จิ้งอ๋องก้มศีรษะลงและไม่เห็นสีหน้าของเขา เขาเพียงพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "ฝ่าบาท วันนี้กระหม่อมมีเรื่องหนึ่งต้องรายงานฝ่าบาท กระหม่อมเคยเห็นองค์หญิงหัวจิ้งอยู่ในสนามรบ ท่าทางใกล้ชิดสนิทสนมกับองค์ชายสามแห่งเย้หลาง...เป็นอย่างมาก... "
ฮ่องเต้ทราบเรื่องนี้มาจากในจดหมายของชางเจียชิงซูมาก่อนแล้ว แม้ว่าในใจเขาจะโกรธมาก แต่อย่างไรหัวจิ้งก็ยังคงเป็นพระธิดาของเขา ดังนั้นเขาจึงไม่อาจเปิดเผยเรื่องเช่นนี้ออกไปได้ นอกจากนี้เขายังมีข้อสงสัยบางประการเกี่ยวกับสิ่งที่ชางเจียชิงซูอ้างถึง ตอนนี้เมื่อได้ยินจิ้งอ๋องพูดเช่นนี้แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นจริงๆ
ฮ่องเต้ในใจทรงพิโรธมาก "นังลูกไร้ยางอาย! กล้าทำเรื่องบัดสีเช่นนี้! ถึงแม้ว่าราชบุตรเขยจะตาย นางก็ไม่สมควรทำเช่นนี้!"
"ท่านราชบุตรเขยถูกกระหม่อมช่วยออกมาแล้ว ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ เรื่องนี้ท่านราชบุตรเขยและจ้าวฮูหยินก็รู้แล้ว พวกเขาเพียงขอให้ฝ่าบาทโปรดให้พวกเขาสองแม่ลูกอยู่เฝ้าชายแดนและไม่เต็มใจที่จะกลับมาที่เมืองหลวงอีก..." จิ้งอ๋องก้มศีรษะกล่าวด้วยเสียงหนักแน่น
เมื่อฮ่องเต้ได้ยินคำพูดนั้น พระองค์ก็ยิ่งโกรธ "หัวจิ้งช่างน่าละอายเกินไปแล้ว!" แต่เขากลับหยุดพูดและเงียบไปอยู่นาน จิ้งอ๋องก็คุกเข่าเงียบๆ อยู่นานก่อนที่เขาจะถอนหายใจออกมาอย่างช้าๆ "ช่างเถอะ เป็นเจิ้นเองที่ผิดต่อสองแม่ลูกนั้น ในเมื่อเป็นเช่นนี้เจิ้นก็จะทำตามความประสงค์ของพวกเขา พรุ่งนี้ให้ออกราชโองการให้หัวจิ้งและจ้าวอิงเจี๋ยหย่ากัน" หลังจากพูดแล้วเขาก็ก้มศีรษะลงมองจิ้งอ๋อง "คืนนี้จิ้งอ๋องบุกเข้าวังยามดึกแล้วยังไปตำหนักชิงซินก่อนจะมาหาเจิ้นที่นี่ก็เพื่อมาบอกเจิ้นเรื่องนี้หรือ?"
จิ้งอ๋องเงยหน้าขึ้นมองฮ่องเต้และพูดเสียงดังกังวานว่า "เสด็จพี่ ชางเจียชิงซูดูเหมือนจะไม่รู้ว่าองค์หญิงหัวจิ้งแต่งงานแล้วจึงได้เขียนจดหมายมาสู่ขอ กระหม่อมเกรงว่าหากเขารู้เรื่องนี้ เขาจะต้องขอให้องค์หญิงหยุนชางแต่งงานไปที่แคว้นเย้หลางแทนอย่างแน่นอน พูดตามตรง กระหม่อมกับหยุนชางชอบพอกันมานานแล้วดังนั้นจึงได้ลอบบุกเข้าไป ตอนนี้กระหม่อมอยากขอร้องฝ่าบาทให้พระราชทานงานแต่งของหม่อมฉันกับองค์หญิงหยุนชาง..."
ฮ่องเต้ได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจอีกครั้ง แม้เขาคาดเดาในใจไว้อยู่แล้ว เมื่อได้ยินสิ่งที่จิ้งอ๋องพูด เขาก็ยังรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก น้องชายบุญธรรมผู้นี้เขาเองก็รู้ดีว่ามีความทะเยอทะยานไม่น้อยซ้ำยังเป็นผู้ไร้ความรู้สึก เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าเขาสนใจเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง และด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้จึงไม่สามารถกุมจุดอ่อนของเขาเอาไว้ได้จึงไม่เคยกล้าให้เขาอยู่ในเมืองหลวง แม้แต่อำนาจทหารก็ไม่กล้ามอบให้เขาทั้งหมด
แต่วันนี้เขารีบวิ่งกลับมาจากชายแดนและบุกเข้ามาในวังยามวิกาลเพียงเพื่อขอแต่งงานกับหยุนชาง?
"จิ้งอ๋อง เจ้าลืมไปหรือเปล่าว่าชางเอ๋อร์เป็นหลานสาวของเจ้า นางเรียกเจ้าว่าเสด็จอา..." ฮ่องเต้ยังคงจ้องมองจิ้งอ๋อง แววตาของเขายากจะบอกว่าโกรธหรือยินดี
จิ้งอ๋องยิ้มมุมปากเล็กน้อย แต่กลับแฝงไปด้วยแววขมขื่น "กระหม่อมจะไม่รู้ได้อย่างไร เพียงแต่ชีวิตคนเรามักมีเรื่องเหนือความคาดหมายอยู่เสมอ นอกจากนี้เสด็จพี่ก็รู้ว่ากระหม่อมกับหยุนชางไม่ได้มีความเกี่ยวพันทางสายเลือด กระหม่อมจำได้ว่าเสด็จพี่เคยสัญญากับกระหม่อมว่าหากวันใดกระหม่อมมีหญิงสาวที่ต้องใจ เสด็จพี่จะพระราชทานงานแต่งให้กระหม่อม ชางเอ๋อร์เป็นลูกสาวของจิ่นเฟย เสด็จพี่และจิ่นเฟยก็รักกันมาโดยตลอดต้องไม่ยอมให้หยุนชางแต่งงานไปยังแคว้นเย้หลางแน่ หากองค์หญิงหัวจิ้งและท่านราชบุตรเขยหย่ากันแล้วแต่กระหม่อมและองค์หญิงหยุนชางก็หมั้นกันแล้ว เดิมทีชางเจียชิงซูก็ชมชอบองค์หญิงหัวจิ้งอยู่แล้ว เช่นนี้จะไม่ใช่เรื่องน่ายินดีหรือ?"
ฮ่องเต้เดินไปมาในตำหนักอยู่นานก่อนจะพูดว่า "แต่หยุนชางกล่าวว่าเจ้าอาวาสอู๋น่าทำนายให้นางไว้ว่าชางเอ๋อร์ไม่ควรออกเรือนก่อนอายุครบสิบแปดปี"
จิ้งอ๋องยิ้มบางๆ ราวกับว่าเขากำลังจะชนะ "กระหม่อมยินดีที่จะรอ ฝ่าบาทเพียงออกราชโองการพระราชทานงานสมรสเท่านั้น กระหม่อมและชางเอ๋อร์ค่อยแต่งงานกันในอีกสามปีข้างหน้าก็ได้"
"เรื่องนี้ยังต้องดูท่าทีของชางเอ๋อร์ด้วย..." ฮ่องเต้คงลังเลเล็กน้อย ในใจสงสัยว่าเหตุใดจิ้งอ๋องจึงได้รีบร้อนเช่นนี้
จิ้งอ๋องรีบยิ้มแล้วกล่าวว่า "เสด็จพี่ ชางเอ๋อร์เป็นผู้หญิง เดิมทีก็ขี้อาย กระหม่อมจำได้ว่าก่อนที่กระหม่อมจะไปที่ชายแดน ในงานเลี้ยงในวังเคยเล่นเพลงหงส์วอนรักกับชางเอ๋อร์ ตอนนั้นกระหม่อมก็เคยได้กล่าวไว้แล้วว่าบทเพลงนี้ต้องเป็นนางเท่านั้น นางก็ไม่ได้ขัดอะไรทั้งยังร่วมบรรเลงไปกับกระหม่อม ความในใจนี้ยังไม่ชัดอีกหรือ?"
จิ้งอ๋องเห็นว่าฮ่องเต้ไม่กล่าวอะไรก็โขกศีรษะคำนับ "เสด็จพี่ ในยี่สิบกว่าปีมานี้ตั้งแต่กระหม่อมได้พบกับชางเอ๋อร์กระหม่อมก็รู้สึกว่าชีวิตมีสีสันขึ้นมาเล็กน้อย เสด็จพี่ก็ทรงยำเกรงอำนาจทหารในมือของกระหม่อม กระหม่อมก็รู้มาตลอด เสด็จพี่ กระหม่อมไม่เคยคิดแย่งชิงอะไรกับท่านเลย หากทรงรับปากให้กระหม่อมแต่งงานกับหยุนชาง กระหม่อมก็เต็มใจคืนตราอาญาสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งนี้แก่เสด็จพี่..."
ตราอาญาสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่ง... ดวงตาของฮ่องเต้เปลี่ยนเป็นเศร้าขึ้นมา ยามที่ตนเพิ่งขึ้นครองราชย์ เสด็จพ่อก็แบ่งตราอาญาสิทธิ์ออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งมอบให้จิ้งอ๋อง อีกครึ่งหนึ่งมอบให้ตนเอง เขาจำได้ว่าตอนแรกเขาอารมณ์ไม่ดีอย่างมาก เดิมทีจิ้งอ๋องก็เป็นเพียงบุตรบุญธรรมเท่านั้น มีสิทธิ์อะไรจึงได้ตราอาญาสิทธิ์อีกครึ่งหนึ่งไป? ดังนั้นแม้ว่าก่อนหน้านี้เขาจะเคยมีความสัมพันธ์ที่ดีกับจิ้งอ๋องมาก่อน แต่เขาก็มีปมอยู่ในใจ เมื่อตอนนี้จิ้งอ๋องบอกว่าเขายินดีที่จะคืนตราอาญาสิทธิ์ครึ่งหนึ่งให้? เช่นนั้นจิ้งอ๋องก็จะไม่เป็นภัยคุกคามอีกต่อไป...
ความคิดต่างๆ มากมายแวบเข้ามาในสมองของฮ่องเต้ เป็นเวลานานก่อนที่เขาจะกล่าวว่า "ตราอาญาสิทธิ์นั้น ในเมื่อเสด็จพ่อมอบให้เจ้า เจ้าก็เก็บไว้เถิด แต่หากเจ้าและหยุนชางชอบพอกันจริงๆ ข้าอนุญาตก็เพียงพอแล้ว..."
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง