ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 551

งานอภิเษกของท่านอ๋องเจ็ดมีกำหนดวันที่ยี่สิบสามเดือนสิบสอง บัตรเชิญถูกส่งก่อนเวลา ทันทีที่กลับมาที่จวน พ่อบ้านก็ยื่นบัตรเชิญให้ หยุนชางมองดูบัตรเชิญ และลั่วชิงเหยียนก็เอนเข้ามาดูเช่นกัน "ชายาเอกและชายารองแต่งเข้าพร้อมกัน เจ้าเจ็ดจงใจยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งระหว่างตระกูลหลิ่วและตระกูลฮวา หลิ่วอีอีผู้ได้รับเลือกจากตระกูลหลิ่วได้เป็นเพียงชายารอง แน่นอนว่าต้องไม่พอใจอย่างมาก วันที่ยี่สิบสามเดือนสิบสอง ชายาเอกจะต้องได้รับตัวเข้าประตูจวนหลักจากเจ้าเจ็ดด้วยตัวเอง ขณะที่หลิ่วอีอีไม่สามารถสวมแม้แต่ชุดแต่งงานสีแดง และต้องเข้าจวนจากประตูรอง..."

หยุนชางยิ้มและกล่าวว่า "ข้าไม่เคยพบหลิ่วอีอี ข้าเคยเห็นแต่ฮวาอวี้ถง ดูนางเป็นคนที่ตรงไปตรงมา"

ลั่วชิงเหยียนเดินไปที่เบาะแล้วพิงลง "ในจวนอ๋อง คนที่ตรงไปตรงมาเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสมที่สุด และข้าไม่คิดอย่างนั้น ตาเฒ่าที่เจ้าเล่ห์และมากอุบายอย่างฮวากั๋วกงจะส่งคนที่ไม่มีกุศโลบายเข้าไปในวังหลัง"

หยุนชางหัวเราะเบาๆ "จะมีใครที่ว่าปู่ตัวเองอย่างเจ้ากัน" แต่ไม่ได้หักล้างคำพูดของลั่วชิงเหยียน ในวังหลัง คนที่ใจร้อนเกินไปนั้นไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้อย่างแน่นอน หยุนชางรู้ และฮวากั๋วกงก็ต้องรู้เช่นกัน

"ฮวากั๋วกงคงรู้ดีกว่า ฮวาอวี้ถงไม่สามารถเข้าวังหลังได้" ลั่วชิงเหยียนพูดเบาๆ

"ห๊ะ เหตุผลอะไร?" หยุนชางไม่เข้าใจ ถ้าฮัวกั่วกงรู้ว่าฮวาอวี้ถงไม่สามารถเข้าวังหลังได้ ทำไมถึงทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อส่งนางเป็นหญิงดีงาม(หญิงที่ส่งเข้าวังเพื่อคัดเลือก)

ลั่วชิงเหยียนยิ้มเบาๆ จับมือหยุนชางให้นางนั่งลงที่ข้างของเบาะ และกระซิบว่า "คราวนี้จุดประสงค์ของสามตระกูลใหญ่นั้นชัดเจนเกินไป ตระกูลหลิ่วสนับสนุนอ๋องเจ็ด ฮวากั๋วกงในนามปู่ของข้า ซูฉีเป็นพ่อของฮองเฮาและเหล่าขุนนางในราชสำนักต่างก็เฝ้ามองอยู่ ถ้าฝ่าบาทรับใครเข้าวัง ก็คือกำลังส่งสารให้ราชสำนักว่า จะเลือกใครจะเป็นรัชทายาท"

หยุนชางตะลึงงันจนพูดติดขัด "พวกเขาคิดมากไปหรือไม่? ต่อให้ฝ่าบาทจะรับใครเข้าวัง ก็อาจจะไม่ได้หมายความอย่างนั้น?"

ลั่วชิงเหยียนพูดอย่างเย็นชา "ถึงแม้ฝ่าบาทจะไม่ได้หมายความเช่นนั้น แต่ขุนนางเหล่านั้นก็ยังคิดอย่างนั้น รัชทายาทจากไปแล้ว และตอนนี้ตำแหน่งของรัชทายาทก็ว่าง เป็นช่วงที่อ่อนไหวที่สุด บวกกับการปรากฏตัวของข้าอย่างกะทันหัน ขุนนางในราชสำนักต่างก็จ้องมาที่เขา อยากรู้ว่าฝ่าบาททรงประสงค์ให้ใครเป็นรัชทายาท ย่อมมีเรื่องวุ่นวายเล็กน้อย และทุกคนก็ให้ความสนใจ"

หยุนชางถอนหายใจเบาๆ แม้ว่านางจะคุ้นเคยกับการต่อสู้ในวังหลัง ไม่ว่าชาติก่อนหรือชาตินี้ นางไม่เคยสัมผัสการต่อสู้เพื่อครองบัลลังก์ในราชสำนัก ต่อเมื่อนางอยู่ในนั้น นางรู้ถึงความเสียวซ่าน

"แต่แม้ว่าฝ่าบาทจะไม่รับฮวาอวี้ถงเข้าวังหลัง แต่เขาแต่งตั้งให้หลินโยวหรานเป็นไฉเหริน (พระสนมระดับที่ห้าชั้นเอก พระสนมขั้นสาม)?" หยุนชางครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยด้วยความสงสัย

ลั่วชิงเหยียนยิ้มเบาๆ "ตั้งแต่ต้นจนจบ มีเพียงฝ่าบาทและฮองเฮาเท่านั้นที่รู้ว่าหลินโยวหรานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้า ฮองเฮาไม่รู้ว่าฝ่าบาทรู้ว่าหลินโยวหรานเป็นคนของเจ้า ดังนั้นนางจึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อกำจัดหลินโยวหราน และฝ่าบาทต้องการใช้ประโยชน์จากหลินโยวหราน เพื่อต่อสู้กับฮองเฮา ไม่ให้ฮองเฮาคลุมท้องฟ้าด้วยมือเดียวในวังหลัง"

หยุนชางถอนหายใจและบ่นด้วยเสียงต่ำ "แต่พวกเขา… เป็นสามีภรรยากัน"

ลั่วชิงเหยียนได้ยินคำพูดหยุนชางไม่ชัด เขามองหยุนชางด้วยสายตาสงสัยเล็กน้อย หยุนชางส่ายหัวแล้วพูดว่า "ก่อนหน้านี้ข้าส่งจดหมายถึงหนิงเชียน ให้นางแสร้งป่วย อย่าเข้าใกล้ฝ่าบาทมากเกินไป ถ้าฝ่าบาทสงสัยองค์หญิงใหญ่ ข้าเกรงว่าหนิงเชียนจะตกอยู่ในอันตราย"

ลั่วชิงเหยียนพยักหน้าเบาๆ ดึงหยุนชางให้นอนลงกับเขาแล้วพูดด้วยความโล่งใจว่า "อย่าพูดถึงแต่เรื่องของคนอื่นในบ้านเลย พักเป็นเพื่อนข้าสักหน่อย"

หยุนชางตะลึงงันเมื่อเขาได้ยินคำพูดนั้น แต่เอนตัวลงนอนอย่างเชื่อฟังและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ท่านอ๋องถูกกักบริเวณอยู่จวนระยะหนึ่งแล้ว โรคขี้เกียจนี้ก็กลายเป็นเรื่องปกติแล้ว พรุ่งนี้จะต้องเข้าวังแล้วใช่ไหมเพคะ เข้าราชสำนักแล้วจะไม่มีเวลามาพักผ่อนนอนกลางวันแล้วนะเพคะ"

ลั่วชิงเหยียนกอดหยุนชางเบาๆ "วันนี้จะไม่ขอคิดถึงเรื่องของวันพรุ่งนี้" เขาหลับตาและหาว

หยุนชางก็หลับพร้อมกับเขา

เป็นเวลาเย็นแล้วที่ทั้งสองตื่นขึ้น ลั่วชิงเหยียนเห็นหยุนชางลืมตา ก็ลุกขึ้นเรียกเฉี่ยนหลิ่วและเฉี่ยนจั๋วให้เข้ามาปรนนิบัติหยุนชางลุกขึ้น หันมาที่หยุนชางแล้วกล่าวว่า "ก่อนหน้านี้ ฝ่าบาทตรัสว่าพระราชโอวการยกเลิกการกักบริเวณได้รับการขอร้องจากองค์หญิงใหญ่ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พรุ่งนี้เจ้าเตรียมของขวัญไว้ เราไปจวนองค์หญิงใหญ่ด้วยกัน"

หยุนชางยังคงสับสน รู้เพียงแต่พยักหน้าเมื่อ ได้ยินคำพูด

เฉี่ยนหลิ่วและเฉี่ยนจั๋วเห็นเข้าก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้ม หยิบเสื้อคลุมตัวนอกมาสวมให้หยุนชาง จากนั้นจึงจัดผมให้หยุนชาง

หลังอาหารเย็น ลั่วชิงเหยียนไปที่ห้องอักษร พ่อบ้านส่งสมุดบัญชีให้หยุนชาง โค้งตัวแล้วพูดว่า "ข้าน้อยรู้สึกว่าช่วงนี้ มีคนคอยแอบดูสมุดบัญชีในจวนอยู่บ่อยๆ ดังนั้น ร้านค้าบางร้านนอกจวนและที่นาที่สร้างขึ้นใหม่ ข้าน้อยไม่ได้บันทึกเข้าไป ในที่นี้ ลงเฉพาะของที่นำมาจากแคว้นหนิงและของที่ได้รับพระราชทานจากวังขอรับ"

หยุนชางพยักหน้า รับมันแล้วพลิกกลับ แล้วพูดว่า "ของในนี้ ให้คนจัดเรียงเป็นหมวดหมู่กันเถอะ จะมีจวนอีกมากมายที่จะต้องไปมอบในภายหลัง เจ้าเอาเงินออกจากการในส่วนอาหารการกิน แล้วไปในเมืองเพื่อซื้อของที่ดีในร้านค้าในเมือง สำหรับร้านค้าให้เลือกของที่เป็นเย็บปักถักร้อยและเครื่องสำอาง ข้าวสาร เส้นหมี่ ธัญพืชและน้ำมันของจำพวกคนทั่วไปต้องใช้กัน และดูที่นานอกเมือง ส่วนที่นาต้องรบกวนพ่อบ้านไปดูเอง เลือกสักสองสามแห่งที่มีภูเขาและแม่น้ำอยู่ใกล้ มีที่ดินอันอุดมสมบูรณ์ ราคาแพงหน่อยก็ไม่เป็นไร"

พ่อบ้านตอบรับ หยุนชางก็มอบสมุดบัญชีคืนให้เขาอีกครั้ง "ส่วนที่เจ้าบอกว่ามีคนดูสมุดบัญชี เจ้าไม่ต้องเช็คหรอกว่าใคร อยากดูก็ให้เขาดูไปเถิด"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง