หยุนจิ่งมองไปทางหลิวลี่ซงที่อยู่บนพื้น จากนั้นดึงซูหนานอีไปซ่อนไว้ข้างหลัง ก่อนจะเอ่ยเตือนว่า "เหนียงจื่อ เขากำลังจะฟื้นแล้ว"
ซูหนานอียิ้มออกมาอย่างอ่อนโยน สัมผัสไปที่เขาเบาๆกล่าวว่า "จิ่งเอ้อร์อย่าได้กังวลใจไป เขาถูกมัดเอาไว้ มิเป็นไรหรอก"
หยุนจิ่งจึงได้ปล่อยมือออก แต่สายตานั้นยังคงจับจ้องไปที่หลิวลี่ซงอย่างระมัดระวัง
หลิวลี่ซงหนังตากระตุก เขาส่งเสียงออกมาจากปากดังซี้ด รู้สึกว่าศีรษะและท้ายทอยของตนเจ็บปวดอย่างแรงจึงตั้งใจจะยกมือขึ้นไปสัมผัส กลับพบว่าขยับมิได้ จึงได้ตกอกตกใจเบิกตากว้างมองดูตนเอง ก่อนจะรู้ตัวว่าตนถูกมัดเอาไว้อย่างแน่นหนา เขาเป็นเพียงนักปราชญ์ทั่วไป หาได้เคยพบกับเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนจึงรู้สึกงุนงงยิ่งนัก เมื่อมองออกไปพบหวังซิงฮั่นผู้มีหนวดเครายาวรุงรัง ดวงตาทั้งกลมโตเบิกกว้าง ประกอบกับใบหน้าอันดุร้ายทำให้เขาแทบจะร้องไห้ออกมา
"ท่านชาย ท่านผู้เมตตา! มิทราบว่าเหตุใดท่านจึงได้มัดข้าเอาไว้เช่นนี้? ข้าน้อยหาได้มีทรัพย์สินเงินทองแต่อย่างใด อีกทั้ง มิมีหญิงงาม ข้าน้อยมิมีสิ่งใดจะนำมามอบให้ท่านเลย ขอร้องท่านปล่อยข้าน้อยไปเถอะ……"
"……" หวังซิงฮั่น
ดวงตาของหยุนจิ่งกะพริบขึ้น เหตุใด……เขาจึงรู้สึกแปลกๆ?
ซูหนานอีกระแอมออกมา จากนั้นเดินเข้าไปหาหลิวลี่ซงช้าๆ
หลิวลี่ซงที่นอนตะแคงอยู่บนพื้น เขาเห็นเพียงชายกระโปรงงดงามดุจดอกบัว จากนั้นค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมอง พบกับใบหน้าอันเย็นชาแต่สวยงาม
ก่อนหน้านี้ซูหนานอีสวมหมวกปิดบังเอาไว้จึงทำให้เขาไม่อาจเห็นใบหน้าของนางได้อย่างชัดเจน แน่นอนว่าบัดนี้จึงจำไม่ได้ว่านางเป็นใคร
"จะปล่อยเจ้าไปก็ได้มิใช่เรื่องยาก แต่จงกล่าวกับข้ามาว่าเหตุใดจึงได้สะกดรอยตามข้า หากเจ้าสามารถบอกออกมาถึงเหตุผลได้ก็ว่าง่าย แต่หากไม่......"
ดวงตาของหลิวลี่ซงหรี่ลงทันใด เขาเพิ่งได้เข้าใจว่าผู้ใดที่ยืนอยู่ตรงหน้านี้? สมองของเขาพลิกผันอย่างรวดเร็วแล้วรีบยิ้มพร้อมกับอธิบายว่า "คุณหนูเข้าใจผิดไปแล้วขอรับ ข้าน้อยหาได้สะกดรอยตามคุณหนูแต่อย่างใด……"
ซูหนานอีหันไปขยิบตาให้หวังซิงฮั่น จากนั้นหวังซิงฮั่นก็ก้าวขึ้นไปได้หน้า ดึงหลิวลี่ซงขึ้นมาใช้มืออันใหญ่และหนาของเขาตบลงบนหน้าดัง "เพลียะ!"
มือของหวังซิงฮั่นดุจดั่งพัดใบใหญ่ เมื่อฟาดลงไปจึงทำให้หูของหลิวลี่ซงส่งเสียงดังอื้ออึง มุมปากของเขามีเลือดสดๆไหลออกมา ผิวหนังบนใบหน้าร้อนระอุดั่งกับจะแตกสลาย
"อ๊าก!"
เขาร้องออกมาได้เพียงครึ่งหนึ่ง ก็ถูกสายตาอันน่ากลัวของหวังซิงฮั่นมองย้อนกลับไปเสียจนต้องเก็บเสียงเอาไว้
ซูหนานอีก้มตัวลงมามองดูเขา กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงไม่แยแส เบาบางดุจเมฆที่ลอยอยู่บนฟากฟ้า "เจ้าลองคิดดูดีๆ หากกล่าววาจาไร้สาระอีกล่ะก็คงจะต้องโดนตบอีกสักที เมื่อครู่นั้นเป็นเพียงแค่ตัวอย่าง"
ตัวอย่างหรือ? สิ่งนี้ต้องทำเป็นตัวอย่างก่อนด้วยหรือ?
หลิวลี่ซงแอบสบถอยู่ในใจ แต่เขากลับมิกล้ากล่าวอะไรออกมา ทำได้เพียงพยักหน้าอย่างซื่อๆ
"จงว่ามา"
หลิวลี่ซงจึงได้เอ่ยปากขึ้นอย่างระมัดระวังยิ่งว่า "ข้าน้อยเพียงแค่ต้องการตามหานาง ได้ยินคุณหนูกล่าวว่ารู้จักกับนาง จึงต้องการจะรู้ว่านางอยู่ที่ใด ด้วยเหตุนี้จึงรีบร้อนในการติดตามหานางเท่านั้น หาได้มีแผนการชั่วร้ายใด"
ประโยคนี้นับว่าเป็นความจริงอยู่กว่าครึ่ง เมื่อซูหนานอีคำนวณดูเวลาแล้วคาดว่าบัดนี้เสี่ยวชีคงจะนำตัวหลี่จิ้งหว่านมาพอดี
นางชะงักลงเล็กน้อยด้วยความสงสัย หวังซิงฮั่นเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเพราะหลิวลี่ซงกล่าวความเท็จ จึงได้ตบเขาเข้าให้ด้วยหลังมืออีกครั้ง
"……" ซูหนานอี
ข้ามิได้หมายความว่าเช่นนั้น
น้ำตาของหลิวลี่ซงไหลรินออกมาอาบสองแก้ม หน้าที่บวมเป่งเท่ากันทั้งสองข้าง
หยุนจิ่งที่ยืนอยู่ข้างๆเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวออกมาอย่างโกรธเคืองว่า "ใครใช้ให้เจ้าโกหก!"
หลิวลี่ซงสูดจมูกแล้วนึกในใจว่าข้ามิได้โกหกจริงๆ……
"คุณหนูขอรับ" หลิวลี่ซงพยายามดิ้นรนและคุกเข่าลง "ข้าน้อยและนางนั้นรักกันอย่างจริงใจ จู่ๆนางก็หายตัวไปทำให้ข้าน้อยรู้สึกกังวลใจยิ่งนัก ครอบครัวของข้าเป็นเพียงครอบครัวยากจน มีเพียงเศษเงินที่พอจะนำมาซื้ออาหารเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันเท่านั้น ตอนกลางคืนข้ามิกล้าพักในโรงเตี๊ยม หากมิใช่เพราะข้าน้อยต้องการจะตามตัวนางพบในเร็ววัน ข้าเป็นเพียงแค่นักปราชญ์ธรรมดา ก็คงมิต้องการจะรบกวนผู้ใด อีกทั้งเที่ยวแจกจ่ายใบปลิวเหล่านั้นที่ถนนเหรอขอรับ……"
ขณะที่เขากล่าวพลางก็น้ำตาไหลริน "ข้าเพียงต้องการตามหานางเท่านั้นจริงๆ ส่วนเรื่องศักดิ์ศรีใดๆเหล่านั้นข้าน้อยมิ สนใจอีกต่อไป ขอโปรดคุณหนูปล่อยข้าน้อยและบอกทีเถิดว่านางอยู่ที่ใด……"
คำพูดของเขานั้นดูออกมาจากใจจริง ในแต่ละคำที่กล่าวออกมาทำให้คนฟังรู้สึกหัวใจสั่นไหว หากมิใช่ในค่ำคืนนั้นนางพบว่าเขาเกลือกกลิ้งไปบนเตียงกับชุ่ยจือ ซูหนานอีคงจะเชื่อเรื่องไร้สาระที่เขากล่าวมาแล้วจริงๆ
หยุนจิ่งดูเหมือนจะอดไม่ไหวอีกต่อไป เขารู้สึกสงสารและดึงแขนเสื้อของซูหนานอี กล่าวอย่างเงียบๆว่า "เหนียงจื่อ เขากำลังตามหาใคร ตามหาเหนียงจื่อของเขาหรือ?"
ซูหนานอียังมิทันได้ตอบออกมา น้ำเสียงอันสั่นคลอนของหลิวลี่ซงก็ได้กล่าวขึ้นว่า "คุณชายกล่าวได้ถูกต้องแล้ว รอเมื่อใดที่ข้าน้อยหาตัวนางพบ ก็จะแต่งงานกับนางทันที!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ