วันนั้นหยุนชางไม่เข้าใจเล็กน้อยว่ามือสังหารเหล่านั้นควรจะมาถึงเมืองหลิงซีไม่นาน คุ้นเคยกับโครงสร้างจวนเจ้าเมืองก็ยังไม่เท่าไหร่ แต่เหตุใดจึงรู้ได้ว่าหยุนชางและคนอื่นๆ อาศัยอยู่ที่ใดและรีบไปหาพวกเขา
ต่อมาหยุนชางคิดอยู่นานก่อนจะครุ่นคิดถึงเบาะแสบางอย่างขึ้นมาได้ เนื่องจากวันนั้นมีลมพัด หลังจากที่ฟ้ามืดลงแล้ว จางฮูหยินเคยมาเพื่อเปลี่ยนโป๊ะโคมหญิงงามเป็นโป๊ะตะเกียงแก้ว
ตามหลักแล้วเรื่องนี้ไม่จำเป็นที่จางฮูหยินจะต้องมาทำด้วยตนเอง เพียงให้สาวใช้มาทำก็พอแล้ว
หยุนชางจึงเดาว่าคนร้ายนั้นคงเข้ามาทางจางฮูหยินและขอให้นางพามือสังหารมาดูเส้นทาง มือสังหารเพียงต้องแสร้งปลอมตัวเป็นสาวใช้ของจางฮูหยินก็จะไม่ถูกผู้ใดจับได้
หยุนชางจึงเกิดความสงสัยขึ้นในใจ นางจึงรีบให้คนไปตรวจสอบจางฮูหยิน
หลังจากการตรวจสอบโดยสายลับ หยุนชางก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติกับลูกของจางฮูหยินและสามีเก่าของนาง ได้ยินมาว่า เพราะเด็กคนนั้นอยู่กับอดีตสามีของจางฮูหยินซึ่งเป็นคนใช้ความรุนแรง มักจะทุบตีและดุด่าเด็กอยู่บ่อยๆ แต่เด็กผู้นั้นกลับเชื่อฟังไม่น้อย เขามักจะเลี้ยงวัวอยู่รอบๆ แต่ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมาเพื่อนบ้านรอบๆ ไม่ได้เห็นเด็กคนนั้นอีก หยุนชางจึงเข้าใจแล้วว่าเด็กนั่นคงจะถูกคนจับตัวไปแล้วมาข่มขู่จางฮูหยิน
ด้วยเหตุนี้หยุนชางจึงสั่งให้ผู้คนจับสังเกตจางฮูหยินมากขึ้นและสั่งให้คนไปแอบสืบว่าลูกของจางฮูหยินอยู่ที่ไหน
เมื่อวานยามที่จางฮูหยินเสนอให้ออกจากจวนไปเที่ยวให้เทศกาลหญิงสาว หยุนชางก็เตรียมการรับมือไว้แล้ว จางฮูหยินคงจะรู้ฐานะของจ้าวฮูหยินอยู่แล้วและรู้ว่าก่อนหน้านี้พวกนางมีคนมาลอบสังหารในจวนหลายครั้งอีกด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วกลับเสนอให้ออกจากจวน ช่างดูมีเงื่อนงำเกินไปแล้ว
หยุนชางและหนิงเชียนสบตากันและตัดสินใจพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย ใช้แผนซ้อนแผน
เพียงแต่ที่จางฮูหยินทำเช่นนี้ย่อมต้องได้รับคำสั่งมาจากซูหรูจี ไม่แน่ว่าบางทีซูหรูจีอาจจะเริ่มลงมือแล้ว
ข้อเท็จจริงพิสูจน์ว่าการคาดเดาของหยุนชางนั้นถูกต้อง ทุกอย่างอยู่ภายใต้กำมือของนาง ยกเว้นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันของเซี่ยหวนอวี่ที่เกือบจะทำลายแผนของนาง ทำให้นางต้องบอกความจริงออกมาก่อนเวลา
หยุนชางนึกถึงท่าทางเมื่อครู่ที่เซี่ยหวนอวี่เห็นหนิงเชียนที่ปลอมตัวเป็นฮวาฮองเฮาตกลงไปจากหน้าผาก็ได้แต่ถอนหายใจ ถ้านางไม่ตะโกนออกไปแบบนั้น เซี่ยหวนอวี่คงจะกระโดดลงไปอย่างไม่ต้องสงสัย
หยุนชางเหลือบมองเซี่ยหวนอวี่ แต่กลับเห็นเขามีสีหน้ามึนงงเล็กน้อยราวกับว่ายังไม่ได้สติกลับคืน
สีหน้าของซูหรูจีซีดเผือด นางเงยหน้าขึ้นหัวเราะ เพราะฝ่ามือเมื่อครู่ของเซี่ยหวนอวี่ทำให้ตอนนี้นางดูน่าอดสูเล็กน้อย มือสังหารรอบด้านที่นางพามาด้วยแทบจะถูกจัดการโดยสายลับของหยุนชางและคนของเซี่ยหวนอวี่จนหมดแล้ว ผู้ที่ยังยิ่งยโสอยู่เมื่อครู่กลับกลายเป็นแบบนี้ในชั่วพริบตา
"ดี" ซูหรูจียิ้มอย่างเย็นชา "กลยุทธ์ดีนัก เป็นกลยุทธ์ที่ดีนัก พระชายารุ่ยอ๋อง สุดท้ายข้าก็ประมาทเจ้าเกินไป คราวหน้าข้าต้องไปสูญเสียเช่นนี้แน่"
"คราวหน้า?" หยุนชางกระตุกยิ้มมุมปาก ยังจะมีคราวหน้าได้อีกหรือ
ซูหรูจีอดทนต่อความเจ็บปวดแสนสาหัสและค่อยๆ ยืนขึ้นช้าๆ ดวงตาของนางจับจ้องไปที่ร่างของเซี่ยหวนอวี่ ผ่านไปครู่ใหญ่จึงเอ่ยว่า "เซี่ยหวนอวี่ ข้าขอสาปแช่งท่าน ให้หมดสิ้นทายาทและไม่ตายดี" ว่าแล้วนางก็พลันยกมือขึ้นจับแขนของซูฉีและพุ่งไปที่หน้าผาอย่างรวดเร็ว
หยุนชางตกใจ เมื่อนางรู้สึกตัวอีกครั้ง บนยอดเขาก็ไม่มีเงาร่างของพวกเขาทั้งสองนานแล้ว
ซูหรูจีมีวิทยายุทธ์งั้นหรือ? มิน่าล่ะ เมื่อครู่ที่นางรับฝ่ามืออันทรงพลังจากเซี่ยหวนอวี่แล้วกลับยังมีแรงพูด หยุนชางรีบเดินไปที่หน้าผาอย่างรวดเร็ว นางขมวดคิ้วมองลงไปกลับคล้ายจะเห็นว่าเงาร่างของซูหรูจีค่อยๆ เล็กลง หยุนชางเหมือนจะเห็นว่ามุมปากของนางประดับด้วยรอยยิ้มเย้ยหยันจางๆ
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างทั้งสองก็ตกลงไปในก้อนเมฆและหายไป
หยุนชางตกใจเล็กน้อย แต่เซี่ยหวนอวี่กลับเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเย็นชา "ทหาร ไปสำรวจก้นเหว แม้ตายก็ต้องเห็นศพ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง