ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ นิยาย บท 92

ซูหนานอีฟังแล้วเหมือนเป็นปี่มอญ หยุนจิ่งฟังแล้วหัวเราะพูดว่า"ภรรยา ครึกครื้นจริงๆเลย"

"จิ่งเอ้อร์อยากไปดูไหมล่ะ?"

"ได้ไหม?"

"ได้แน่นอนสิ"ซูหนานอีจัดระเบียบผมที่ตกหล่นลงมาของเขา"ไม่งั้นเราไปดูกันไหม?"

นางลดเสียงลง"แอบดู"

หยุนจิ่งก็พูดด้วยเสียงเบาตามนาง"ได้"

ทั้งสองคนแอบออกจากเรือนอย่างเงียบๆ ค่อยๆเดินไปทางประตู เสียงเป่าปี่มอญก็เริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ

ยังเดินไม่ถึงหน้าประตูก็เห็นมีคนใช้หลายสิบคนใส่ชุดสีแดงเดินเข้ามา คนที่อยู่หน้าสุดเป็นหญิงแก่ที่ใส่เสื้อไหมสีแดงในตัว บนหัวได้ใส่ดอกไม้สีแดงด้วย

หยุนจิ่งกระซิบพูดอยู่ข้างๆของซูหนานอี"ภรรยา คนนี้แปลกจริงๆเลย นางมาทำอะไรเนี่ย?"

"นี่คือหญิงแก่ที่คนจ้างมาขอแต่ง"ซูหนานอีอธิบายอย่างตั้งใจ"ข้าคิดว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องงานแต่งของซูหว่านเอ้อร์"

กำลังพูดอยู่ เสียงดนตรีข้างนอกก็หยุดลง ซูซืออวี้ก็ได้ยินการเคลื่อนไหวและเดินออกมาต้อนรับ

หญิงแก่ได้เห็นเขาแล้วก็ยิ้มขึ้นมาทันที"อุ้ย นายท่านซู ขอแสดงความยินดีด้วย"

ซูซืออวี้เห็นว่ามันยิ่งใหญ่เช่นนี้ และยังได้ยินคำพูดประจบสอพลอของหญิงแก่อีก ก็รู้สึกดีใจมาก"ขอบคุณขอรับ"

"ดูสิ นี่เป็นหนังสือหมั้นหมายแต่งงาน"หญิงแก่มอบของให้ และมองไปดูข้างหลัง"และรายการสินสอดก็อยู่ในนี้ด้วย นายท่านซู เจ้านี่ก็ช่างโชคดีจริงๆเลย ดูสิ รายการสินสอดมากขนาดนี้ จวนแม่ทัพจริงใจจริงๆ!"

"ขอรับ ขอรับ"ซูซืออวี้เห็นรายการที่มากเช่นนี้ก็ค่อนข้างจะเวียนวัว รู้สึกดีใจจนถึงขั้นไม่สามารถบรรยายได้แล้ว"รีบเชิญข้างใน เชิญข้างใน"

หญิงแก่รู้สึกดีใจมาก แต่ไม่ได้เดินเข้าไปข้างใน ซูซืออวี้หยิบเงินออกมายื่นให้นาง

หญิงแก่รับมาอย่างมีความสุข"นายท่านซู วันนี้ไม่เพียงแต่ข้ามา ยังมีคนใหญ่คนโตตามมาอยู่ข้างหลังเลย"

ซูซืออวี้ตะลึง เงยหน้ามองไปทางที่นางชี้ด้วยจิตสำนึก

ซูหนานอีและหยุนจิ่งที่ซ่อนอยู่หลังต้นไม้นั้นก็มองไป หยุนจิ่งกระซิบอยู่ข้างหูซูหนานอี"ภรรยา เจ้าเดาสิว่าจะเป็นใคร ฮ่องเต้หรือ?"

ซูหนานอีรู้สึกน่าขำมาก แต่คิดดูแล้วมันก็ใช่อยู่ ในสายตาของหยุนจิ่ง คนที่ถือได้ว่าเป็นคนใหญ่คนโตก็ต้องเป็นระดับฮ่องเต้แล้ว

นางเอียงหน้าไปมองหนุนจิ่ง จู่ๆหยุนจิ่งก็กระซิบพูดว่า"ภรรยา รีบดูสิ เป็นเขานั่นเอง!"

ซูหนานอีหันไปมอง และก็อึ้งไปครั้งหนึ่ง

หลี่ชูยวี่ใส่ชุดสีขาวพระจันทร์ บนหัวสวมมงกุฏหยก เอวคาดด้วยเข็มขัดหยก ในมือถือพัดหนึ่งอัน กำลังเดินมาอย่างช้าๆ

อยู่ในท่ามกลางของคนใช้ที่ใส่ชุดสีแดง เขาโดดเด่นมาก เห็นแล้วรู้สึก......สูงส่งกว่าปกติ

ซูหนานอีขำออกมา หยุนจิ่งถามด้วยความแปลกใจ"ภรรยาขำอะไร?"

"ข้าขำเพราะไอ้เจ้านี่ใช้คนอื่นมาเปรียบเทียบถึงความโดดเด่นของตัวเอง แต่ไม่ว่าเขาทำยังไงก็หล่อไม่เท่าจิ่งเอ้อร์ของข้า"

หยุนจิ่งถูกชม ตาโค้งเหมือนรูปพระจันทร์เสี้ยว

ซูหนานอีแอบถอนหายใจ พระเจ้านี่ดีต่อข้าจริงๆ ให้ข้าได้เกิดใหม่ ได้พบคนที่ดีอย่างหยุนจิ่ง!

ซูซืออวี้ได้เห็นหลี่ชูยวี่ ก็ประหลาดใจมาก รู้สึกดีใจจนมันเกินจริง กำลังคิดจะขึ้นไปทำความเคารพ หลี่ชูยวี่ก็เก็บพัดลง จับแขนของเขาไว้"นายท่านซู ทีหลังเจ้าก็เป็นพ่อตาของข้าแล้ว ไม่ต้องพิถีพิถัน"

ซูซืออวี้รู้สึกดีใจมาก"เชิญข้างใน เชิญข้างใน"

แต่หลี่ซูยวี่ไม่ได้รีบไป พัดในมือกางออกมา ปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า กระพริบตาเล็กน้อย"ครั้งนี้ข้ามาให้สินสอดด้วยตัวเอง ไม่ทราบว่าจะสามารถเชิญคุณหนูซูมาพบได้หรือเปล่า?"

ยิ่งดูยิ่งรู้สึกพอใจ

หลี่ซูยวี่มองไปสังเกตรอบข้างอย่างไม่ตั้งใจ ไท่ไปสนใจซูซืออวี้ ตามจริงแล้วการตกแต่งของที่นี่ธรรมดามากในสายตาของเขา ไม่มีอะไรน่าดูเลย

อยู่ๆก็ได้ยินเสียงกริ๊งของเครื่องประดับ ในเรือนปรากฏร่างหลายร่าง คนที่เดินอยู่หน้าสุดเป็นเซี่ยซื่อนั่นเอง

เซี่ยซื่ก็ไม่ได้เป็นลักษณะที่ดูอิดโรยเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ดูมีชีวิตชีวามาก ส่วนซูหว่านเอ้อร์เดินตามอยู่ข้างๆของนาง

เดิมทีซูหว่านเอ้อร์คิดจะนอนพักผ่อนตอนเที่ยง แต่เนื่องจากตื่นเต้นเกินไปนอนไม่หลับเลย เพิ่งเผลอหลับไปสักพักหนึ่ง จู่ๆก็ได้ยินเสียงวุ่นวายของข้างนอก นางกำลังรำคาญอยู่ แต่ก็มีคนเข้ามาแจ้งว่ากั๋วจิ้วเหย่เอาสินสอดมาขอแต่งแล้ว ยังให้นางไปพบกันที่เรือนหน้า

ซูหว่านเอ้อร์ฟื้นสติกลับมาไม่ได้ เซี่ยซื่อก็ได้ยินข่าวนี้มาหานาง เห็นนางยังอึ้งอยู่ก็รีบดึงนางไปที่หน้ากระจกและแต่งหน้าให้นาง

"แม่ นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?ข้ากำลังฝันอยู่หรือไม่?"เสียงของซูหว่านเอ้อร์ตื่นเต้นจนสั่นเล็กน้อย

"ลูกโง่ของแม่ แน่นอนต้องเป็นจริงสิ"เซี่ยซื่อก็รู้สึกดีใจเช่นกัน

ความโกรธในใจระบายออกมาได้แล้ว

"แต่ว่าท่านแม่ ลูกไม่เข้าใจจริงๆเลย ฐานะอย่างกั๋วจิ้วเหย่ จะ......"

เซี่ยซื่อมองนางตาหนึ่ง ตบมือของนางเบาๆ"หว่านเอ้อร์ไม่ต้องดูถูกตัวเอง เขาในฐานะที่สูงส่งก็จริง แต่เราก็ไม่ธรรมดา เจ้ามีหน้าตาดีและมีวิชาความรู้ในตัว แม้ว่าตระกูลซูเราเป็นตระกูลค้าขาย แต่เรามีเงินทองมากมาย"

เซี่ยซื่อพูดด้วยความหมายลึกซึ้ง"เงินเป็นสิ่งที่ดีนะ หว่านเอ้อร์ จะต้องมีสักวันหนึ่งเจ้าต้องรู้"

ซูหว่านเอ้อร์พยักหน้า"ท่านแม่ ได้ยินท่านพูดเช่นนี้ข้าก็สบายใจได้แล้ว"

"ลูกของแม่ไม่ต้องเป็นห่วง ข้าเห็นว่าจวนแม่ทัพก็ให้ความสำคัญกับลูกอยู่นะ ตอนที่มาขอแต่งเป็นลูกสะใภ้ใหญ่มาเอง ตอนนี้เป็นกั๋วจิ้วเหย่มาให้สินสอดเองด้วย วันที่แต่งงานก็เป็นวันที่สำนักดูดาวของพระราชวังเลือกออกมาอีก แถมยังมีพระสนมเอกคอยดูแลอีก ลูกสาวของแม่ ชีวิตดีๆของเจ้ายังอยู่ข้างหลังเลย"

ซูหว่านเอ้อร์หน้าแดงขึ้นมา ในใจรู้สึกหวานมาก พิงอยู่บนไหล่ของเซี่ยซื่อ"ลูกสาวก็รู้สึกว่า พระสนมเอกดีมาก ความสัมพันธ์กับฝ่าบาทก็ดี"

"อ้อ?"เซี่ยซื่อตะลึง รู้สึกประหลาดใจ"ทำไมถึงพูดเช่นนี้ล่ะ?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-จอมนางสะท้านพิภพ