ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 548

"มีสตรีที่ถูกคัดเลือกเข้าวังทั้งหมดสิบหกคน เพียงแต่ในสิบวันมานี้ ฝ่าบาทเสวยพระกระยาหารเย็นที่วังหลังมาโดยตลอด สี่วันอยู่กับเซียงกุ้ยผินที่ตำหนักเซียงจู๋และอีกสองวันอยู่กับจิ้นไฉเหรินและฮุ่ยไฉเหรินที่รับเข้ามาใหม่" เฉี่ยนอินที่อยู่ด้านข้างอ่านจดหมายที่ได้รับมาจากในวังให้หยุนชางที่กำลังแต่งตัวฟัง

สุดท้ายจึงกล่าวว่า "คัดเลือกนางสนมมาแล้วแต่กลับไม่โปรดปราน ฝ่าบาทมีความคิดอะไรหรือเพคะ? หากไม่ได้รับความโปรดปรานไปเช่นนี้ก็ไม่ดีเอาเสียเลย"

หยุนชางยิ้มบางๆ และมองเข้าไปยังคันฉ่อง เฉี่ยนจั๋วกำลังเลือกปิ่นอยู่ นางพยักหน้าเล็กน้อยแล้วจึงตอบว่า "เช่นนี้จึงจะดี หนิงเชียนและหลินโยวหรานได้รับความโปรดปราน นางสนมอื่นๆ ถูกเมินเฉยจะเปิดโอกาสให้ฮองเฮาลงมือสะดวก คนของนางตกการคัดเลือกไป หากหนิงเชียนและหลินโยวหรานเป็นที่โปรดปราน ฮองเฮาก็จะร้อนรน ดังนั้นนางจะเลือกผู้หญิงใหม่สองสามคนที่นางคิดว่าใช้ได้เข้าเป็นพวกและช่วยให้พวกนางได้รับความโปรดปรานจากฝ่าบาทเช่นกัน

หยุนชางเห็นว่าเฉี่ยนจั๋วยังต้องการปักปิ่นพวงเพิ่มลงบนศีรษะของนางจึงรีบส่ายหัวอย่างรวดเร็ว "ไม่ต้องหรอก ไม่ได้จะออกไปข้างนอกเสียหน่อย เรียบง่ายเช่นนี้ก็พอแล้ว"

เฉี่ยนจั๋วขานรับอย่างรวดเร็ว หยุนชางจึงกล่าวว่า "ที่ข้าให้หลินโยวหรานชิงความโปรดปรานไปก่อนก็เป็นเพราะเหตุนี้ ข้าส่งคนจำนวนมากเข้าวัง ไม่ใช่แค่ต้องการให้พวกนางได้รับความโปรดปรานเท่านั้น แต่ต้องการให้นางดังแขนขาของเราในวังหลัง ยิ่งกว่านั้น ข้าหวังว่าคนที่ข้าส่งเข้าไปจะได้รับความไว้วางใจจากฮองเฮาและสนมคนอื่นๆ และกลายเป็นเบี้ยหมาก เป็นพันธมิตร หรือมือของพวกนาง เมื่อพวกนางได้รับความไว้วางใจแล้วและฮองเฮาให้พวกนางไปทำอะไร พวกนางก็จะมีรวบรวมหลักฐานและจุดอ่อนของนางเสนมเหล่านั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นแล้วก็อาจโจมตีกลับจนถึงแก่ชีวิต"

เฉี่ยนอินได้ยินดังนั้น นัยน์ตาของนางก็เป็นประกายวาววับ "พระชายาทรงมองการณ์ไกล หม่อมฉันชื่นชมจริงๆ เพคะ"

"พอเถอะ เจ้าก็รู้จักแต่ประจบข้า" หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "จริงสิ อีกเจ็ดวันก็จะเป็นวันสำคัญของเจ้าแล้ว เจ้าไม่ต้องเตรียมชุดแต่งงานหรือ? ทำไมถึงมีเวลาว่างเตร็ดเตร่มาหาข้าล่ะ?"

ใบหน้าของเฉี่ยนอินแดงระเรื่อ นางเอ่ยว่า "พระชายาก็ชอบแกล้งหม่อมฉัน หม่อมฉันเป็นสาวใช้ของพระชายาก็ต้องอยู่ข้างกายพระชายาสิเพคะ"

เฉี่ยนจั๋วกลับหลุดหัวเราะออกมาพร้อมพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พี่เฉี่ยนอินเตรียมชุดเสร็จไปนานแล้วเพคะ เมื่อวานหม่อมฉันกับเฉี่ยนหลิ่วไปดูมา สวยมากเลยเพคะ ฝีมือปักผ้ามือซ้ายของพี่เฉี่ยนอินนั้นยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงแต่ชุดแต่งงานของตนเอง แม้แต่ชุดเจ้าบ่าว พี่เฉี่ยนอินก็เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว เมื่อวานหม่อมฉันช่วยพี่เฉี่ยนอินเอาไปส่งให้ลั่วอี้ เขาเห็นแล้วดีใจอย่างกับอะไรดี วิ่งไปรอบจวนตั้งยี่สิบรอบแน่ะเพคะ"

หยุนชางไม่คิดว่าจะมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นด้วย เมื่อเห็นใบหน้าแดงก่ำของเฉี่ยนอินก็อดขำไม่ได้ "ก่อนนี้พ่อบ้านยังเอ่ยว่า ทั้งอักษรมงคล เทียนแดงและโคมแดงต่างก็เตรียมเสร็จแล้ว พรุ่งนี้จะเริ่มแต่งจวน ในจวนจะได้เกิดเรื่องมงคลเร็วๆ"

เฉี่ยนอินก้มหน้าลงและพูดอุบอิบ "ตามใจพระชายาเถอะเพคะ"

หยุนชางจึงหัวเราะอยู่อีกครู่ใหญ่

หลังจากแต่งตัวเสร็จแล้ว ลั่วชิงเหยียนก็กลับมาจากลานประลองยุทธ์ หยุนชางให้เขาไปล้างมือและเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียก่อนแล้วจึงสั่งให้คนเตรียมอาหารมา

เมื่อกำลังจะเริ่มกินกลับได้ยินสัญญาณของสายลับดังแว่วมาจากด้านนอก อาจเป็นเพราะเมื่อครู่เฉี่ยนอินถูกหยุนชางล้อเลียนจนเขินอาย นางจึงรีบสาวเท้าออกจากห้องไปรับสารมาเปิดอ่าน ทันใดนั้นสีหน้าของนางก็แย่ลงเล็กน้อย

"เกิดอะไรขึ้น?" หยุนชางกำลังหยิบเสื้อผ้าให้ลั่วชิงเหยียน เมื่อเห็นท่าทางของเฉี่ยนอินนางจึงถามขึ้น

เฉี่ยนอินเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า "พระชายา เกิดเรื่องขึ้นกับจิ่นกุ้ยเฟยและองค์ชายเฉินซีเพคะ"

"อะไรนะ?" น้ำเสียงหยุนชางเป็นกังวล นางขมวดคิ้วมุ่น รีบยื่นเสื้อผ้าให้เฉี่ยนจั๋วและรับสารมาอ่านดู

"ฝ่าบาททรงออกไปล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงและพาจิ่นกุ้ยเฟยและองค์ชายเฉินซีไปด้วย เขตล่าสัตว์นั้นอยู่ใกล้กับวิหารชิงเฟิงพอดี จิ่นกุ้ยเฟยบอกว่าจะไปไหว้พระขอพร ฝ่าบาทก็ทรงอนุญาตและยังสั่งให้องครักษ์กว่าร้อนนายไปตามอารักขา แต่คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางจะมีคนวางของแหลมคมไว้ ของนั้นทิ่มเท้าม้า ม้านั่นตกใจวิ่งไปที่หน้าผา ยังดีที่สายลับตาไวมือไว เขาตามรถม้าไปและตัดสายบังเหียนก่อนที่เขาจะช่วยจิ่นกุ้ยเฟยและองค์ชายน้อยไว้ได้ พวกเขาไม่ได้รับบาดเจ็บเพียงแค่ตกใจเล็กน้อยเท่านั้น" เฉี่ยนอินรีบเล่าเรื่องออกมา

มือของหยุนชางที่ถือจดหมายสั่นเล็กน้อย หลังจากอ่านชั่วครู่ นางก็วางกระดาษจดหมายนั้นลงบนโต๊ะ "การล่าสัตว์ในฤดูใบไม้ร่วงย่อมปิดภูเขา คนธรรมดาไม่สามารถเข้าไปได้เลย เรื่องที่เสด็จแม่และเฉินซีไปไหว้พระก็เป็นเรื่องที่ตัดสินใจอย่างกะทันหัน ข้างกายของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ต้องมีหนอนบ่อนไส้เป็นแน่ ส่งจดหมายถึงหลิวชิงหย่าให้นางตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด"

เฉี่ยนอินพยักหน้าและถอยออกไป ลั่วชิงเหยียนสวมเสื้อผ้าออกมาจากห้องสรงแล้ว ตอนที่เขาอยู่ด้านในก็ได้ยินเรื่องที่คุยกันด้านนอก เมื่อเดินออกมาจึงหยิบสารบนโต๊ะขึ้นมาอ่านอีกครั้งแล้วจึงกล่าวว่า "โชคดีที่จิ่นกุ้ยเฟยและเฉินซีต่างก็ไม่เป็นอะไร เรื่องนี้เสด็จพี่ต้องตรวจสอบแน่ เจ้าอย่าได้กังวลเกินไปเลย"

หยุนชางถอนหายใจเบาๆ "ข้าไม่ได้อยู่ข้างกายพวกเขา ไม่รู้ว่าเรื่องเป็นเช่นไรและช่วยเหลืออะไรไม่ได้ ความรู้สึกไร้หนทางเช่นนี้ช่างแย่เสียจริง" หลังจากนั้นนางก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า "ข้ามักจะรู้สึกว่าเรื่องนี้ต้องเกี่ยวข้องกับซู่เฟยแน่ ไม่ว่าจะระวังอย่างไรก็ไม่สำเร็จ ดูแล้วข้าคงต้องไปเยี่ยมนางเสียหน่อย"

เมื่อลั่วชิงเหยียนได้ยินคำพูดนี้ เขาก็ส่ายหัวเล็กน้อยและกล่าวว่า "นางอยู่ในตำหนักเย็นแล้ว องครักษ์ของฝ่าบาทก็คอยคุ้มกันอย่างแน่นหน้าทั้งกลางวันและกลางคืน หากเจ้าเข้าไปใกล้ ข้าเกรงว่าจะดึงดูดความสนใจของฝ่าบาท หากไม่มีหลักฐานก็จะทำให้ฝ่าบาทไม่พอใจได้ ตอนนี้หนิงเชียนและหลินโหยวหรานต่างก็กำลังได้รับความโปรดปราน ไม่นานฝ่าบาทต้องลืมซู่เฟยแน่ เมื่อถึงตอนนั้นเจ้าจะทำอย่างไรกับนางก็ย่อมได้"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง