ฉันไม่มองเขา กลัวว่าตัวเองจะอดไม่ได้ที่จะทะเลาะกับเขา
คาดไม่ถึงว่าลู่จือสิงจะไม่ทะเลาะกับฉัน เขาถูกฉันลากไปยังบริเวณที่ลงทะเบียน
วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น วันนี้มีคนจำนวนมากอยู่ในโรงพยาบาล ฉันนึกถึงความร้อนที่มาจากข้อมือของเขาในตอนที่ฉันลากเขามา ภายในใจของฉันนั้นรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
ฉันหันกลับไปมองเขาและหาที่นั่ง "คุณนั่งก่อน ฉันจะไปลงทะเบียนให้"
เขาจ้องมองฉัน ฉันคิดว่าเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ฉันรอเขาพูดอยู่ครู่หนึ่งและสุดท้ายเขาก็ไม่พูดอะไร ฉันก็ไม่สนใจเขา เดินไปเข้าแถวเพื่อลงทะเบียน
แถวต่อคิวนั้นยาวมาก ฉันยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน ฉันอดไม่ได้ที่จะหันไปมองลู่จือสิงที่นั่งพักอยู่ตรงเก้าอี้แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเขาเองก็กำลังมองฉันอยู่เช่นกัน
ดวงตาสีดำคู่นั้นที่ไม่อาจหยั่งรู้อะไรได้ ภายในดวงตานั้นเป็นอารมณ์ที่ฉันไม่สามารถคาดเดาได้เลย
ฉันผงะไปชั่วขณะและละสายตาออกจากเขา แต่ภายในสมองของฉันกลับเต็มไปด้วยภาพใบหน้าของเขาที่ฉันเพิ่งเห็นเมื่อครู่
จริงๆเลย ความเจ็บปวดที่ไม่เคยมีมาก่อน
เวลาผ่านไปเกือบ20นาทีฉันนั้นเพิ่งจะได้ลงทะเบียน
เนื่องจากลู่จือสิงมีไข้สูงเกินไปฉันลงทะเบียนไปว่าเขาเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตามอาจเป็นเพราะวันนี้ลู่จือสิงโชคไม่ดีนัก ห้องฉุกเฉินนั้นมีคนมากมายกำลังรอคอยอยู่เช่นกัน
ฉันก้มศีรษะลงไปมองลู่จือสิง เขายังคงอยู่ในชุดสูทสีดำตัวเดิมที่มีเสื้อแจ็คเก็ตขนสัตว์สีน้ำเงินกรมท่าสวมทับด้านนอกซึ่งทำให้เขาดูเหมือนคุณชายรัชทายาท แต่ใบหน้าเขานั้นซีดเซียวเป็นอย่างมาก
ดูเหมือนว่าลู่จือสิงจะมีไข้อย่างรุนแรง แม้แต่ดวงตาที่แข็งกร้าวของเขานั้นก็ดูอ่อนแรงลง
ฉันยืนอยู่ตรงหน้าเขา จ้องมองคนที่เข้าแถวในห้องฉุกเฉิน เพื่อเลี่ยงไม่ให้มีใครเข้ามาแซงคิว
ต้องรออีกประมาณ 10 นาทีกว่าจะถึงคิวของลู่จือสิง เมื่อได้ยินหมอเรียกชื่อของเขา ฉันจึงรีบคว้ามือของเขา "ลู่จือสิง ถึงคิวคุณแล้ว"
เขาเงยหน้าขึ้นมองฉันก่อนจะลุกขึ้น แต่กลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะเซจนแทบล้ม ฉันเอื้อมมือไปจับเขาโดยไม่รู้ตัวและเขาก็ได้เอนร่างกายไว้ที่ฉัน
ฉันตกตะลึงไปชั่วครู่ "ลู่จือสิง คุณ---"
"ปวดหัว"
เขาขยับตัวเล็กน้อยและร่างกายเขายังคงพิงฉันอยู่
ฉันเม้มริมฝีปากและรู้สึกว่าตัวเองไม่ควรคิดจุกจิกจู้จี้กับคนป่วย
เมื่อเข้าไปใกล้ ฉันก็ได้กลิ่นบุหรี่และแอลกอฮอล์จางๆบนร่างกายของเขา ฉันนึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของหลี่จื้อและอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
เขาคนนี้ ทำงานอย่างไม่คิดถึงชีวิต อาการไข้รุนแรงขนาดนี้ เขายังคงไปทำงานคบค้าสมาคมธุรกิจอยู่อีก
ในขณะที่ประคองเขาเข้ามา หมอก็เหลือบมองฉัน "สามีของคุณเป็นอะไร?"
"หมอ----"
"ปวดหัว มีอาการไข้"
ในขณะที่ฉันกำลังจะอธิบาย ลู่จือสิงก็ได้พูดแทรกเข้ามาและไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูด
"ตัวร้อนกี่องศา?"
"ยังไม่วัดอุณหภูมิเลย"
เขาหมดเรี่ยวหมดแรง เดิมทีฉันอยากจะผลักหัวเขาออกไปจากเอวของฉัน แต่เมื่อมองสภาพเขาที่เป็นเช่นนี้แล้วสุดท้ายก็ต้องอดกลั้นเอาไว้
"งั้นคุณไปวัดไข้ก่อน ให้ภรรยาคุณประคองคุณไปทางด้านนั้น"
หมอยังยืนยันในความสัมพันธ์ของฉันและลู่จือสิง ฉันเองก็ขี้เกียจที่จะอธิบาย ฉันประคองเขาไปทางด้านที่คุณหมอบอกและรอวัดไข้
สิบนาทีหลังจากนั้น
"39องศา ตัวร้อนมาก"
ลู่จือสิงไม่กล่าวอะไร ฉันคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวเพิ่มเติม "เขาดื่มเบียร์มาด้วยนิดหน่อย"
"เอาเป็นว่าให้น้ำเกลือสองขวดแล้วก็รับยาไป"
ในขณะที่กล่าว หมอก็ได้ยื่นบัตรให้กับฉันและเรียกคนถัดไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หากได้พบเจออีก ฉันอาจจะลืมเธอได้