หยุนชางยิ้ม หันไปมองเฉี่ยนอินด้วยสายตาติดตลกเล็กน้อย "ไม่คาดคิดว่าเฉี่ยนอินของเราจะฟังข่าวลือของชาวบ้านด้วย เจ้าติดตามข้ามานานเจ้าก็คงทราบดีว่า ข่าวลือของชาวบ้านนั้นเชื่อมิได้ บางทีอาจมีใครสักคนตั้งใจปล่อยข่าวลือเหล่านี้ออกมา"
"แต่ข่าวลือที่ว่านี้หม่อมฉันฟังแล้วดูเหมือนเรื่องจริงเลยเพคะ ได้ข่าวว่าเป็นข่าวลือที่มาจากชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากลานบ้านที่สาวใช้อาศัยอยู่ เขาบอกว่าหลานสาวของเขาเป็นสาวใช้อยู่ที่ลานของหลิ่วฮูหยินเพคะ" เฉี่ยนอินกล่าวเบาๆ แล้วขมวดคิ้วขึ้นราวกับว่ากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่
หยุนชางมองไปที่หยุนชางด้วยรอยยิ้ม " ถ้าอย่างนั้นเจ้าได้ถามมาหรือไม่ว่าเหตุใดหลิ่วซือถูจึงทะเลาะกับหลิ่วฮูหยิน?"
เฉี่ยนอินชะงักกับคำถามของเฉี่ยนอิน นางกัดฟันและกล่าวว่า "บางทีอาจเป็นเพราะเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ ระหว่างหลิ่วซือถูกับองค์หญิงใหญ่กระมั้ง หลิ่วฮูหยินเองเป็นคนขี้หึงอยู่แล้ว ฉะนั้นนอกจากหลิ่วฮูหยินแล้ว หลิ่วซือถูมีนางสนมคนเดียว ได้ยินมาว่าหลิ่วซือถูไปพบนางที่แดนบันเทิงมาเพคะ เดิมทีหลิ่วฮูหยินมิยินยอมให้นางเข้าจวนเพคะ แต่ จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ตั้งครรภ์ และเมื่อคิดถึงเรื่องที่หลิ่วซือถูกำลังอยู่ในช่วงสำคัญของการงาน จึงไม่อยากให้เขาเสียชื่อเสียง และจากการเกลี้ยกล่อมของหลิ่วเฟยเหนียงเหนียง ฮูหยินจึงยอมปล่อยให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าจวน ต่อมาจู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็แท้งอย่างไม่มีสาเหตุ คิดไปคิดมาก็คงเป็นฝีมือของหลิ่วฮูหยินกระมั้ง"
"อืม เจ้าได้ยินข่าวซุบซิบมาไม่น้อยเชียวนะ" หยุนชางยิ้ม
จากนั้นม่านถูกเปิดออก และสาวใช้ที่เฉี่ยนอินขอให้ไปตัดดอกบ๊วยก็เข้ามาพร้อมถือดอกบ๊วยในมือ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า "พระชายาเพคะ ดอกบ๊วยตัดมาเรียบร้อยแล้วเพคะ เป็นอย่างไรบ้าง?"
หยุนชางเงยหน้ามอง ดอกแต่ละช่อกำลังรอบาน และมีหยดน้ำเล็กน้อยติดอยู่ ดูสดใสอย่างมาก หยุนชางพยักหน้าชี้ไปที่แจกันดอกไม้ที่วางอยู่ข้างๆ และยิ้ม "ใส่เข้าไปในนั้นเถิด"
สาวใช้นั้นก็เดินไปที่แจกันและจัดดอกไม้ขึ้นมา
เฉี่ยนอินก็เปลี่ยนเรื่องคุยไปโดยปริยาย "ดอกไม้นี้เปียกโชกไปด้วยฝนที่ปะทนด้วยหิมะ ถึงแม้จะดูสดชื่นกว่า แต่กลิ่นหอมอ่อนนัก หากอีกสองสามวันอากาศดี ไปเก็บมาใหม่จะดีที่สุด"
เฉี่ยนอินนั่งอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงกลับไป
หลังจากที่เฉี่ยนอินกลับไปฟ้าก็มืดลงแล้ว เฉี่ยนจั๋วยิ้มและกล่าวว่า "พระชายายังบอกอีกว่าจะพักผ่อนให้ดี ตั้งแต่ที่พระราชินีมาก็ไม่ได้มีเวลาว่างเลยเพคะ ในที่สุดตอนนี้ก็ว่างแล้ว หม่อมฉันไปสั่งให้คนใช้เตรียมอาหารเพคะ พระชายารับประทานอาหารแล้วรีบพักผ่อนเถิดเพคะ"
หยุนชางรู้สึกเหนื่อยล้าเล็กน้อย นางตอบรับ หลังจากกินอาหารเย็นเรียบร้อยนางก็พักผ่อนแต่หัวค่ำ
เช้าวันรุ่งขึ้นกว่านางตื่นนอนก็เที่ยงแล้ว หยุนชางลุกขึ้นช้าๆ ขณะที่กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่ พ่อบ้านก็รออยู่ด้านนอกประตูแล้ว
หยุนชางเองก็ไม่เร่งรีบ นางรับประทานอาหารเช้าอย่างช้าๆ จากนั้นจึงเรียกตัวพ่อบ้านเข้ามาพบ
"พระชายาขอรับ ข้าน้อยได้สั่งให้คนไปสืบว่าวันที่หลิ่วฮูหยินมาที่จวนเราท่านไปที่ใดมาบ้าง สายลับพบว่าหลิ่วฮูหยิน ออกจากจวนหลิ่วแต่เช้าตรู่และเร่งอยากเข้าวังขอรับ แต่ถูกหยุดอยู่ที่หน้าประตูวังขอรับ ทหารที่เฝ้าประตูวังกล่าวว่าพระราชินีทรงมีคำสั่ง หากว่ามิได้เรียกตัวเข้าพบ พระองค์ทรงไม่พบขอรับ ดูเหมือนว่าหลิ่วฮูหยินจะกังวลเล็กน้อย ท่านเกือบจะเกิดการทะเลาะวิวาทกับทหาร แต่สาวใช้ที่อยู่ข้างๆ ห้ามท่านเอาไว้ขอรับ หลังจากนั้นสาวใช้ก็พยุงท่านกลับไปที่รถม้า ดูเหมือนว่าท่านจะนั่งในรถม้าอยู่เป็นเวลานานแล้วจึงให้คนขับรถม้าตรงมาที่จวนเราขอรับ"
พ่อบ้านหยุดชะงักเล็กน้อย เห็นว่าหยุนชางมิได้หยุดถามกระไร เขาจึงพูดต่อไปว่า "หลังจากที่ออกจากจวนของเราไป หลิ่วฮูหยินก็สั่งให้คนขับรถม้าขับวนไปรอบเมืองหลายรอบ แล้วไปที่ประตูวังอีกครั้ง แต่ก็ไม่สามารถเข้าวังได้ จากนั้นจึงกลับไปที่จวนหลิ่วขอรับ"
"พระราชวัง จวนรุ่ยอ๋อง........" หยุนชางขมวดคิ้วเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน เหตุใดหลิ่วฮูหยินยืนยันที่จะเข้าไปในวัง และเหตุใดจึงมาหาข้า?
หยุนชางยังคงสับสน และความสงสัยในใจของนางก็มากขึ้นกว่าเดิม
พ่อบ้านพูดขึ้นมาอีกครั้งว่า "วันนี้แต่เช้า พระราชินีเสด็จออกจากวัง และเสด็จออกจากเมืองเพื่อไปรับกองทหารอวี่หลินด้วยตนเองขอรับ มีอ๋องเจ็ด ซูไท่เว่ย หลิ่วซือถู และฮวากั๋วกงเสด็จเดินทางพร้อมพระองค์ขอรับ"
หยุนชางพยักหน้า คาดว่าหลิวหมิงคงส่งป้ายบัญชาการของกองทหารอวี่หลินเข้าวังแล้วกระมั้ง
"พระราชินีจัดการกับกองทหารอวี่หลินอย่างไรหรือ?" หยุนชางถาม
"พระราชินีสั่งให้คนไปทำความสะอาดบ้านเล็ก ๆ ให้ผู้บัญชาการหลิ่วเข้าอาศัย และให้กองทัพทหารอวี่หลินตั้งค่ายนอกเมือง แต่ทว่าผู้บัญชาการหลิ่วกล่าวว่าเขาต้องการอยู่กับกองทหารอวี่หลินขอรับ ฉะนั้นจึงปฏิเสธพระราชินีไป" พ่อบ้านรีบตอบ
หยุนชางหัวเราะขึ้นมาเมื่อได้ยินเช่นนี้ " หลิวหมิงชั่งเป็นคนที่ไม่รู้จักเสวยสุขเสียจริง หากว่าเป็นข้า ข้าคงจะรับความหวังดีของพระราชินีเอาไว้"
นอกจากนี้ พ่อบ้านก็ไม่มีเรื่องกระไรรายงาน ฉะนั้นจึงถอยลงไป
วันนี้สงบอย่างมากและไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น
วันที่สองเป็นวันเดินขบวนแห่ศพของหลิ่วฮูหยิน อากาศเริ่มปลอดโปร่ง หยุนชางก็อารมณ์ดีขึ้นมา นางพาสาวใช้เดินเล่นในจวน แม้ว่าจะมีกำแพงกั้นอยู่หลายชั้นแต่ก็ได้ยินเสียงคร่ำครวญและร้องไห้ของข้างนอกอย่างแผ่วเบา
หยุนชางหยุดฟังครู่หนึ่งแล้วจึงกลับไปที่ห้อง ทันทีที่ก้าวเข้าไปในห้อง พ่อบ้านก็ตามมาอย่างรวดเร็ว "พระชายาขอรับ ขอทานน้อยที่นำกล่องปิ่นปักผมนั้นมาส่งมาแล้วขอรับ เขากล่าวว่าเมื่อสักครู่นี้เขาพบผู้หญิงคนนั้นอยู่บนถนนขอรับ"
หยุนชางผงะรีบหันกลับไปและกล่าวอย่างเร่งรีบ "ไปเถิด พาขอทานน้อยนั้นมาที่นี่ ข้าอยากถามด้วยตัวเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง