ทำอย่างไรงั้นหรือ? หยุนชางลูบปิ่นในมืออย่างระมัดระวัง รอยยิ้มที่มุมปากของนางดูเลือดเย็นเล็กน้อย "ข้าคิดจะใช้แผนซ้อนแผน ในเมื่อนางนำปิ่นนี้ออกมา ตอนนี้ท่านอ๋องก็ยังถูกพิษไม่ได้สติ ข้าที่เป็นเพียงสตรีนางหนึ่งเมื่อคิดว่าอาจเกิดอะไรขึ้นกับเสด็จแม่จงใจแกล้งทำเป็นสงบ แต่แท้จริงแล้วย่อมทำอะไรไม่ถูกแน่ ข้าอยากจะคอยดูนักว่านางจะมีสภาพจิตใจเช่นใด"
นางนิ่งไปชั่วครู่ มือที่ลูบปิ่นชะงักลง นางเงยหน้าขึ้นมองหนิงเชียนแล้วเอ่ยว่า "ในช่วงนี้ฮองเฮาและนางสนมเหล่านั้นค่อนข้างจะใกล้ชิดกันหรือ?"
หนิงเชียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบว่า "ก่อนหน้านี้ตอนคัดเลือกสาวงาม ฮองเฮาได้เลือกหญิงสาวห้าคนเป็นผู้ชิงตำแหน่งนางข้าหลวง แต่มีเพียงหวังหว่านจือเท่านั้นที่ฝ่าบาทเก็บไว้ใช้งาน ช่วงนี้ที่เหลืออีกสี่คนนั้นก็ไปที่ตำหนักเว่ยยางบ่อยๆ เกรงว่าฮองเฮาต้องลงมือทำอะไรแน่ ทั้งสี่คนจึงได้รับความโปรดปรานและได้เลื่อนตำแหน่งกันถ้วนหน้า ผู้ที่ตำแหน่งสูงสุดคือฉินเซียงหลาน ฝ่าบาทแต่งตั้งนางเป็นเหลียงเยวี่ยน"
"หือ?" หยุนชางเคาะที่เท้าแขนเบาๆ ดวงตาของนางเย็นชา "นอกจากซูลั่วแล้ว เจ้าเลือกคนที่ฉลาดๆ อีกสองคนคิดหาวิธีทำให้พวกนางวางมือ"
คำพูดนั้นฟังดูง่าย แต่ฮองเฮาเป็นนายแห่งวังหลัง เหล่าหญิงสาวในวังหลังเข้าไปพึ่งพาบารมีของฮองเฮาย่อมได้รับประโยชน์มากกว่าการไปเข้าพวกกับนางสนมคนอื่นๆ ดังนั้นหนิงเชียนจึงลงมือทำไม่ง่ายนัก
หนิงเชียนกลับทำเพียงพยักหน้าน้อยๆ และไม่ได้ถามว่าเหตุใดหยุนชางจึงให้ทำเช่นนี้
"ซูลั่ว..." หยุนชางหรี่ตาลง นางเงยหน้าขึ้นมองฉินยีและกล่าวว่า "เจ้าให้ซูลั่วคิดหาวิธีที่จะทำให้ฮองเฮารู้ว่าเสิ่นซู่เฟยอยู่ในตำหนักเย็นไม่ได้สงบเสงี่ยมนัก นางร่วมมือกับท่านอ๋องเจ็ด ต้นเหตุของเรื่องนี้เป็นเพราะนางได้ยินนางกำนัลพูดถึงเรื่องนี้โดยบังเอิญ นางไม่รู้ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ จึงมาเอ่ยให้ฮองเฮาฟังเป็นเรื่องขบขันไป"
ฉินยีรับคำเบาๆ
หนิงเชียนเงยหน้าสบตาของฉินยี จากนั้นจึงค่อยๆ เบนสายตากลับมาและพูดด้วยรอยยิ้มบางๆ "จริงสิ เมื่อไม่กี่วันก่อนพระชายาให้ตามคนเก่าแก่ในวังหรือเพคะ?"
หยุนชางจำได้ว่าวันนั้นนางได้ยินเรื่องของเสิ่นซู่เฟยและเสียนฮูหยินในอุทยานหลวงแล้วจึงพยักหน้าเบาๆ "พบแล้วหรือ?"
หนิงเชียนพยักหน้า "ที่จริงพบและซื้อตัวมาได้นานแล้ว เพียงแต่ยังคิดหาเหตุเหมาะสมที่จะให้พวกนางได้มีโอกาสพบพระชายาไม่ได้ ฮองเฮาเป็นผู้ที่ขี้ระแวง ข้าเกรงว่าหากรีบร้อนเกินไปจะกลับกลายเป็นผงเสียแทน ครั้งนี้ข้าถูกวินิจฉัยว่าตั้งครรภ์แต่กลับเป็นโอกาสของเรา ข้าได้ทูลขอพวกนางมาจากฝ่าบาทโดยใช้ข้ออ้างว่าข้าไม่รู้ว่าต้องดูแลตนเองอย่างไร ได้ยินว่านางกำนัลเหล่านี้เคยเลี้ยงองค์หญิงองค์ชายมาไม่น้อยจึงได้ขอมา"
หนิงเชียนอธิบายพลางให้สั่งให้นางกำนัลไปพาคนเข้ามา
อาศัยเวลาที่ก่อนพวกนางจะมาถึงเล่าเรื่องที่มาที่ไปของพวกนางให้หยุนชางฟัง "คนเหล่านี้เป็นคนเก่าแก่ในวังและเพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจากตำหนัก ข้าจึงเลือกคนจากตำหนักไท่เฟยและไทเฮาเท่านั้น"
หยุนชางพยักหน้า จากนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นจากด้านนอก "เซียงเฟยเหนียงเหนียง มามาทั้งสี่มาแล้วเพคะ"
หยุนชางใคร่ครวญครู่หนึ่งจึงกล่าวว่า "พบทีละคนเถอะ"
หนิงเชียนพยักหน้าและให้เฉี่ยนซินนำตัวมามาเข้ามาหนึ่งคน มามาที่เข้ามารูปร่างผอมบาง แต่ท่าทางฉลาดเฉลียว หนิงเชียนยิ้มและพูดว่า "นี่คือหลี่มามา ก่อนหน้านี้นางรับใช้ตำหนักหลิวไท่เฟยมาก่อน"
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ พลางยิ้มและกล่าวว่า "วันนี้ที่เชิญเจ้ามาที่นี่ไม่ได้มีเจตนาร้ายอันใด เพียงแต่เมื่อครู่ตอนที่คุยกัน เซียงเฟยได้เอ่ยถึงเรื่องน่าสนใจที่ได้ยินมาเมื่อสองสามวันก่อน มันเป็นเรื่องสิบกว่าปีที่แล้ว ข้าอยากรู้จึงได้เชิญเจ้ามาถามให้รู้เรื่อง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง