ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง นิยาย บท 805

แม่บ้านคนดังกล่าวรีบตอบกลับไปว่า "หม่อมฉันได้ไปสอบถามมาจากเถ้าแก่ร้านธัญพืชดูแล้ว พวกเขาบอกว่าช่วงนี้กิจการดีมาก ขายธัญพืชกันจนสินค้าขาดตลาดเพคะ ธัญพืชในเมืองจิ่นมีเหลือจำนวนไม่มาก ราคาจึงพุ่งสูงขึ้นเพคะ"

หยุนชางหรี่ตา กิจการดีมาก เมืองแต่ละเมือง จำนวนประชากรส่วนใหญ่ก็มักจะคงที่ ปริมาณการบริโภคธัญพืช น้ำมัน หรือสินค้าประเภทนี้ก็มักจะคงที่ และช่วงนี้ก็มิได้มีเหตุการณ์สำคัญอะไร เป็นไปไม่ได้ที่จะกำหนดราคาขายไว้สูงลิบ จะต้องมีอะไรผิดปกติเป็นแน่ หากเป็นเมืองอื่น หยุนชางก็คงจะไปหาคำตอบว่ามีการซุกซ่อนกองกำลังกันหรือไม่ แต่ที่เมืองจิ่นนั้นไม่เหมือนกัน เนื่องจากเมืองจิ่นเป็นเมืองหลวง ภายในรัศมี 10 ลี้ของเมืองจิ่น มีเจ้าหน้าที่ออกลาดตระเวนกันอย่างหนาแน่น ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตจากเซี่ยหวนอวี่เท่านั้น มิเช่นนั้นก็ไม่อาจซุกซ่อนกองกำลังได้

แต่ว่าเพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ไปได้ล่ะ?

หยุนชางครุ่นคิดอยู่สักพัก แล้วจึงพูดขึ้นมาว่า "เมื่อครู่นี้พวกท่านบอกว่า ช่วงนี้ผู้คนในเมืองจิ่นหายสาบสูญกันไปหลายคน เรื่องราวเป็นอย่างไรหรือ?"

แม่บ้านอีกคนรีบตอบไปว่า "ผู้คนหายตัวไปเยอะจริงๆเพคะ บ้านของหม่อมฉันอยู่ทางทิศตะวันตกของเมือง ที่นั่นถือเป็นเขตที่อยู่อาศัยของคนยากคนจน ช่วงนี้คนในหมู่บ้านของหม่อมฉันค่อยๆหายไปกันทีละคน ทั้งชายและหญิงเพคะ อายุก็ราวๆวัยกลางคนได้ คนในบ้านของพวกเขาก็ไม่ทราบเลยว่าพวกเขาไปไหน ต่างก็สันนิษฐานว่าถูกคนจับตัวไปเพคะ แต่ก็ไม่เข้าใจว่า พวกเขาก็ไม่ใช่คนมั่งมีอะไร ถึงจะจับตัวไปก็หาได้มีประโยชน์ไม่เพคะ"

"ได้ไปแจ้งเจ้าหน้าที่แล้วหรือยัง?" หยุนชางเอ่ยถาม

"แจ้งแล้วเพคะ เกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาเกือบ 1 เดือนแล้ว การแจ้งเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งไปเกือบ 1 เดือนแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังไร้ซึ่งความคืบหน้า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาตรวจสอบดูแล้วก็ไม่พบร่องรอยอะไร พวกเขาได้แต่เพียงนำเรื่องรายงานไปสู่เบื้องบนอีกทีหนึ่ง โดยแจ้งไปยังกรมมหาดไทย กรมมหาดไทยจึงได้สั่งให้ปิดประตูเมือง ให้ออกได้แต่เข้าไม่ได้เพคะ" แม่บ้านกล่าว

หยุนชางขมวดคิ้ว นางส่ายหน้า ไม่ถูกสิ เกิดเหตุคนหายภายในเมืองมากมายถึงเพียงนี้ ศาลาว่าการได้รายงานขึ้นสู่เบื้องบน นอกจากจะมีกรมมหาดไทยดูแลรับผิดชอบแล้ว ก็ควรจะมีกรมอาญาอีกด้วย แต่หยุนชางกลับยังไม่ได้รับรายงานข่าวใดๆจากหลี่เฉี่ยนโม่ และภายหลังจากที่ผู้คนหายตัวไป ตามหลักแล้ว เมื่อสั่งปิดประตูเมืองแล้ว ก็ควรจะให้เข้าได้แต่ห้ามออกเสียมากกว่า หาใช่การให้ออกแต่ห้ามเข้า เช่นนี้จึงจะเป็นการสกัดกั้นมิให้คนร้ายที่จับตัวผู้คนได้หนีออกไปด้านนอกเมือง

หยุนชางหันมามองฉินยี "รองเจ้ากรมมหาดไทยคือใคร?"

ฉินยีตอบกลับไปว่า "รองเจ้ากรมมหาดไทยแซ่เฉียน ชื่อว่าเฉียนหรู่จวิ้นเพคะ"

หยุนชางพยักหน้า นางนึกขึ้นได้ว่า ปีใหม่ปีนี้ รองเจ้ากรมมหาดไทยก็ได้มาคารวะถึงที่บ้าน แต่ว่าตอนนั้น เนื่องจากอ๋องเจ็ดได้พาคนมาตรวจสอบหลิ่วฉูฉู่ นางจึงไม่มีโอกาสได้สังเกตใต้เท้าเฉียนผู้นี้มากนัก ตอนนี้เมื่อมาคิดดูแล้ว ก็เริ่มจะจำหน้าตาของเขาไม่ได้แล้วเหมือนกัน

หยุนชางพยักหน้าเบาๆ เรื่องนี้ยังไม่ใช่เรื่องที่นางจะต้องมาเป็นกังวลในตอนนี้ รอให้ลั่วชิงเหยียนกลับจากจวนเสียก่อน ค่อยไปสอบถามเขาอีกทีก็ได้

หยุนชางคิด นางไม่ต้องการเสียพลังให้กับเรื่องนี้ต่อหน้าเหล่าแม่บ้าน นางจึงเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา "ในเมื่อข้าวสาร แป้ง ธัญพืช น้ำมัน ผักต่างก็พากันขึ้นราคา เช่นนั้นก็ให้ทำตามที่ท่านพูดก็แล้วกัน ให้คนนำผลผลิตจากไร่นาส่งเข้ามาในจวน จะได้ไม่ต้องสิ้นเปลือง แต่ว่าผู้ที่อยู่นอกเมืองในตอนนี้ไม่อาจเข้ามาในเมืองได้ ท่านจงส่งคนไปดูสถานการณ์ที่ประตูเมืองทุกวัน ส่วนข้าจะส่งคนไปนัดแนะกับทหารที่เฝ้าประตูเอง"

แม่บ้านรีบรับคำ แล้วถอยหลังกลับไปยืนอยู่อีกด้าน แม่บ้านคนถัดไปก็ได้รายงานว่า "ก่อนหน้านี้ เรือนหลังนั้นของพระชายาที่ถูกไฟเผาไป ท่านอ๋องทรงสั่งให้คนมาซ่อมแซมแล้วเพคะ ตอนนี้ก็ใกล้จะแล้วเสร็จแล้ว หม่อมฉันเห็นว่าข้าวของเครื่องใช้ในเรือนควรจะเตรียมพร้อมได้แล้ว หม่อมฉันจึงได้ร่างรายการสิ่งของที่จะนำเข้าไปในเรือนหลังใหม่มาถวายให้พระชายา เชิญทอดพระเนตรดูก่อนนะเพคะ ว่ามีตรงไหนที่ต้องเพิ่มหรือลดลงบ้างเพคะ"

หยุนชางรับมา นางเปิดดูอย่างละเอียด แล้วหยิบพู่กันที่อยู่ข้างๆมาทำการขีดเขียนเล็กน้อย พลางพูดว่า "นำแจกันสองหูจับไปไว้ที่ทางเข้าไม่ค่อยสวยงามเท่าไร เปลี่ยนเป็นเครื่องลายครามจะดีกว่า! ห้องบรรทมไม่ได้ใหญ่มากนัก ฉากกันลม 8 ฉากดูจะเต็มห้องเกินไป ใช้ 6 ฉากก็พอแล้ว ภาพวาดบนฉากให้เป็นภาพฝูงม้าวิ่งทะยาน ท่านอ๋องทรงโปรดกลิ่นอำพันทะเล ซื้อมาใส่ในเรือนเยอะๆหน่อย ข้าวของอย่างอื่น ข้าจะขีดทิ้งไปบางส่วน......"

เมื่อพูดจบก็ขีดเขียนลงไปบนใบรายการอีกครั้ง สิ่งที่ไม่จำเป็นก็ตัดออก แล้วจึงส่งคืนให้แม่บ้าน

เมื่อเหล่าแม่บ้านกราบทูลและหารือทุกอย่างเสร็จ ท้องฟ้าก็บอกเวลาพลบค่ำพอดี

หยุนชางสั่งให้ทุกคนกลับออกไปได้ แล้วจึงบอกให้ฉินยีไปเตรียมเครื่องเสวยมื้อเย็น เมื่อมื้อเย็นพร้อมแล้ว ลั่วชิงเหยียนก็กลับมาถึงจวน หยุนชางเห็นว่าเขามีท่าทางเหนื่อยล้าเช่นเมื่อวาน จึงรีบรินน้ำชาไปให้

"เครื่องเสวยเตรียมพร้อมแล้ว วันนี้มีปลานึ่งดอกกุ้ยฮวาที่ท่านชอบด้วยนะเพคะ ช่วงนี้ท่านอ๋องต้องทรงงานอย่างเหน็ดเหนื่อย ต้องเสวยเยอะๆนะเพคะ" หยุนชางยิ้ม

ลั่วชิงเหยียนพยักหน้า พลางมองดูหยุนชางด้วยสายตาที่อ่อนโยน

"วันนี้ชางเอ๋อร์ได้ทำอะไรไปบ้าง?" ลั่วชิงเหยียนจิบน้ำชา แล้ววางถ้วยน้ำชาลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงหันไปถามหยุนชางพร้อมกับส่งยิ้ม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฟีนิกซ์นิพพาน-การแก้แค้นของเจ้าหญิง