เมื่อกลับมาถึงจวนแล้ว. หยุนชางรีบสั่งให้คนนำตัวลั่วชิงเหยียนอุ้มไปนอนบนเตียง. พร้อมสั่งเฉี่ยนจั๋วให้เตรียมน้ำร้อนเพื่อเอาไว้ชำระล้างร่างกายให้ด้วย สายตาของเฉี่ยนจั๋วกวาดตามองไปที่ร่างของลั่วชิงเหยียนที่อยู่บนเตียงอยู่ครู่หนึ่ง ฝีเท้าพลันชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงรีบร้อนเดินออกจากห้องไปทันที
หยุนชางพลันเดินไปที่ตั่งนุ่มข้างเตียง แล้วล้มตัวลงนอน ในขณะที่รอข้ารับใช้ส่งน้ำเข้ามานั้น จึงหยิบตำราที่อ่านไว้ก่อนจะออกไปขึ้นมาอ่าน ตำราเล่มนี้บรรยายถึงสุดยอดศิลปะการต่อสู้ของเจียงหู หยุนชางพลางกวาดตามองไปยังเนื้อหาของแผ่นที่อ่านก่อนหน้านั้น แล้วจึงพับกระดาษบนหัวมุมให้เป็นรอยเล็กน้อย แล้วจึงวางตำราไว้ข้างตัว ในขณะที่กำลังวางอยู่นั้น ไม่ทันได้ระวังจึงทำใ้ตำราเล่มนั้นตกพื้นไป ตำราพลันถูกพลิกไปาองสามหน้า บนหัวกระดาษหน้าที่หยุนชางเพิ่งถูกพับไปนั้น ด้านบนมีตัวอักษรเขียนไว้สว่า ฝ่ามือยะเยือกนิรันดร์
เมื่อเฉี่ยนจั๋วสั่งให้คนส่งน้ำเดินเข้ามานั้น หยุนชางจึงก้มตัวลงไปเก็บตำราขึ้นมา พร้อมวางไว้ที่ด้านข้าง แล้วจึงเดินเข้าไปยังห้องชำระล้าง
สาวใช้พลันค่อย ๆ เทน้ำลงในอ่าง เฉี่ยนจั๋วจึงเดินเข้ามาถอดเสื้อผ้าอาภรณ์ให้กับหยุนชาง หยุนชางค่อย ๆ เดินลงไปนั่งในอ่างน้ำ พร้อมถอนหายใจออกมา สาวใช้จึงโค้งตัวถอยออกไป เหลือเพียงเฉี่ยนจั๋วที่นำผ้าขนหนูมาเช็ดชำระล้างร่างกายบนทั่วร่างของหยุนชาง "หวางเฟย. ท่านอ๋องจะต้องนอนอยู่เช่นนั้นไปอีกสองเดือนแล้วหรือเพคะ"
หยุนชางที่เอนตัวพิงกับอ่านน้ำนั้น พลันค่อยหลับตาลง มุมปากพร้อมกระตุกยิ้มขึ้น "เหตุใดจะไม่ได้กัน เช่นนี้จึงจะได้ไม่ต้องไปที่ชายแดนแล้ว อีกทั้ง. หากมีเหตุการณ์อันใดเกิดขึ้นภายในสองเดือนนี้ พวกเราจึงจะรอดจากคำครหาทุกอย่างไปได้ ไม่ดีที่ใดกัน ?"
เฉี่ยนจั๋วพลันชะงักไปเล็กน้อย น้ำเสียงเต็มไปด้วยความขบขันเล็กน้อย "ยังเป็นหวางเหยที่มองการณ์ไกลเพคะ"
รอยยิ้มของหยุนชางพลันนุ่มลึกลง แล้วจึงออกคำสั่งว่า "คำสั่งที่สั่งไปเมื่อวันก่อนนั้น รีบทำให้เสร็จเสีย เวลาไม่คอยท่าแล้ว"
เฉี่ยนจั๋วรับร้อนรับคำ
เมื่อชำระร่างกายเสร็จแล้ว. หยุนชางจึงสวมเพียงเสื้อตัวในแล้วเดินกลับมาที่ห้อง. ตอนนี้เข้าสู่กลางดึกเสียแล้ว. เฉี่ยวจั๋วกำลังเก็บกวาดภายในห้องชำระล้างอยู่. หยุนชางรู้สึกง่วงเล็กน้อย จึงให้ฉินยีปลดม่านลง แล้วตนเองจึงล้มตัวนอนลงบนเตียงข้างกายลั่วชิงเหยียน ฉินยีจึงค่อย ๆ ปลดม่านลงมา ผ่านไปครู่หนึ่ง เสียงไฟที่ส่องแสงหริบหรี่อยู่ด้านนอกค่อย ๆ แปรเปลี่ยนเป็นความมืด พร้อมประตูที่ถูกปิดลง
ชายที่นอนอยู่ข้างกายของหยุนชางพลันค่อยๆเคลื่อนไหว พร้อมค่อยๆเอื้อมมือไปดึงหยุนชางเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด พลางค่อย ๆ ก้มลงไปประทับจูบที่กระหม่อมของหยุนชางด้วยความแผ่วเบา
เช้าวันต่อมา เฉี่ยนจั๋วได้มายืนรออยู่นอกประตูแล้ว หยุนชางพลันหันไปมองชายที่หลับตานอนอยู่ด้านข้าง สายตาเต็บไปด้วยร้อยยิ้ม เมื่อกำลังจะลุกขึ้นนั้น ร่างกลับถูกดึงให้ลงไปนอนบนเตียงอีกครั้งหนึ่ง
"แต่เดิมเจ้ามิใช่ชอบนอนงั้นหรือ ? นอนเป็นเพื่อนข้าเสียหน่อยเถอะ " น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยงัวเงียนเกลียดคร้านพลันดังเข้ามาในหู
หยุนชางรู้สึกหมดหนทางไปเล้กน้อย หากแต่มือของเขายังรั้งร่างของหยุนชางให้นอนลงภายในอ้อมกอด หยุนชางจะขยับเช่นไรก็ไม่ได้ ทำได้เพียงนอนไปกับเขาเท่านั้น เพียงคิดว่าจะนอนหลับไปชั่วครู่เท่านั้น ท้ายที่สุดเมื่อตื่นมากลับเป็นยามอู่เสียแล้ว
หยุนชางจึงรีบร้อนลุกขึ้นมา ถึงแม้ว่าเขาจะได้ชื่อว่าถูกพิษอยู่ หากแต่นางยังมีอะไรที่ต้องจัดการอีกมากนัก
หยุนชางพลันลุกขึ้นยืน พร้อมหันกลับไปมองบนเตียงที่ไร้ร่างของคนแล้ว ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงปิดม่านลง เพื่อไม่ให้เห็นสถานการณ์ภายในเตียงอีก แล้วจึงเอ่ยปากเรียก
"เฉี่ยนจั๋ว. ฉินยี"
ทั้งสองรีบร้อนเดินเข้ามา ฉินยีพลันเดินไปที่หีบเพื่อหยิบอาภรณ์ตัวใหม่ขึ้นมา เฉี่ยนจั๋วพลันรีบเดินมาที่ข้างกายหยุนชาง พร้อมกระซิบกล่าวว่า "หวางเฟย ยายอิงผู้นั้น พวกเราจับได้แล้วเพคะ " น้ำเสียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ยากจะห้ามได้
ทั่วร่างของหยุนชางพลันหยุดชะงัก พร้อมหันหน้าไปหาเฉี่ยนจั๋ว แววตาเต็มไปด้วยความแปลกใจ แม้ว่างนางจะออกคำสั่งองครักษ์เงาให้ไปจับองค์ใหญ่ที่ปลอมตัวเป็นยายอิงกลับมาไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม. หากแต่ในใจก็รู้ดีว่า องค์หญิงใหญ่กล้าซ่อนตัวอยู่ภายใต้จมูกของนางนั้น แน่นอนว่านางจะต้องเตรียมการมาอย่างดีเป็นแน่
เกรงว่าองค์หญิงจะคาดไม่ถึงว่าหยุนชางจะเดาตัวตนของนางได้เร็วถึงเพียงนี้ หากจะจับนางนั้น เกรงว่าจะไม่ได้ง่ายนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง