เรือนของซูหว่านเอ้อร์ส่งเสียงโวยวาย ทำให้ซูซืออวี้ตื่นขึ้นมาเช่นกัน
สองวันมานี้เขาเหนื่อยใจมากพอแล้ว เรื่องราวในบ้านถาโถมเข้ามามิหยุดหย่อนเมื่อกลับมายังจวนในวันนี้ก็ได้ยินว่าซูหว่านเอ้อร์ได้ฆ่าบ่าวรับใช้ไปอีกหนึ่งคน คิ้วเขาก้กระตุกขึ้นมาทันใด แต่เมื่อได้ยินมาว่าซูหนานอีจัดการกับเรื่องนี้เรียบร้อยแล้วจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมานิดหน่อย แม้ว่าซูหนานอีจะแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก แต่การรับมือกับเรื่องต่างๆก็ทำให้เขาวางใจลงมิน้อย อย่างไรเสียเขาก็อดคิดมิได้ว่าลูกสาวคนโตของเขาเป็นการเป็นงานมากกว่า เดิมทีเขาตั้งใจจะเดินทางไปหาซูหนานอี แต่ก็อดใจเอาไว้
คืนนี้เขามิได้ไปนอนที่เรือนเซี่ยซื่อ กลับนอนอยู่ในห้องหนังสือเพียงลำพัง มินานหลังจากที่เขาล้มตัวลงนอน เด็กชายรับใช้คนหนึ่งก็มาเคาะเรียกที่ประตู เขาได้ยินเด็กรับใช้นั้นกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซูซืออวี้ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันใด เขารีบลุกไปพร้อมกับจุดตะเกียง ยังมิทันได้เข้าไปถึงก็ได้กลิ่นธูปลอยมา อีกทั้งได้ยินซูหว่านเอ้อร์ร้องให้เปลี่ยนเตียง หัวใจของซูซืออวี้ก็เกิดเป็นความโกรธเกิดขึ้นมาทันที จึงรีบเร่งฝีเท้าเข้าไปในเรือน เมื่อแม่บ้านและบ่าวรับใช้เห็นเขาต่างก็พากันนิ่งเงียบ
"เจ้ากำลังทำอะไรอยู่อีก?"
ซูหว่านเอ้อร์เห็นเขาเข้ามาจึงรีบวิ่งไปคว้าแขนไว้ทันที "ท่านพ่อ ท่านพ่อมาแล้ว ช่วยข้าด้วย ไอ้คนใช้บ้านั่นมันกลายเป็นผีมาหลอกให้ข้ากลัว! ท่านพ่อ ช่วยขับไล่มันออกไป ขับไล่มันออกไปที!"
ด้วยผมเผ้าที่ยุ่งเหยิง ใบหน้าขาวซีด มีเพียงแก้มของนางเท่านั้นที่แดงอย่างผิดปกติ ดวงตาของนางเบิกกว้างจ้องมองมาด้วยความตื่นตระหนก
ซูซืออวี้มองไปที่ท่าทางของนาง หัวใจของเขาเต้นแรงอย่างอธิบายมิถูก "เจ้ากำลังกล่าวเรื่องไร้สาระอะไรอยู่?"
"ท่านพ่อ มันอยู่ตรงนั้น อยู่ข้างหลังท่านพ่อ เมื่อครู่มันยังโยนผ้าเช็ดหน้าเปื้อนเลือดมายังเตียงข้าด้วย"
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาแต่ลมหายใจหนักแน่นมาก นางพูดพร้อมพ่นลมมายังข้างหูของซูซืออวี้ ทำให้หัวใจของซูซืออวี้กระวนกระวายมากขึ้นจนมิกล้าหันศีรษะกลับไปมอง เมื่อส่งสายตาไปที่ข้างเตียงของนางพบว่ายังคงมีคราบเลือดเล็กน้อย หัวใจเขาก็เต้นเร็วขึ้นทันใด เขากลืนน้ำลายอึกหนึ่งแล้วกล่าวว่า "ไร้สาระ! หว่านเอ้อร์......เมื่อไหร่เจ้าจะมีสติมากขึ้นสักที? เรื่องกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!"
"ข้าเป็นคนมีเหตุเสมอท่านพ่อ" ซูหว่านเอ้อร์ทำท่าทางเสียใจ "ซูหนานอีต้องการ ต้องการทำร้ายข้าชัดๆ นางใส่ร้ายข้า!"
ซูซืออวี้ขมวดคิ้วมองดูนาง "เจ้าเป็นน้องสาวของนาง เจ้ากล่าวแบบนั้นกับนางได้อย่างไร? นางทำร้ายเจ้างั้นรึ? นางทำร้ายเจ้าอย่างไร? นางฆ่าเด็กรับใช้ผู้นั้นของเจ้าหรือ? นางเป็นคนจัดการสิ่งที่เจ้าก่อไว้ต่างหากเล่า!"
"กรี๊ด!" ซูหว่านเอ้อร์กรีดร้องแล้วเอามือขึ้นปิดหูของนางทันที "ไม่ ไม่ใช่! นางผู้หญิงเลวซูหนานอีนั่นมันทำร้ายข้า ท่านพ่อ ท่านถูกนางทำของใส่หรือ!"
"บัดซบ!" ซูซืออวี้โกรธมากและมิต้องกล่าวเรื่องไร้สาระเช่นนี้กับนางอีกต่อไป จึงหันหลังกลับและเดินออกไป
"ท่านพ่อ!" ซูหว่านเอ้อร์รีบคว้าตัวเขาไว้ "ท่านมิสนใจข้าแล้วหรือ?"
ซูซืออวี้ปัดมือของนางออก "เจ้าควรไตร่ตรองตัวเองดูสักหน่อย วันๆเอาแต่ก่อเรื่องแล้วผลักมันให้คนอื่น เรื่องน่าอายครั้งที่แล้วที่เจ้าก่อขึ้นทำให้จวนซูถูกลากลงน้ำไปด้วยช่างขายหน้ายิ่งนัก หากมิใช่เพราะไท่เฟยมิประสงค์เอาเรื่องพวกเรา หากมิใช่เพราะหนานอีก้าวขึ้นมาออกหน้าให้ บัดนี้พวกเราคงจะเข้าไปนอนในคุกกันสิ้นแล้ว"
"ข้าพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะระงับเรื่องอันน่าเกลียดนี้เพื่อเจ้า เจ้ามิเพียงจะมิกลับใจ แต่ยังทำผิดพลาดครั้งแล้วครั้งเล่า!" ซูซืออวี้ดูโกรธมากขึ้นเรื่อยๆ เขามองดูบ่าวรอบตัวนางและกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า "จับตามองนางให้ดี!"
"เจ้าค่ะ"
ซูซืออวี้เดินออกจากเรือนไปด้วยความโกรธ ยิ่งคิดก็ยิ่งโกรธ เมื่อกลับไปแล้วมิว่าจะทำอย่างไรก็นอนมิหลับ ดังนั้นเขาจึงไปที่เรือนเซี่ยซื่อ
เซี่ยซื่อได้เรื่องซูหว่านเอ้อร์มาแล้วและกำลังจะเดินทางไปดู เมื่อแต่งตัวเสร็จก็ได้ยินว่าซูซืออวี้ได้เดินทางไปแล้ว
หยางโมโม่จึงเกลี้ยกล่อมว่า "คุณหยิงเจ้าคะ อย่าได้ไปที่นั่นเลย นายท่านเดินทางไปแล้ว เขารักคุณหนูรองยิ่งนัก เสียงร้องไห้ของคุณหนูรองทำให้หัวใจของนายท่านอ่อนลงได้ มิแน่ว่าหลังจากปลอบโยนคุณหนูรองเรียบร้อยแล้วอาจจะเดินทางมาพบคุณหญิงก็เป็นได้"
"บัดนี้ท่านนับว่าถูกกักขังบริเวณ หากออกไปดื้อๆเช่นนี้คงมิงาม รออยู่ที่นี่ดีกว่าเจ้าค่ะ เมื่อนายท่านเดินทางมาอาจจะเห็นอกเห็นใจมากกว่เดิม"
เซี่ยซื่อคิดว่ามีเหตุผลอยู่บ้าง นางจึงถอดเสื้อคลุมออกแล้วปล่อยผมหลวมๆ ทาแป้งบางๆลงบนใบหน้าเพื่อทำให้ผิวพรรณของนางดูซีดเซียวลง
หยางโมโม่ส่งคนออกไปดู มินานก็ได้รับรายงานว่านายท่านเดินทางมาจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ