หยุนชางทราบว่าสิ่งที่เซี่ยหวนอวี่รับรู้ในวันนี้มีมากจนเกินไป คงจะมีความรู้สึกสับสนเล็กน้อย จึงมิได้กล่าวกระไรต่อ นางกลับไปที่ห้องของตนอย่างเงียบๆ แล้วเขียนใบสั่งยา จากนั้นก็สั่งให้ฉินยีไปจ่ายยาเองแล้วส่งยานี้ไปที่ลานท่านฮูหยินจ้าว
เมื่อหยุนชางเขียนใบสั่งยาเสร็จเรียบร้อยและกลับมาที่ลานบ้านอีกครั้ง ก็ไม่พบร่องรอยของเซี่ยหวนอวี่ หยุนชางตกตะลึงและกำลังจะสั่งให้คนไปตามหา แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า ในเมื่อเซี่ยหวนอวี่ออกจากพระราชวังมา ท่านก็คงพาสายลับมาไม่น้อยเช่นกัน ฉะนั้นจึงมิต้องกังวลไปหรอก นางจึงสงบมากขึ้นกว่าเดิม แล้วสั่งให้ฉินยีเตรียมอาหาร
เพียงแต่ว่าเมื่อค่ำแล้วเซี่ยหวนอวี่ก็ยังไม่กลับมา หยุนชางจึงกังวลขึ้นมาทันที แล้วยืนขึ้นพาฉินยีและเฉี่ยนจั๋วออกไป แล้วเร่งเดินทางไปที่ลานบ้านที่ท่านฮูหยินจ้าวอาศัยอยู่
เมืองหวายอินไม่ใช่เมืองใหญ่ หยุนชางจึงมิได้นั่งรถม้า เมื่อเดินถึงทางเลี้ยวมุมข้างลานบ้านของท่านฮูหยินจ้าวแล้ว นางก็เร่งถอยกลับมาอย่างกะทันหัน
ดวงตาของฉินยีและเฉี่ยนจั๋วเต็มไปด้วยความสงสัย หยุนชางมองไปที่พวกนางจากนั้นก็โผล่หัวออกไปอีกครั้ง
เซี่ยหวนอวี่ยืนอยู่ข้างรั้วลานบ้านของท่านฮูหยินจ้าว ดูเหมือนว่าจะยืนอยู่ตรงนั้นเป็นเวลานานแล้ว เมื่อยืนไปครู่หนึ่งเขาก็เริ่มเดินวนไปมา แต่แววตาก็ยังมองไปที่กำแพงนั้นเป็นครั้งคราว
หยุนชางมองดูเงาร่างของเซี่ยหวนอวี่ที่เต็มไปด้วยความในใจ นางขมวดคิ้วและรู้สึกสั่นไหวในใจเล็กน้อย
หยุนชางซ่อนตัวอยู่ที่มุมกำแพงแล้วมองดูอยู่นาน จากนั้นจึงหันไปส่งสายตากับฉินยีและเฉี่ยนจั๋ว แล้วก็หันหลังเดินกลับไปที่ลานบ้านของตน นางรู้สึกขึ้นมาทันใดว่า การพาท่านฮูหยินจ้าวมาที่นี่เป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
เช้าของวันที่สองเซี่ยหวนอวี่จึงเข้ามาในลานบ้านอีกครั้ง เขากินอาหารเช้าไปอย่างเงียบๆ แล้วนั่งอยู่บนเบาะของลานบ้านเอย่างเงียบๆ มาทั้งเช้า จากนั้นก็นั่งต่อไปอีกทั้งบ่ายจนถึงเย็น
เมื่อตกค่ำ เซี่ยหวนอวี่จึงเงยหน้ามองไปที่หยุนชางที่จ้องมองเซี่ยหวนอวี่เป็นครั้งคราว สีหน้าของเขากลับไปเป็นเซี่ยหวนอวี่คนเดิมที่หยุนชางคุ้นเคย เป็นเซี่ยหวนอวี่สงบ
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เซี่ยหวนอวี่ก็เอ่ยปากพูดอย่างช้าๆ แต่กลับมีความมุ่งมั่นที่ทำให้ผู้คนไม่สามารถเพิกเฉยได้ " เจิ้นจะกลับเมืองจิ่นในเช้าวันพรุ่ง"
หยุนชางผงะไปครู่หนึ่ง แต่ได้ยินเขาพูดกับตัวเองว่า " การกลับไปในครั้งนี้ต้องใช้เวลากว่าครึ่งเดือน ราชกินในพระราชวังคงกองเป็นภูเขาก้อนโตแล้วล่ะ"
หยุนชางจ้องไปที่เซี่ยหวนอวี่อย่างมึนงง ไม่คาดคิดว่าเขาไม่คิดรับฮวาฮองเฮากลับพระราชวัง?
ในขณะที่หยุนชางคาดเดาอย่างเงียบๆ เซี่ยหวนอวี่เอ่ยปากกล่าวอีกว่า "ตอนนี้ในวังมีเรื่องวุ่นวาย เจ้าบอกกับนางว่า ให้นางรอข้าครู่เดียว ซึ่งไม่นานนักหรอก หลังจากที่ข้าจัดการเรื่องในพระราชวังเรียบร้อยแล้ว ข้าจะรับนางกลับไป"
หยุนชางตกใจอย่างกะทันหันและมองไปที่เซี่ยหวนอวี่ด้วยความเหลือเชื่อ
เขาหมายความว่า……
เซี่ยหวนอวี่มิได้อธิบายกระไรมากไปกว่านี้ จากนั้นเขาก็ออกจากลานบ้านไป หยุนชางเร่งสั่งให้สายลับตามเขาไปอย่างลับๆ
ในเช้าวันที่สอง สายลับจึงกลับมารายงานว่า "เมื่อวานนี้ฝ่าบาทเสด็จไปยืนอยู่หน้าลานบ้านนั้นทั้งคืนขอรับ และวันนี้ก็ออกจากเมืองไปแต่เช้า ดูเหมือนว่าจะเสด็จกลับเมืองจิ่นไปแล้วขอรับ"
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หยุนชางก็ยืนขึ้นและเดินตรงไปที่ลานบ้านที่ท่านฮูหยินจ้าวอาศัยอยู่
ท่านฮูหยินจ้าวกำลังยกเก้าอี้พิงมาวาง และกำลังนั่งดื่มชาอยู่ที่ลานบ้าน นางมองไปที่จ้าวอิงเจี๋ยที่กำลังฝึกวรยุทธ์อยู่ด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อเห็นว่าหยุนชางเดินเข้าลายบ้านมา นางก็เอามือตบๆ ไปที่เก้าอี้ข้างๆ ตน
หยุนชางเดินไปนั่งข้างๆ ท่านฮูหยินจ้าว ผ่านไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยปากว่า "ฝ่าบาทเสด็จกลับเมืองจิ่นแล้ว"
ท่านฮูหยินจ้าวดูเหมือนจะไม่ตกตะลึงเท่าไหร่นัก นางพยักหน้าด้วยสีหน้าที่เฉยเมย แต่มิได้กล่าวกระไร
จ้าวอิงเจี๋ยซ้อมวิชาการต่อสู้จบไปหนึ่งบทแล้ว หน้าผากและใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ท่านฮูหยินยิ้มและส่งผ้าเช็ดหน้าให้จ้าวอิงเจี๋ย และกล่าวต่อจ้าวอิงเจี๋ยว่า "เจ้าไปอาบน้ำก่อนเถิด เหงื่อเต็มตัวเลย"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง