"ช้าก่อน" หยุนชางยกมือขึ้น หยุดไฉ่ยีที่กำลังจะตบลงในครั้งที่สอง ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความเย็นชา "เมื่อครู่ข้าแค่รู้สึกว่าหลิวเกิงยีแค่ล่วงเกินข้า มิได้มีโทษหนักอะไร บัดนี้กล้าใส่ร้ายข้าและฝ่าบาท นี่คือโทษหนักประหารเก้าชั่วโคตร ต้องขอรบกวนรบกวนแม่นางไฉ่ยีไปทูลรายงานต่อฝ่าบาท ผู้ที่ทำผิดครรลองครองธรรมเช่นนี้ ข้ามิอาจตัดสินใจเองได้"
หลิวเกิงยีฟังหยุนชางพูดเช่นนี้แล้ว นางก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง จ้องไปที่หยุนชางอย่างว่างเปล่า โดยคิดว่าหยุนชางแค่ขู่ให้นางกลัว แต่ไฉ่ยีได้คำนับลงและตอบรับ กำลังจะไปที่ตำหนักไท่จี๋
หลิวเกิงยีตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูก รีบเข้าไปกอดไฉ่ยี พูดด้วยความตื่นตระหนกว่า "หม่อมฉันแค่พูดเหลวไหล หม่อมฉันไม่รู้อะไรเลย ขอพระชายารุ่ยไว้ชีวิตหม่อมฉันด้วย หม่อมฉันสำนึกผิดแล้ว หม่อมฉันสำนึกผิดแล้วเพคะ"
หยุนชางหรี่ตาลงบนใบหน้าของหลิวเกิงยีที่เต็มไปด้วยน้ำตา และมือของนางกำแน่นในแขนเสื้อ หลังจากนั้นไม่นาน หยุนชางก็ยิ้มอย่างเย็นชา "หลิวเกิงยีอยู่ในวังมาหกปีแล้ว หรือว่าไม่รู้เลยว่าอะไรควรพูดอะไรมิควรพูด ข้าเพิ่งพูดไปแล้ว ถ้าเจ้าแค่ล่วงเกินข้า นี่มันแค่เป็นเรื่องเล็กน้อย ข้าไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ให้ไฉ่ยีตบปากยี่สิบที มันเป็นเพียงการลงโทษเล็กน้อย แค่หวังว่าเจ้าจะรู้ถึงความผิดได้"
หลิวเกิงยีทรุดตัวลงกับพื้น ใบหน้าของนางซีดเผือด "แต่เจ้าไม่เพียงไม่สำนึกผิด อีกทั้งยังพูดเหลวไหล ใส่ร้ายข้าไม่ว่า ยังกล้าดูหมิ่นพระเกียรติยศของฝ่าบาท นี่คือโทษหนัก มันไม่มีประโยชน์ที่เจ้าจะมาอ้อนวอนข้า ข้าเพิ่งบอกไปแล้วว่า นี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะตัดสินใจได้"
ขณะที่พูด หยุนชางเห็นแต่ไกล ดูเหมือนว่าหนิงเชียนและนางสนมหลายคนเดินเข้ามา เมื่อเห็นสถานการณ์ภายนอกศาลาลั่วเซี่ย นางก็ประหลาดใจเล็กน้อยและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "ที่นี่มีทั้งเสียงร้องไห้และเสียงเอะอะกัน เกิดอะไรขึ้นถึงครึกครื้นเยี่ยงนี้? "
หยุนชางยิ้มและยืนขึ้น "ให้เซียงเฟยเหนียงเหนียงเห็นเรื่องน่าขำแล้ว เหตุใดเซียงเฟยเหนียงเหนียงถึงเสด็จมาที่นี่ได้ล่ะเพคะ"
ดวงตาของหนิงเชียนเหลือบมองที่หลิวเกิงยีแล้วเดินเข้าไปในศาลา นั่งลงข้างหยุนชาง แล้วพูดว่า "เดินเล่นกับเหล่าสนม ข้าคิดว่าเจ้าคงอยู่ในตำหนักเฉาเซี่ยนี้ ข้าก็เลยอยากมาหา แต่ไม่คิดว่าพอมาถึงครึ่งทางก็พบเจ้าแล้ว"
นางสนมคนอื่นๆ ที่มากับหนิงเชียนก็เดินไปที่ศาลา ยิ้มและคำนับ "ถวายพระพรพระชายารุ่ย"
หยุนชางพยักหน้าเบาๆ "นั่งกันเถิด"
หนิงเชียนเหลือบมองที่หลิวเกิงยีอีกครั้ง ยิ้มและกล่าวว่า "เกิดอะไรขึ้น ใครทำให้เจ้าโกรธรึ?"
หยุนชางก็เหลือบมองหลิวเกิงยีจากนั้นหลิวเกิงยีได้เห็นว่าเหล่านางสนมระดับสูงมากมายต่างก็สุภาพต่อหยุนชาง มีความตื่นตระหนก มองทุกคนอย่างเหม่อลอย
"ไม่ใช่เรื่องใหญ่ อาจเพราะเรื่องเมื่อคืนกระทันหันเกินไป ตอนนี้จวนรุ่ยอ๋องไม่ปลอดภัย ฝ่าบาทและฮองเฮาทรงเอ็นดูข้าที่กำลังตั้งครรภ์ จึงให้ข้าย้ายมาพักที่ตำหนักเฉาเซี่ย แต่ไม่คิดว่าจะสร้างความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็น นางสนมระดับต่ำคนนี้เพิ่งกล่าวว่า ข้าให้ท่าฝ่าบาท และการเข้าไปในวังนี้เป็นข้อพิสูจน์"
พอได้ฟังสีหน้าของหนิงเชียนเย็นชาและนางพูดอย่างเคร่งขรึมว่า "พูดจาเหลวไหล!"
หยุนชางเห็นหน้าผากของนางมีเส้นเลือดนูนขึ้นมาจางๆ และดูเหมือนว่านางจะโกรธมากกว่าตน ดังนั้น นางจึงอดหัวเราะไม่ได้ "จริงที่ว่าไร้สาระจริงๆ แต่เจ้ามิควรวิตกกังวลเกินไป ระวังเด็กในครรภ์ด้วย"
หนิงเชียนมองไปที่ผู้คนนอกศาลา ร่างกายของทุกคนสั่นเล็กน้อย และดูเหมือนหวาดกลัวมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง