มไปด้วยความแค้นและโกรธ ตอนนี้ฟังคำพูดของหยุนจิ่ง ก็อดหัวเราะไม่ได้
"???"เซี่ยหล่านรู้สึกตกใจ"เจ้า เจ้าว่าอะไรนะ ข้าชื่อเซี่ยหล่าน ไม่ใช่เซี่ยหล่านหล่าน ทำไมถูกเจ้าเรียกอย่างกับชื่อผู้หญิงเลย?"
"เฮ่อ ข้าไม่สน ยังไงภรรยาเป็นของข้า พวกเจ้าห้ามแย่ง!"
"......"เซี่ยหล่านจนคำพูด
ซูหนานอีชุ่มคอ แล้วชี้เครื่องประดับบนร่างกายของเซี่ยหล่านที่สว่างพริบพราว"ชอบสิ่งที่มันสว่างพริบพราวหรือ"
"พวกเจ้า......"
ซูหนานอียิ้มแล้วพาหยุนจิ่งจากไป"จิ่งเอ้อร์ ไปแล้ว!"
สองคนเดินมาถึงหน้าประตูตระกูลหลี่ ซูหนานอีตั้งใจเดินช้าลง ได้ยินคนใช้ที่ยืนอยู่หน้าประตูหลายคนพูดคุยกันอยู่
"สองวันนี้ข้าวิ่งจนปวดขา เหนื่อยมากๆ"
"แล้วมีวิธีอะไรอีกล่ะ?คุณหนูหายตัวไป คุณหญิงก็เลยจะหาเรื่องไอ้หญิงเลวคนนั้น ในที่สุดไอ้หญิงเลวนั้นก็หนีไป คุณหญิงจะไม่โกรธได้ยังไงล่ะ?"
"ถ้าให้ข้าว่านะ ไอ้หญิงเลวคนนั้นก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ถูกแย่งโอกาสไปเปล่าๆ ตอนนี้ยังถูกไล่ตีอีก"
"หุบปากเถอะมึง ไม่อยากอยู่ต่อแล้วหรือ?"
"ถือว่าข้าไม่ได้พูดอะไรนะ ไม่ได้พูด!เอ๊ะ พวกเจ้าว่าพ่อบ้านจะหาเจอคนมาทำพิธีไหม?"
"ใครจะรู้เล่า?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ