เสี่ยวชีเห็นท่าทางของซูหนานอีเช่นนั้นจึงคิดว่านางมิเชื่อ จึงได้อธิบายต่อไปว่า "นางดูเหมือนขาขวาผิดปกติ เวลาเดินเท้าขวาของนางจะลากพื้นเล็กน้อย ดังนั้นเสียงฝีเท้าจึงมิน่าฟังนัก ประกอบกับที่นางอ้วนท้วมและดูน่าหงุดหงิด"
ซูหนานอีประหลาดใจยิ่งขึ้น "หูของเจ้าดีเช่นนี้เชียวหรือ?"
จากนั้นเสี่ยวชีจึงเข้าใจสิ่งที่นางกล่าวแล้วพยักหน้าเล็กน้อย "ข้าเกิดและโตในภูเขา ถูกท่านหัวหน้าเก็บมาเลี้ยงดู เขาทำการฝึกฝนตามจุดแข็งของเราที่แตกต่างกันไป"
ขณะนั้น แม่บ้านชุยและเสี่ยวเถาได้เดินเข้าไปด้านใน นี่เป็นครั้งแรกที่นางเข้ามาในห้องของซูหนานอี ทันทีที่เข้าประตูมา นางก็คุกเข่าลงโดยมิกล่าวอะไร
เสี่ยวเถาตกใจยิ่ง "เจ้ากำลังทำอะไรอยู่นี่? มีอะไรก็จงกล่าวมา เจ้าทำเช่นนี้จะมิทำให้คุณหนูของเราเสียชื่อเสียงหรือ?"
แม่บ้านชุยก้มศีรษะคารวะซ้ำแล้วซ้ำเล่า "คุณหนูเจ้าคะ บ่าวมิได้หมายความว่าเช่นนั้น บ่าวเพียงอยากจะขอให้คุณหนูช่วยบ่าวด้วย!"
เสี่ยวเถากำลังจะโต้แย้ง แต่ซูหนานอียกมือขึ้นก่อน นางจึงได้เพียงเม้มริมฝีปากด้วยความโกรธอยู่ข้างๆ
"เจ้าเป็นคนของเซี่ยซื่อ ตอนนี้เจ้าทำงานในเรือนของ ซูหว่านเอ้อร์ หากเจ้ามีอะไรจะขอก็ควรไปขอกับพวกนางสิ เหตุใดจึงต้องมาร้องขอข้า?"
หน้าผากของแม่บ้านชุยโขกลงที่พื้น เสียงของนางสั่น "คุณหนูเจ้าคะ บ่าวอยู่ในจวนพวกนางก็จริง แต่พวกนางมิเคยปฏิบัติกับบ่าวเช่นมนุษย์......"
นางกล่าวพร้อมสะอึกสะอื้นออกมา"เสี่ยวชุยจือลูกชายของบ่าวเสียชีวิตอย่างหาสาเหตุมิได้ บ่าวยังมิได้เจอเขาเป็นครั้งสุดท้าย คนพวกนั้นก็โยนเขาออกไปทิ้งเสียแล้ว......บ่าวได้เอ่ยถามคุณนายเซี่ย แต่นางก็มิรู้อะไรเลย อีกทั้งยังดุด่าว่าบ่าวพูดมาก บุตรชายของบ่าวทั้งคน จะมิให้บ่าวเอ่ยถามเลยหรือเจ้าคะ?"
"บ่าวถูกย้ายไปที่เรือนของคุณหนูรองตั้งแต่เมื่อวานแต่ วันนี้หลานสาวของบ่าวก็เสียชีวิตลง เพียงเพราะกวาดพื้นโดยมิได้ระวัง จึงทำให้เศษกระเบื้องแตกกระเด็นไปถูกชายกระโปรงของคุณหนูรอง......"
"คุณหนูเจ้าคะ บ่าวรู้สึกขมขื่น มิรู้จะกล่าวกับผู้ใดได้...…"
นางหลั่งน้ำตาร่ำไห้ เสียงสะอื้นที่พยายามเก็บเสียงเอาไว้ทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกโศกเศร้าในหัว ดวงตาของเสี่ยวเถาก็เริ่มเป็นสีแดง
ซูหนานอีจึงนึกขึ้นได้ว่าเสี่ยวชุยจือเป็นบุตรชายของแม่บ้านชุย เป็นเรื่องน่าสมเพชจริงๆที่คนอายุเท่านี้ต้องสูญเสียลูกและหลานไป
สิ่งที่นางมิคาดคิดก็คือ เด็กหญิงตัวเล็กๆในวันนี้ จะเป็นหลานสาวของแม่บ้านชุย
"ขอบพระคุณคุณหนูที่จัดหาโลงศพให้หลานสาวของบ่าว ให้นางได้จากไปอย่างสงบ บ่าวขอบคุณสำหรับความเมตตาของคุณหนูยิ่ง......"
แม่บ้านชุยเริ่มนำศีรษะโขกพื้นอีกครั้ง เสียงหน้าผากแตะพื้นดังโครมๆ
ซูหนานอีมองไปที่แม่บ้านชุย นางมิรู้ว่าจริงหรือเท็จเพียงใด แม้ว่าเรื่องที่นางประสบมานั้นจะน่าสงสารสักเพียงไร แต่ซูหนานอีจะมิแสดงความเห็นอกเห็นใจออกมา
"เสี่ยวเถา ช่วยพยุงนางลุกขึ้นเถอะ"
เสี่ยวเถาก้าวไปข้างหน้าและช่วยพยุงแม่บ้านชุยขึ้นมา หน้าผากของนางเปลี่ยนเป็นสีแดงม่วง ใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยน้ำตา
"เจ้าต้องการให้ข้าช่วยเจ้าอย่างไร?" ซูหนานอีถาม
"บ่าว......บ่าวอยากจะล้างแค้นให้ลูกชายและหลานสาวเจ้าค่ะ!" แม่บ้านชุยกัดฟันกรอด
ซูหนานอีหรี่ตาเล็กน้อย "เจ้าคิดจะฆ่าเจ้านายหรือ? การที่ทาสรับใช้ทำร้ายนายถือเป็นความผิดทางอาญา"
แม่บ้านชุยลังเลและส่ายหัว "บ่าวมิได้ต้องการฆ่านาย บ่าวเพียงต้องการสอนบทเรียนแก่คุณหนูรองเจ้าค่ะ"
ซูหนานอีคิดอยู่ครู่หนึ่ง "ข้าเข้าใจความคิดของเจ้าแล้ว เจ้ากลับไปก่อนเถอะ"
แม่บ้านชุยก้าวไปข้างหน้าแล้วกล่าวว่า "คุณหนูเจ้าคะ ให้บ่าวเข้ามาทำงานในเรือนคุณหนูได้หรือไม่เจ้าคะ?"
"มิได้ในตอนนี้ หากเจ้ายังอยู่ที่นั่นยังพอจะทำอะไรได้บ้าง หากเจ้ามาที่นี่แล้วจะทำการมิสะดวก เข้าใจที่ข้าพูดหรือไม่?"
แม่บ้านชุยตระหนักขึ้นในทันใด "บ่าวเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ เช่นนั้นบ่าวขอตัวก่อนนะเจ้าคะ และรอคำสั่งจากคุณหนู"
เสี่ยวเถาส่งแม่บ้านชุยกลับออกไป ซูหนานอีเอ่ยถามเสี่ยวชีว่า "เจ้าคิดว่าที่นางกล่าวเป็นจริงหรือไม่?"
"จะเพียงคิด ฟังหรือรู้สึกมิได้ เราต้องพึ่งพาหลักฐานเจ้าค่ะ" เสี่ยวชีก้มหน้าลงตอบ "คุณหนูเจ้าคะ บ่าวสามารถคอยจับตามองนางได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ