ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 591

หยุนชางและลั่วชิงเหยียนเดินตามพ่อบ้านมาจนถึงเส้นทางที่ลาดยาว ที่พวกเขาเดินมาก่อนหน้านั้นแล้ว พลางเห็นสตรีสวมอาภรณ์ชุดสีแดงกำลังมองพวกเขาเดินมา

หยุนชางพลันรู้สึกว่าสตรีตรงหน้าช่างคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างมาก ยังมิทันจะได้ครุ่นคิดว่าเป็นผู้ใด กลับได้ยินสตรีตรงหน้าพูดออกมาเบา ๆ ว่า"ชางเอ๋อร์ " สายตาที่จ้องมองหยุนชางนั้น พลันเลื่อนไปเห็นลั่วชิงเหยียนที่อยู่ข้างกาย จึงตกตะลึงขึ้นมาเล็กน้อย พร้อมโค้งตัวทำความเคารพลงอย่างช้า ๆ "รุ่ยอ๋อง"

เมื่อหยุนชางได้ยินเสียงของนาง ฝีเท้าพลันชะงักไปชั่วครู่ สมองพลันนึงออกมาได้ว่า สตรีที่สามารถแต่งอาภรณ์ชุดสีแดงอยู่ในวังในวันนี้ได้ นั่นคือนางพระชายาคนใหม่ของอ๋องเจ็ด ฮวาอวี้ถง

หยุนชางพลันลอบเห็นสีหน้าพ่อบ้านที่มองไปยังฮวาอวี้ถงด้วยความสับสน นางจึงรีบร้อนเดินไปยังเบื้องหน้า พร้อมดึงมือฮวาอวี้ถงว่า "อวี้ถง ทำไมเจ้าถึงออกมาได้ ?"

ฮวาอวี้ถงพลันส่งยิ้มมาให้เล็กน้อย แม้ว่าใบหน้ายังมิได้ลบเครื่องสำอางค์ออก ทว่าสีหน้ากลับซีดเผือดเล็กน้อย ทั่วร่างพลันสั่นเทา "เมื่อครู่ ข้ากำลังพักผ่อนอยู่ในตำหนักแห่งใหม่ ทว่า กลับได้ยินผู้คนในตำหนักกล่าวถึงเรื่องของพระชายรองหลิ่ว. ถึงแม้ว่าข้าจะยังไม่เคยพบเจอพระชายารองหลิ่วเลยก็ตาม ในเมื่อแต่งเข้ามาในวันเดียวกันแล้ว ก็นับว่ามีโชคชะตาร่วมกัน ข้าเลยอยากมาดูเสียหน่อย" เมื่อพูดจบพลันหันมามองหยุนชางด้วยความลังเล แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า "ชางเอ๋อร์จะเข้าไปดูด้วยหรือ ? ตอนนี้เจ้ากำลังตั้งครรภ์อยู่ไม่ใช่หรือ หากได้กลิ่นคาวเลือดขึ้นมาเจ้าอาจจะรับไม่ได้ ถึงแม้ว่าจะยังไม่พบศพก็ตาม ทว่าภายในเรือนนั้นทั่วทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยรอยเลือดทั้งนั้น ราวกลับนรกบนดินก็ไม่ปาน"

หยุนชางพลันยิ้มรับ เมื่อได้ยินฮวาอวี้ถงพูดถึงช่วงแรก ทว่า เมื่อได้ยินประโยคครึ่งหลังขึ้นมา กลับต้องขมวดคิ้วลง "ไม่พบศพหรือ ? เป็นไปได้อย่างไร ?"

ฮวาอวี้ถงพลันชะงักไปชั่วครู่. พร้อมพูดต่อว่า "ตำหนักของพระชายาหลิ่วไม่พบศพ ? เมื่อครู่ใต้เท้ากรมอาญา มาที่ตำหนักพวกเขาก็รู้แปลกใจเป็นอย่างมาก ที่ไม่พบศพทั้งหมดเลย ทำไมพ่อบ้านถึงมั่นใจว่าทั้งพระชายาหลิ่วและเหล่าข้ารับใช้ล้วนโดนฆ่าตายด้วยเล่า ?"

หยุนชางและพ่อบ้านพลันเลิกคิ้วขึ้น ถึงแม้ว่าหยุนชางจะมิได้พบเห็นเหตุการณ์ในจวนด้วยตาตนเอง หากแต่ นางได้ฟังคำรายงานขององครักษ์เงาถึงเหตุการณ์ภายในจวนทั้งหมดแล้ว

"ไม่จริง เมื่อครั้งที่เหล่านู๋เดินเข้าไปในตำหนักนั้น ทั่วตำหนักล้วนแต่เต็มไปด้วยซากศพที่ไร้วิญญาณ เหล่านู๋เพียงยืนอยู่ที่หน้าประตูมองดูเท่านั้น ไม่กล้าแม้แต่จะย่างก้าวเข้าไปในตัวตำหนัก ทำไมถึงได้. ไม่เจอแล้ว ? " พ่อบ้านพลันรีบร้อนเปิดประเด็นออกมา

เมื่อพ่อบ้านพูดจบลง ลั่วชิงเหยียนพลันหันร่างมาดูสีหน้าของหยุนชาง แล้วจึงพูดออกมาด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า "ไป เข้าไปดูตำหนักของพระชายาหลิ่วกันเถอะ "

หยุนชางได้ยินเช่นนั้น พลันนึกขึ้นมาได้ว่า ขณะที่อ๋องเจ็ดและฮวาอวี้ถงกำลังกราบไว้ฟ้าดินในงานแต่งอยู่นั้น อ๋องเจ็ดพลันล้มลงไป ไม่ว่าฮวาอวี้ถึงจะเป็นตัวแทนของฝั่งฮวากั๋วกงหรือไม่ ทว่า ฮวาอี้ถงเป็นเพียงสตรีธรรมดาคนหนึ่งที่หวังจะมีความสุขในชีวิตเท่านั้น ในเมื่ออ๋องเจ็ดได้ชื่อว่าเป็นสามีของนางแล้ว นางย่อมต้องรู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ทว่าพิธีแต่งงานของพวกเขายังมิทันเสร็จสิ้น นางจึงกังวลว่าตนเองจะมีชื่อเสียงที่ไม่ดีนัก อีกทั้งยังไม่กล้าไปสอบถามเรื่องราวจากผู้คนในวังของอ๋องเจ็ดอีก

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ หยุนชางพลันยิ้มพร้อมพยักหน้าลงเล็กน้อย "อ๋องเจ็ดได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว ร่างกายยังมีอาการอ่อนแออยู่บ้าง ทว่า มิได้เป็นอันใดมากแล้ว " เมื่อชะงักไปชั่วครู่ จะกระซิบพูดว่า "ถึงแม้ว่าในงานสมรสจะมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หากแต่ ตอนนี้ชื่อของเจ้าก็ได้ถูกจดบันทึกไว้ที่แผนภูมิหยกประจำราชวงศ์แล้ว นามของเจ้าในตอนนี้คือพระชายาอ๋องเจ็ด หากเจ้ารู้สึกกังวล ก็สามารถไปสอบถามพวกเขาโดยตรงได้ อีกทั้งยังสามารถไปตามหาอ๋องเจ็ดที่ห้องได้อีก"

ฮวาอวี้ถงก้มหน้าลงพยักหน้าเล็กน้อย หากแต่เมื่อนางมองดูแล้วในใจจึงรู้สึกตื่นเต้นอยู่บ้าง

หยุนชางพลันตบลงที่มือของนางอย่างเบา ๆ พร้อมยิ้มบอกว่า "ตอนนี้เจ้าเป็นถึงหวางเฟยแล้ว ไม่ต้องกลัวว่าจะมีผู้ใดมารังแกได้"

ฮวาอี้ถงพลันเงยหน้าขึ้นมามอง พร้อมส่งยิ้มให้หยุนชางเล็กน้อย "ต่อไปนี้ข้าจะไปพูดคุยกับเจ้าที่จวนบ่อย ๆ ดีหรือไม่ ?"

"ได้แน่นอน " หยุนชางจึงยิ้มตอบกลับ "ดีจริง ช่วงนี้เป็นเพราะมีบางสิ่งภายในท้องของข้า ข้าจึงถูกท่านอ๋องกักขังไว้แต่ในจวน แม้แต่ประตูจวนข้าก็ยังไม่สามารถออกไปได้ หากเจ้ามาหาข้าเพื่อพูดคุยละก็ ข้าคงมีความสุขมาก ๆ "

ทั้งสองคนพูดคุยกระซิบกระซาบแล็กน้อย เมื่อถึงหน้าประตูตำหนักแล้ว หยุนชางพลันได้กลิ่นที่โชยออกมาเล็กน้อย แม้ว่ากลิ่นเลือดที่คละคลุ้งจะจางลงไปบ้าง ทว่า หยุนชางก็อดไม่ได้ที่จะต้องขมวดคิ้วลง

ลั่วชิงเหยียนพลันหันหน้ามามองทางหยุนชาง สายตาเต็มไปด้วยความกังวลเล็กน้อย เพียงครู่หนึ่งพลางกระซิบถามว่า "รู้สึกอึดอัดหรือ ?"

หยุนชางพลันส่ายหน้าเล็กน้อย พลางเห็นร่างของชายชุดเขียวที่รีบร้อนเดินเข้ามาในตำหนัก เขาคือหลี่เฉี่ยนโม่

หยุนชางจึงได้สติกลับมา พลันนึกขึ้นได้ว่า ครั้งนั้น ตั้งแต่เรื่องตุ๊กตาคุณไสย รองเจ้ากรมอาญาและองค์หญิงไท่อันก็ได้มีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อกัน เมื่อถูกไล่ออกจากตำแหน่งได้ไม่นานนัก นางจึงได้ให้หลี่เฉี่ยนโม่คิดหาวิธีทำให้ตนเองขึ้นไปประจำตำแหน่งอีกครั้ง จากนั้นไม่นานนัก เขาก็ค่อยกลับมานั่งบนตำแหน่งของรองเจ้ากรมอาญาได้สำเร็จ

เนื่องจากผู้ที่มาคือหลี่เฉี่ยนโม่ นางจึงไม่ต้องกลัวว่าจะมีผู้ใดใส่ร้ายป้ายสีนางได้อีก

หยุนชางที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น ฉับพลันหลี่เฉี่ยนโม่ก็มายืนอยู่ตรงหน้าของพวกเขาแล้ว พร้อมโค้งกายทำความเคารพ "กระหม่อมขอเข้าเฝ้ารุ่ยอ๋องและพระชายารุ่ยอ๋องพะยะค่ะ"

ลั่วชิงเหยียนพลันหยักหน้ารับเล็กน้อย เพียงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จึงเอ่ยขึ้นมาว่า "อย่าได้มากพิธี เจออะไรบ้างหรือไม่ ?"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง