"หื้ม ? " หลี่อิ๋งอิ๋งค่อนข้างสับสน
หัวจิ้งกล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า "โดยปกติแล้ว ผู้ที่ยังมิได้ออกเรือนจักต้องสวมผ้าคลุมหน้าออกจากจวน. ทว่าการสวมผ้าคลุมหน้าเป็นเพียงการบดบังสายตาจากคนแปลกหน้าเท่านั้น. หากคุ้นเคยกันดีแล้วล้วนแต่ปิดบังไม่มิด แม้ว่าท่านจะสวมผ้าคลุมหน้าผู้คนก็ยังจำท่านได้อยู่ดี ท่านออกจะฉลาด ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงคิดไม่ได้กัน "
หลี่อิ๋งอิ๋งพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ พลางโต้กลับว่า "ข้าจะไปที่เช่นนั้นได้อย่างไร มิใช่ว่าสตรีผู้นั้นจำผิดกระมัง "
รอยยิ้มของหัวจิ้งดูเย็นชาเล็กน้อย " เมื่อครู่เพิ่งชมว่าท่านฉลาดไปอยู่เลย ไฉนท่านกลับมาโง่อีกแล้วเล่า จริงหรือไม่จริงล้วนแต่เป็นท่านที่รู้อยู่แก่ใจ ทว่านั้นไม่สำคัญ สิ่งที่สำคัญคือท่านก็ชอบไปคุยไปทักกับสตรีท่านนั้นอยู่บ่อย ๆ ท่านน่าจะรู้เรื่องอื้อฉาวครั้งนี้ดี ว่าจริงหรือลวง น้อยคนนักที่จะสนใจ พวกนางไม่เพียงแต่ทำตัวไร้สาระน่าเบื่อหน่ายไปวัน ๆ อีกทั้งยังนำเรื่องอื้อฉาวครั้งนี้มาพูดคุยด้วยซ้ำ เมื่อท้ายที่สุด คนที่จะเจ็บที่สุดก็มีเพียงท่านและคนในตระกูล "
ใบหน้าของหลี่อิ๋งอิ๋งพลันซีดลงฉับพลัน " หากน้องหญิงพูดเช่นนี้แล้ว เรื่องจริงหรือลวง หากข้าพูดไปแล้วจะมีใครเชื่องั้นหรือ มาถึงตอนนี้แล้วข้าควรทำเช่นไรดี อีกทั้งยังไม่อยากให้เรื่องถึงท่านพ่อท่านแม่และท่านตาท่านยายทราบอีกด้วย ความสงบสุขในจวนล้วนชั่งหายากเสียจริง "
หัวจิ้งในใจรู้สึกขบขันเป็นอย่างมาก หากนางหวาดกลัวเช่นนั้นแล้ว ทำไมยังกล้าที่จะมาแย่งหย่าซีของนางอีกเล่า เมื่อครู่ที่โต้ตอบกันทำราวกับตนเองเป็นผู้ถูกกระทำมิปาน
นางบ้า นางเคยสงสัยว่าหย่าซีใส่ร้ายนางหรือไม่ ทว่าเมื่อได้ฟังคำพูดจากปากขององครักษ์แล้วก็รู้สึกเชื่อครึ่งมิเชื่อครึ่ง หากแต่เมื่อมาเห็นปฏิกิริยาของนางในตอนนี้แล้ว จึงเชื่อสนิทใจเลยทีเดียว
หัวจิ้งเติบโตขึ้นมาในวัง ทุกอย่างล้วนแต่เป็นไปได้ด้วยดี แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ทุกอย่างกลับผิดพลาดไปหมด และในวันส่งท้ายปีเก่า ตนเองคิดว่าทุกอย่างเป็นเพราะหลี่อิ๋งอิ๋ง นางใช้เวลามากกว่าสองเดือนในเรือนจำที่แสนเย็นชื้น แม้หน้าของตนนางก็มิชายตามอง นางบอกเพียงว่าเป็นเพราะนางเป็นลมจนล้มพับไป เมื่อตอนนี้กลับมาคิดดูแล้ว เกรงว่านางจะได้ไปเล่นสนุกกับโจรป่าที่ไหนก็ไม่รู้แล้ว
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หัวจิ้งกลับรู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก ของที่เป็นของหัวจิ้ง จะให้พวกมดปลวกมาฉกไปได้ยังไงกัน ?
"ท่านก็เหมือนกัน อายุย่างเข้ายี่สิบแล้ว ทว่ายังไม่วางแผนที่จะออกเรือนเลย มิแปลกใจที่คนรอบกายท่านจะปล่อยข่าวเช่นนั้นเพื่อจัดการท่าน. ทว่าไม่ให้เปิ่นกงจู่แนะนำท่านยายและท่านป้าให้หาชายหนุ่มดีดีให้ท่านกันเล่า หากรีบแต่งออกไป ข่าวลือพวกนี้คงจะไม่เกิดขึ้น " หัวจิ้งว่าพลางยกมือขึ้นและมองสีทาเล็บบนมือพร้อมยิ้มออกมา
ใบหน้าของหัวจิ้งพลันซีดขาว เมื่อได้ยินข้อเสนอของนาง พลันเลิกคิ้วน้อย ๆ แต่มิได้พูดอะไรออกมา
หัวจิ้งคิดว่านางคงไม่อยากจากวันคืนที่มีความสุขเช่นนี้ไปโดยเร็ว ในใจพลางไม่อยากให้นางพบเจอความสุขมากยิ่งขึ้น " ชายผู้นี้ รูปทรงคล้ายกับจิ้งอ๋อง อายุเกินยี่สิบแล้ว อีกทั้งยังมีได้แต่งงาน ผู้คนล้วนชื่นชมเขา หากเป็นหญิงที่ยังไม่ตบแต่งแล้ว เมื่ออายุเกินยี่สิบปีขึ้นไป ผู้คนจะยิ่งพูดคุยนินทากันมากขึ้น เปิ่งกงจู่เพียงเสนอความคิดเห็น อย่างไรก็ตาม ล้วนแต่เป็นท่านที่ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง "
หลี่อิ๋งอิ๋งพลันถอนหายใจออกมา หลับตาลงครู่หนึ่ง จากนั้นเธอลังเลและพูดว่า "งั้นให้ท่านแม่กับท่านยายดู ๆ ให้เถอะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง