"เกรงว่าเขาจะทำให้มั่นคง หรือเขาต้องการใช้เงินเพื่อจัดการเรื่องนี้ ในเวลานี้ ต้องให้เขารู้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นฝีมือของจวนรุ่ยอ๋อง ให้เขาพบอุปสรรคบ้าง" หยุนชางยิ้มด้วยสายตาเย็นชาเล็กน้อย
"ตอนนี้เงินที่เราเอามาใช้ได้มีประมาณเท่าไหร่?" หยุนชางหันศีรษะและมองเฉี่ยนอิน
เฉี่ยนอินเอียงศีรษะครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และรีบกล่าวว่า "ไม่มาก ประมาณหนึ่งแสนตำลึงเงินเพคะ"
หยุนชางพยักหน้า ไม่มากจริงๆ
"จากที่เราจัดวางร้านค้าลับๆไว้ในเมืองหากถูกจัดวางตามที่ข้าต้องการ ก็ควรมีร้านค้าไม่น้อยในมือของเรา เจ้าลองคำนวณจากร้านเหล่านี้ ใช้เงินสักก้อนแล้วเปิดร้านข้างๆหรือตรงข้ามร้านหวังจี้ทั้งหมด โดยขายสินค้าที่เหมือนกัน แต่ราคาต่ำกว่าร้านหวังจี้ และไม่จำเป็นต้องต่ำเกินไป แค่ขอให้ถูกกว่าก็เป็นพอ สามารถเปิดได้เท่าไหร่ก็เปิดเท่านั้น เรื่องเงิน ข้าจะลองหาวิธี" หยุนชางสั่งด้วยเสียงเบา "อีกทั้ง เร่งมือด้วย"
เฉี่ยนอินไม่เข้าใจว่าหยุนชางกำลังจะทำอะไร แต่นางรีบตอบรับ "หม่อมฉันเข้าใจแล้วเพคะ"
หยุนชางพยักหน้า แล้วได้ยินเสียงของชายแปลกหน้าเดินลงมาที่ชั้นล่าง ดูเหมือนจะเป็นผู้ดูแลของร้านผ้าหวังจี้ ทันทีที่เข้าประตู เขาเริ่มพูดว่าผ้าที่เกิดเรื่องขึ้นไม่ได้ซื้อมาจากร้านหวังจี้
หยุนชางฟังน้ำเสียงของเฉียนสุ่ยที่มีความโกรธเล็กน้อย "เถ้าแก่ร้านหวังจี้ เป็นพวกผู้ดีมักวางมาตรหยิ่งยโส ลืมมิตรภาพเก่าจริงๆ มันเป็นเรื่องของเมื่อวานนี้เอง แต่ทว่าวันนี้ก็มาหักหน้ากัน ไม่ยอมรับแล้ว ในมือของข้ายังมีหลักฐานการซื้อผ้าจากร้านผ้าหวังจี้ ทั้งราคาและลายผ้าก็เขียนไว้ชัดเจน และลายนิ้วมือของเถ้าแก่ร้านหวังจี้เอง อีกทั้งผ้าที่ขายโดยร้านหวังจี้จะมีลายปักบนผ้าที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เถ้าแก่ร้านสามารถมาตรวจดูได้ด้วยตัวเองว่า นี่คือสินค้าจากร้านผ้าหวังจี้หรือไม่"
เสียงของชายคนนั้นค่อนข้างหงุดหงิด "ถึงจะเป็นสินค้าจากร้านเรา ผ้าชิ้นนี้ก็ผ่านมือเจ้าไปแล้ว ใครจะไปรู้ได้ว่าเจ้าได้เล่นตลกอะไรหรือไม่ สินค้าในร้านผ้าหวังจี้นั้นเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้ว จะขายของที่ไม่ดีอย่างนี้ได้อย่างไร และในบรรดาผ้าที่ขายออกไปทั้งหมดนั้น มีเฉพาะผ้าในร้านของเจ้าเท่านั้น ที่มีปัญหา นี่มันแปลกเกินไปหรือไม่?"
ทันทีที่เสียงลดลง ก็ได้ยินเสียงที่ดูกังวลมากดังขึ้นอีกครั้ง "เถ้าแก่ ท่านรีบกลับร้านไปดูที เถ้าแก่ร้านเสื้อผ้า เฝิงจี้บอกว่าผ้าที่ขายให้พวกเขาในวันนี้มีปัญหา และเขาพาคนมาทุบร้านของเราแล้วขอรับ"
ไม่มีเสียงจากด้านล่าง หยุนชางลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าต่างเพื่อมองออกไป ได้เห็นชายวัยกลางคนกับคนใช้รีบเบียดผู้คนที่มามุงดูของด้านนอกหอเฉียนสุ่ยอี้เหรินจากไปอย่างรวดเร็ว
ผ้าในร้านผ้าหวังจี้แน่นอนว่านางสั่งให้คนเล่นลูกไม้บางอย่าง แต่ถ้ามีเพียงหอเฉียนสุ่ยอี้เหรินเท่านั้นที่มีปัญหา มันก็ดูจงใจเกินไป นางจะไม่ทำผิดพลาดเช่นนี้แน่
นางจะเลือกหอเฉียนสุ่ยอี้เหริน เป็นเพราะแขกในหอเฉียนสุ่ยอี้เหรินเป็นบุคคลที่มีหน้ามีตา แม้ว่าพวกเขาจะเป็นเพียงฮูหยินในหลังจวน แตเมื่อมีเรื่องเกิดขึ้นกับคนในจวน ก็ไม่ใช่แค่เรื่องของฮูหยินแค่นนั้น แม้ว่าจะเป็นหวังฉงเหวินก็ตาม ก็ไม่อาจทำให้ขุ่นเคืองได้ แต่หวังฉงเหวินคงจะไม่รู้ และผู้ดูแลของร้านผ้าก็ไม่ทราบด้วยเช่นกัน คำพูดเมื่อครู่นี้ เกรงว่าชีวิตในอนาคตของหวังฉงเหวินก็คงจะอยู่ไม่สุขแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้คนด้านล่างก็ค่อยๆแยกย้ายกันไป และหยุนชางก็เดินลงไปชั้นล่าง
เฉียนสุ่ยกำลังจะขึ้นไปชั้นบน และเห็นหยุนชาง จึงรีบคำนับอย่างรวดเร็ว "พระชายา"
หยุนชางยิ้มและพยักหน้า "ทำได้ดีมาก ข้าจะกลับจวนก่อน"
เฉียนสุ่ยตอบรับ และเดินตามหยุนชาง ส่งนางออกจากหอเฉียนสุ่ยอี้เหริน
สองวันต่อมา จนถึงวันที่สาม หวังฉงเหวินรีบไปเยี่ยมจวนอีกครั้ง แต่ทว่าต่างจากครั้งที่แล้วก็คือ คราวนี้ เขาไม่ได้มาพร้อมหวังฮูหยิน
หยุนชางได้ฟังพ่อบ้านมารายงาน นางกำลังอ่านบัญชี แต่ไม่ได้ตั้งใจละเลยหวังฉงเหวิน ยื่นบัญชีให้ฉินยี ยืนขึ้นและให้เฉี่ยนหลิ่วสวมเสื้อคลุม จากนั้นเดินไปที่ห้องโถงรับรอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง