ลูกดอกจำนวนมากปะทะร่างของจิ้งอ๋องแล้วแยกออกเป็นเสี่ยงๆหล่นร่วงลงไปกับพื้น จิ้งอ๋องไม่สามารถหลีกเลี่ยงการสัมผัสลูกดอกเหล่านั้นได้ จิ้งอ๋องซึ่งมีไหวพริบดี เมื่อเห็นฝุ่นควันที่ฟุ้งออกมาก็รู้ได้ทันทีว่าต้องเป็นวัตถุอันตราย เขากลั้นหายใจ เมื่อกำลังจะก้าวออกไปจากที่แห่งนั้น เขาก็ได้เห็นส่วนประกอบของวัตถุนั้น จิ้งอ๋องไม่ลดความพยายาม เขาเอื้อมมือไปคว้าวัตถุนั้นไว้และพยายามจะแกะออก แต่ไม่ว่าจะใช้พละกำลังที่ยังหลงเหลือในการแกะเช่นไรก็ไม่สามารถแกะออกมาได้
"ไยไหมน้ำแข็ง?" จิ้งอ๋องขมวดคิ้ว ลูกดอกใหญ่ขนาดนี้ ข้างในกลับทำมาจากไยไหมน้ำแข็งทั้งหมดเลยหรือนี่ เพียงเพราะต้องการได้ตัวจิ้งอ๋อง คนร้ายถึงกับยอมลงทุนขนาดนี้เชียวหรือ
จู่ๆร่างกายของจิ้งอ๋องก็ค่อยๆหมดสิ้นเรี่ยวแรงลงไปทีละนิด จิ้งอ๋องรู้ดีว่าคงเป็นเพราะเมื่อครู่หลงสูดดมฝุ่นควันเข้าไปไม่น้อย เขาเป็นคนที่ชอบเสี่ยงเพื่อที่จะเรียนรู้ แม้รู้ว่าจะต้องมีอันตรายก็ตาม เขาต้องการรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว ผู้ใดกันแน่ที่มีเรื่องบาดหมางกับเขาและต่อต้านเขาได้มากขนาดนี้ เขาล้มลงไปกับพื้น แต่ยังคงใช้เรี่ยวแรงที่ยังพอมีพยุงร่างตัวเองให้ลุกขึ้นมา เขาอิงตัวไปที่กำแพง และพูดขึ้นเสียงดังว่า "ไม่ทราบว่าผู้ใดกันที่ให้เกียรติข้าได้ถึงเพียงนี้ การลงมือครานี้ต้องทุ่มเทไปไม่น้อย จะสามารถออกมาให้ข้าพบหน้าสักครั้งได้หรือไม่?"
หามีผู้ใดตอบกลับ จิ้งอ๋องหลับตา พลันเกิดเสียง "ปั้ก" ดังขึ้น แล้วจิ้งอ๋องก็ล้มลงไปนอนอยู่กับพื้น
สักครู่หนึ่ง จึงปรากฏเสียงทุ้มต่ำดังขึ้น "ข้าบอกแล้ว ไม่ว่าเขาจะเป็นใครก็ตาม ก็ไม่อาจหลบหลีกจากแผนการที่ข้าวางเอาไว้ได้"
ชายเสื้อเทาทั้งสี่กระโดดลงมาจากกำแพง ทุกคนมีผ้าปิดหน้าปิดตามิดชิด หนึ่งในนั้นก้มตัวลงแล้วแบกร่างจิ้งอ๋องไว้บนไหล่ จากนั้นก็เดินเข้าไปในสถานที่แห่งหนึ่ง
"ฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ......ฮ่องเต้......เกิดเรื่องแล้วพ่ะย่ะค่ะ! องค์หญิงฮุ่ยกั๋วถูกจับตัวไปพ่ะย่ะค่ะ!" มีคนมาร้องเสียงหลงกราบทูลอยู่หน้าท้องพระโรง เสียงที่แว่วเข้ามานั้นกลับไม่มีผู้ใดได้ยินถนัดนัก ขันทีผู้นั้นจึงปราดตัวเข้ามา "ตึ้ง" เขารีบคุกเข่าลงเบื้องพระพักตร์ฮ่องเต้ จักรพรรดิหนิงมองขันทีผู้นี้ด้วยความรู้สึกประหลาดใจ พระองค์ยกพระหัตถ์ขึ้นมา แล้วตรัสว่า "หยุดการหารือไว้ก่อน"
เสียงพูดที่อยู่ข้างบัลลังก์พลันก็หยุดชะงักลง ขันทีผู้นั้นรีบถวายของในมือให้แด่ฮ่องเต้ "ฮ่องเต้ องค์หญิงฮุ่ยกั๋วประทับอยู่ที่อุทยานหลังวัง แต่ตอนนี้ถูกคนจับตัวไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!"
จักรพรรดิหนิงทอดพระเนตรสิ่งของที่อยู่ในพระหัตถ์ พระองค์รู้จักของชิ้นนี้เป็นอย่างดี นี่คือปิ่นของชางเอ๋อร์ พลันจักรพรรดิหนิงก็เปลี่ยนสีพระพักตร์ "เจ้าว่าอะไรนะ? เรื่องเป็นมาอย่างไร? เจ้าว่ามาให้ละเอียดซิ"
ขันทีผู้นั้นรีบรายงานต่อ "จิ้งอ๋องได้ให้หม่อมฉันมากราบทูลเรื่องนี้พ่ะย่ะค่ะ จิ้งอ๋องตรัสว่าตอนที่เขากำลังชมการแสดงอยู่นั้น มีนางกำนัลคนหนึ่งได้นำผ้าปักลายขององค์หญิงหยุนชางมาถวายให้ แล้วบอกว่าองค์หญิงเชิญจิ้งอ๋องไปพบที่อุทยานหลังวัง นางมีเรื่องอยากจะปรึกษาจิ้งอ๋อง จิ้งอ๋องจึงได้เสด็จไปที่อุทยานหลังวัง เมื่อไปถึงด้านหน้าหอลิ่งหย่า ท่านอ๋องก็เห็นว่าองค์หญิงกำลังประทับอยู่ผู้เดียวที่ศาลาเหลียงถิง ในขณะที่ท่านอ๋องกำลังจะเดินไปหานาง ก็เห็นชายเสื้อเทา 4 คนบุกเข้ามาและนำตัวองค์หญิงไป! กว่าท่านอ๋องจะเสด็จมาถึงศาลาเหลียงถิง ก็พบแต่เพียงปิ่นนี้เท่านั้นพ่ะย่ะค่ะ......"
"แล้วจิ้งอ๋องล่ะ?" จักรพรรดิหนิงตรัสขึ้นทันที
ขันทีผู้นั้นค้อมตัวลง "ท่านอ๋องเสด็จไปตามจับตัวคนร้ายอยู่พ่ะย่ะค่ะ"
จักรพรรดิหนิงกริ้วเป็นอย่างมาก พระองค์ลุกขึ้นยืน "แย่จริงๆ! ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ถือว่ามีความบกพร่องต่อหน้าที่! ปล่อยให้มีคนร้ายเข้ามาในวังครั้งแล้วครั้งเล่า นี่ก็เข้ามาจับตัวหยุนชางไป แล้วนี่ยังไม่มีใครรีบออกไปตามหากันอีกหรือ!"
ผู้บัญชาการทหารองครักษ์นั้นก็คือบุตรชายคนเล็กของมหาเสนาบดีหลี่ เมื่อมหาเสนาบดีหลี่ได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดขึ้นมา แล้วรีบน้อมรับพระบัญชา
แต่ทว่า เมื่อผู้บัญชาการทหารองครักษ์ได้นำทหารองครักษ์ไปยังตำหนักของหยุนชาง กลับเห็นหยุนชางกำลังถลกแขนเสื้อ ยิ้มอย่างเริงรื่นแล้วโยนลูกดอกที่ถืออยู่ในมือลงไปในหม้อกาทองแดงทรงสูง ได้ยินแต่เสียง "ตึ้ก" ลูกดอกสัมผัสโดนหม้อกาแล้ว แต่กลับเด้งหล่นลงไปกองบนพื้น หยุนชางเม้มปาก "ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว การละเล่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ข้าถนัดเลย พวกท่านเล่นต่อเถอะ"
ในขณะที่พูดอยู่นั้นก็เหลือบไปเห็นกลุ่มทหารสวมชุดเกราะเรียงแถวเข้ามา หยุนชางนิ่งไปสักพัก แล้วมองไปที่เหล่าทหารด้วยความข้องใจ "เหตุใดพวกท่านจึงพากันมาที่นี่ นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของเหล่าสตรีชั้นสูง ช่างไม่รู้กฎเกณฑ์ในวังเอาเสียเลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง