เซี่ยหวนอวี่เพียงชำเลืองมองเล็กน้อยแล้วขมวดคิ้ว "เหมือนเจิ้นจะเคยเห็นคนผู้นี้ที่ตำหนักซู่หย่า" เขาพูดพลางหันไปหาขันทีที่อยู่อีกด้าน "เสี่ยวอันจื่อ เจ้าพาคนไปดูที่ตำหนักซู่หย่าเสียหน่อยและนำตัวคนผู้นี้มา"
หยุนชางเลิกคิ้ว ข้อความที่เขียนด้วยลายมือของซู่เฟยและยังมีเฉียนสุ่ยเป็นพยานการระบุตัว เสิ่นซู่เฟยควรจะเป็นผู้ที่น่าสงสัยที่สุด แต่เซี่ยหวนอวี่กลับไม่พูดว่าจะนำตัวนางมาซักไซ้ไล่เลียง เกรงว่าคงจะกำลังรอยามที่หลักฐานเพียงพอแล้วจึงออกราชโองการลงโทษนางโดยไม่ให้นางได้มีโอกาสแก้ตัวและเป็นโอกาสแก่ฮองเฮา
ฮองเฮากลับดูเหมือนจะมีท่าทีโล่งอก แต่สีหน้าของนางก็ยังดูไม่ค่อยดีนัก สายตาที่นางมองมาที่หยุนชางแฝงแววอาฆาตมาดร้ายจนทำให้หยุนชางยากที่จะทำเป็นไม่สนใจ
เวลาว่างขณะรอขันทีไปนำตัวคนในภาพมา หลิวเหวินอันก็กลับมาแล้ว ในมือถือของชิ้นเล็กๆ หลายชิ้น "ฝ่าบาท หม่อมฉันให้คนหลายคนดูเถ้าเครื่องหอมแล้ว พวกเขาต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่ามันคือเครื่องหอมดอกท้อร่ำสุราซึ่งก็คือสิ่งนี้พ่ะย่ะค่ะ"
เซี่ยหวนอวี่เหลือบมองและเอ่ยว่า "เครื่องหอมนี้ได้ส่งไปยังตำหนักใดบ้าง?"
หลิวเหวินอันรีบตอบว่า "วิธีทำเครื่องหอมดอกท้อร่ำสุรานี้ค่อนข้างซับซ้อน แต่ฤทธิ์กล่อมให้ใจสงบนั้นได้ผลดีนัก ที่วังหลังมีเพียงเสิ่นซู่เฟย หยุนกุ้ยเฟยและอดีตฮองเฮาที่ชอบใช้เครื่องหอมนี้พ่ะย่ะค่ะ"
มีเพียงสามคนเท่านั้นจึงยิ่งทำให้เรื่องราวดูชัดเจนยิ่งขึ้นไปอีก
"เช่นนั้นพวกเครื่องนอนก็มาจากตำหนักของตนเองเช่นกัน แต่ก็เป็นเพียงเครื่องนอนธรรมดาและหาอะไรไม่พบพ่ะย่ะค่ะ" หลิวเหวินอันตอบอีกครั้ง
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าเบาๆ และถามอีกครั้งว่า "การสอบสวนของผู้ที่ถูกนำตัวไปก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้างแล้ว"
หลิวเหวินอันจึงรีบส่งคนไปสอบถามทันที หลังจากนั้นครู่หนึ่งราชองครักษ์ก็เดินเข้ามาอย่างรีบร้อนและคุกเข่าลงข้างหนึ่งตรงหน้าเซี่ยหวนอวี่ "กราบทูลฝ่าบาท ทั้งสามคนจากร้านยาจื่อเหยียนสารภาพว่ามีคนให้ทองคำสิบตำลึงแก่พวกเขาเพื่อให้ชี้ตัวพระชายารุ่ยอ๋อง เพียงแต่คนผู้นั้นสวมหมวกคลุมจึงไม่รู้ว่าเป็นใคร แต่ดูแล้วน่าจะเป็นผู้หญิง หม่อมฉันดูทองที่หญิงคนนั้นมอบให้พวกเขาก็เห็นเครื่องหมายของร้านแลกเงินฮุ่ยทง เงินหมุนเวียนในแต่ละวันของร้านแลกเงินฮุ่ยทงนั้นมีมากมายนับไม่ถ้วนและยากมากที่จะตรวจสอบ"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าและพูดอีกครั้งว่า "แล้วหลินลิ่วล่ะเป็นอย่างไร"
"หลินลิ่วยังไม่สารภาพ หม่อมฉันจึงได้ให้คนไปค้นบ้านของเขา พบว่าเด็กสองคนในครอบครัวของเขาหายไป พวกเขาถามภรรยาและแม่ของหลินลิ่วแล้วพวกเขาต่างก็บอกว่าหลินลิ่วจะส่งพวกเขาไปที่จวนของอา แต่เมื่อคนของหม่อมฉันไปถึงบ้านของทั้งสอง ทั้งคู่ก็บอกว่าไม่มีเรื่องเช่นนี้" ผู้บัญชาการทหารองครักษ์ก้มศีรษะลงและพูดช้าๆ
หยุนชางครุ่นคิดเล็กน้อย "เกรงว่าคงจะมีคนจับลูกของเขาและใช้มันมาข่มขู่เขา"
เซี่ยหวนอวี่พยักหน้าและเรียกหลิวเหวินอันเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง หลิวเหวินอันจึงจากไปอย่างเร่งรีบอีกครั้ง
ผ่านไปครู่หนึ่งก็มีทหารองครักษ์อีกคนหนึ่งเดินเข้ามาและโยนนางกำนัลผู้หนึ่งลงบนพื้นอย่างแรง นางมีสีหน้าตื่นตระหนกอยู่หลายส่วนและเงยหน้าขึ้นมองดูสถานการณ์ในตำหนักก่อนจะกัดริมฝีปากของนางและยืดตัวขึ้นย่อกายทำความเคารพ "ถวายพระพรเพคะฝ่าบาท ถวายพระพรเพคะฮองเฮา"
เซี่ยหวนอวี่เอ่ยถาม "เจ้าชื่ออะไร? เป็นคนของตำหนักใด?"
นางกำนัลรีบตอบ "หม่อมฉันชื่อหวายหมิ่น เป็นคนของตำหนักซู่หย่าเพคะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง